หญิงสาวพยายามใส่ใจและโฟกัสงานตรงหน้า มีผ้าหลายชนิดที่เธอนำเสนอ หากชายหนุ่มชอบเขาก็จะพยักหน้ารับ...ขั้นตอนการเลือกผ้าพิถีพิถันจนสีดายังทึ่ง เขาจริงจังก็เป็น ไม่ได้ขี้เล่นเป็นแค่อย่างเดียว เธออาจจะมองเขาผิดไปก็ได้ เมื่อลุคหนุ่มจอมเจ้าชู้บังตา...เขาไม่ได้ฟลุคเพราะโชคช่วย เขาก็มีฝีมือเหมือนกัน
“อืม...นางแบบปีนี้ขอผิวผ่องๆ นะ...ฉันจะคัดเอง” ชายหนุ่มพูดเหมือนที่ใจคิด แต่อีกคนที่ได้ยินกลับแอบหมั่นไส้ มันเป็นสันดานของผู้ชายที่ชอบมองแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ แต่...ทศกัณฐ์ไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดถึงวันที่ได้ยลโฉมของสีดา ผิวเธอสวยเนียนละเอียดจนไม่มีผิวของผู้ใดในโลกนี้สวยเท่า เขาคิดแค่ว่า...หากอยากให้ชุดชั้นในโดดเด่นก็ต้องใช้นางแบบที่มีผิวผ่องนวลลออ แค่นั้นเอง...
วานรเหลือบเห็นสายตาของสีดาที่ตวัดใส่เจ้านายเข้าพอดี เขาแอบลุ้นให้สีดาสนใจเจ้านายแทนคุณพระราม จริงอยู่ว่ารูปลักษณ์ภายนอก พระรามดูเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ในขณะที่ทศกัณฐ์เจ้านายดูเถื่อนถ่อยหากมายืนเทียบกันแล้วอาจจะหลงกลจากการมองด้วยดวงตา ในความเป็นจริงเท่าที่สัมผัสด้วยตัวเอง เจ้านายเขามีภาษีกว่าพระรามเยอะ เมื่อชายหนุ่มที่ดูเรียบร้อยกลับเต็มไปด้วยความลึกลับ...เหมือนเขามีอะไรซ่อนอยู่ในใจมากมาย มากกว่าที่แสดงออกมาให้ทุกคนเห็น มันเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง ตลบตะแลงและไม่จริงใจ ถึงเจ้านายของเขาจะโผงผาง แต่ทศกัณฐ์คิดอย่างไรก็โพล่งออกมาแบบนั้น เขาไม่มีนอกมีใน ไม่มีเล่ห์กล ยกเว้นหากสิ่งสิ่งนั้นเขาจะต้องเชือดเฉือนหรือต่อสู้กับน้องชายต่างแม่ มันต้องมีเกม ต้องมีเล่ห์กันบ้าง
ยิ่งนานยิ่งเย็นเฉียบ แม้จะมีสูทตัวหนาๆ คลุมตัว แต่มันก็ทำให้คนที่ไม่ชินกับอากาศหนาวเท่าไร รู้สึกไม่สบายตัว
ทศกัณฐ์เหลือบมองสีดาบ่อยๆ งานรุดหน้าไปได้มากกว่าที่คิดไว้...เขาคิดว่ามันน่าจะเพียงพอสำหรับวันนี้
“เลิกงานยัง เมื่อยแล้ว?” แต่ละคนที่นั่งทำงานอยู่รู้สึกเหมือนโดนสะกด คนที่บ้างานเข้าขั้นอย่างบิ้กบอส!! ถามหาเวลาเลิกไม่พอ ยังบ่นว่าเมื่อยเสียอีก...เกิดอะไรขึ้น? เพราะหากเป็นเมื่อก่อน งานไม่เสร็จตามที่เจ้าตัวต้องการ อย่าหวังว่าจะได้ขยับก้นออกไปจากเก้าอี้...พ่อเคี่ยวเข็ญจนทุกคนยอมแพ้ วันนี้มาแปลก มันแปลกตั้งแต่มีผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาในเบอร์นาร์ดแล้ว ผู้หญิงที่ใครๆ ก็รู้ว่าหัวหอกของเบอร์นาร์ดตีตราจอง
“ค่ะๆ เลิกค่ะเลิก” เสียงรวบเก็บแฟ้มดังกราว พร้อมกับที่ทุกคนรีบเดินตบเท้าออกไปจากห้องประชุม โดยที่สีดาได้แต่อึ้งๆ บทจะเร่งรีบก็รีบเสียจนเธอตามแทบไม่ทัน บทจะเลิก ก็เลิกเอาดื้อๆ
ก็ดีเหมือนกัน เธอหนาวแทบจะกลายร่างเป็นก้อนน้ำแข็ง มาเจออากาศหนาวเย็นแบบนี้ คิดถึงอากาศร้อนๆ ที่เมืองไทยชะมัด แค่อยู่คนละซีกโลก...ไม่คิดว่าอากาศรอบตัวจะต่างกันสุดขั้ว
