อาร์มันโด้เองก็อยากพัก แต่หากท่านยกทุกอย่างในมือให้พระราม เกรงว่าบริษัทที่สร้างมาจะล่มสลายลงไปนะสิ ถึงได้ยอมเหนื่อยทุกวันนี้ หาก...หากเป็น...เห้อ!! คงเป็นไปไม่ได้หรอก ความผิดของท่านมีมากมาย และคนอย่างทศกัณฐ์ที่แข็งเหมือนชื่อ มีหรือจะยอมช่วย เมื่อเขาไม่เคยชายตาแลสมบัติชิ้นใดก็ตามของท่าน
“อีกพักนะราม...รอให้อยู่ตัวกว่านี้หน่อย” ท่านปัดเรื่องไปไกลๆ ตัว ไม่อยากพูดจาตัดรอนให้บุตรชายเสียกำลังใจ รอให้อาร์มันโด้หาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยหนุนหลังพระรามห่างๆ ได้เมื่อไหร