“ไปคุยกับฉันต่อที่ห้องทำงานนะคุณ...มีอะไรอยากจะถามนิดหน่อย” เสียงพูดลอยๆ ของชายหนุ่ม ทำให้สีดาที่กำลังมึนเพราะความหนาว จำต้องตื่นตัวตาม เธอเดินตามเขาไปห่างๆ ได้เดินยืดเส้นยืดสายบ้าง ค่อยยังชั่ว
บรรยากาศในห้องทำงานท่านประธานใหญ่ อึมครึมน่าเกรงขามสมกับตำแหน่งใหญ่โต เธอรีบเดินไปนั่งตัวลีบ...วางมือไว้เหนือหน้าตัก
“เอ้า...เอามือมาอังซะ ดื่มไอ้นี่สักนิด เดี๋ยวจะแย่เอา” แก้วเครื่องดื่มควันกรุ่น ถูกวางลงตรงหน้าเธอ น้ำเสียงที่ใช้ก็เหมือนขู่บังคับมากกว่าปรารถนาดี
สีดาเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นแก้วเครื่องดื่มร้อนๆ วางอยู่ตรงหน้า ไอร้อนลอยกรุ่นเขาคงต้องการให้เธอดีขึ้น เมื่ออากาศในห้องประชุมเย็นเฉียบจับขั้วหัวใจ หนาวเสียจนเล็บเขียว เธอยื่นมือไปจับผิวแก้ว ความร้อนแผ่ซ่านทำให้ร่างกายที่ใกล้จะแข็งรู้สึกดีขึ้น...หญิงสาวอมยิ้ม... บางอย่างมองด้วยตาเปล่า ไม่เท่ากับสัมผัสด้วยตัวเอง ยิ่งนานวันเธอยิ่งรู้สึกกับผู้ชายแข็งๆ คนนี้เปลี่ยนไป ในความเถื่อน ห้าว และเจ้าเล่ห์ เขามีข้อดีมากมายที่เธอต้องยอมรับ แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เขาก็เก็บมาใส่ใจ ทั้งๆ ที่เขาจะไม่สนใจก็ได้ เมื่อเธอเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดาน ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย
สีดาคิดผิด...เธอเข้าใจว่าตัวเองไม่มีความหมายใดใดกับทศกัณฐ์ ในความเป็นจริง เธอสำคัญเกินกว่าที่ใครๆ จะคาดถึง
“ขอบคุณค่ะ”
“เปลี่ยนเป็นทานมื้อเย็นด้วยกันสักมื้อดีไหม? เธอน่ะชอบไปเดินตามที่เปลี่ยวๆ วันไหนถูกฉุดไป ฉันก็ไม่มีคนคิดงานให้สิ” ชายหนุ่มพูดเหมือนสีดาเป็นคนโง่เง่าชอบทำให้ตัวเองเดือดร้อน ทั้งที่ความจริงตัวเองเป็นห่วงหล่อนแทบตาย แต่จะให้พูดดีๆ กลับทำไม่เป็น
“ไม่ได้ชอบค่ะ แค่หิว” หญิงสาวตอกกลับเสียงขุ่น เธอชอบที่จะไปตระเวนยามราตรีเสียที่ไหน ก็คนหิวเลยต้องไปหาอะไรทานแค่นั้นเอง
“รู้แล้ว ถึงชวนนี่ไง!! ผู้หญิงคนเดียว ผอมแห้งแรงไม่มี ถูกฉุดไปจะทำมิดีมิร้าย น่าเสียดายแย่”
สรุปเขาต้องการว่าหรือต้องการชม คำพูดของเขาฟังแปลกๆ เธอขมวดคิ้ว พร้อมกับแอบเบ้ปาก
วานรแอบส่ายศีรษะ ทักษะการจีบสาวของเจ้านายถอยหลังตกคูคลองหรืออย่างไรกัน ทำไมคำพูดที่หลุดรอดออกมาให้ได้ยินนั่น ถึงฟังแปลกๆ ตกลงเจ้านายต้องการจีบคุณสีดาจริงๆ หรือไม่ แล้วทำไมถึงได้พูดจาแบบนั้น หากเขาเป็นคุณสีดา เธอจะยอมตกลงไหม? ละนั่น เมื่อคำชวน ทั้งห้วนห้าวแล้วก็หาความนุ่มนวลไม่มี
“ต่อไปฉันจะระวังตัวค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะ งานที่คุณต้องการคุยด้วย”
“เปล่า เรื่องงานยังไม่ได้คุยเลย... แต่เรื่องชวนไปทานข้าวนี่เอาจริง หุ่นแบบเธอคงต้องขุนอีกเยอะ ผอมๆ บางๆ แทบจะมองไม่เห็นสัดส่วน...แน่ใจนะว่าเป็นผู้หญิง” ชายหนุ่มแหล่ตามอง เขาพูดตรงข้ามกับความจริง เพราะหากชมไปเดี๋ยวแม่จอมดื้อจะเหลิง!!
“คุณ!!” หญิงสาวแอบกัดกระพุ้งแก้ม หมอนี่จงใจยวนเธอชัดๆ เธอมั่นใจในรูปร่างตัวเอง เธอไม่ได้ผอมบางจนไม่มีอะไรโชว์อย่างที่เขาจงใจว่ากระทบ ฉันมีของยะ!! เธอเถียงในใจไม่กล้าปริปากพูด เพราะหากเผลอตัวเมื่อไหร่ เขามักจะตลบหลังให้เธออายได้ทุกที
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูขัดจังหวะ ในระหว่างที่หนุ่มสาวจ้องตากันเหมือนจะฟาดฟันกันทางสายตา ทั้งสองคนหันขวับไปมอง จนคนที่โผล่หน้าเข้ามานึกอยากจะถอยหลังกลับ...
“สวัสดีครับคุณสีดา สวัสดีพี่ชาย” พระรามคือคนคนนั้น เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานของทศกัณฐ์ โดยไม่รอให้เจ้าของห้องเชื้อเชิญ
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ไอ้หมอนี่ยังอยู่...มันอยู่รออะไรอีกล่ะ? เมื่อมันไม่ได้มาหาเรื่อง ที่สำคัญเวลาผ่านไปไม่ใช่น้อย ไม่มีงานไม่มีการทำหรือไง ไหนบริษัทของบิดาออกจะใหญ่โต ทำไมรองประธานกรรมการถึงว่างงาน จนมีเวลามาโต๋เต๋อยู่ข้างนอก โดยเฉพาะที่บริษัทของเขา
“คุณ!!”
“ผมไปทำธุระเสร็จ นึกขึ้นได้ว่าลืมให้ของคุณน่ะครับ เลยย้อนกลับมา จะกลับหรือยังครับคุณสีดา เดี๋ยวผมอาสาไปส่งคุณเอง” พระรามพูดหน้าตาย เขาจงใจอยู่รอสีดาเขาอยากเห็นพี่ชายเต้นเร่าๆ ที่สำคัญหญิงสาวมีบางอย่างน่าสนใจ
“ไม่ต้องหรอกมั้ง...ราม พอดีคุณสีดาของแก มีเดทกับฉันว่ะ...เราจะไปทานมื้อค่ำด้วยกัน”
สีดาหมุนตัวขวับ เธอย้อนกลับไปมองหน้าชายหนุ่มเจ้าของห้อง พร้อมทั้งอ้าปากปฏิเสธพะงาบๆ แบบไม่มีเสียง ไม่อยากพูดโต้งๆ ให้เขาหน้าแหก “ฉัน-ไม่-ไป-กับ-คุณ!!”
“เสีย-ใจ-คน-สวย-เธอต้องไป!!” ชายหนุ่มหมุบหมิบตอบ เขาหันไปถลึงตาใส่น้องชายที่ยืนยิ้มแผล่อยู่ตรงหน้า
“ฉัน-จะ-กลับ-ไป-นอน” หญิงสาวยังไม่ละความพยายาม เธอส่งซิกให้ทศกัณฐ์ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ
“อืม...เราสองคนไม่ได้ทานมื้อค่ำด้วยกันนานเท่าไรแล้วครับนี่ จะเป็นการน่ารังเกียจไหม? หากผมจะขอไปด้วยอีกคน คุณสีดาเห็นว่าไงครับ”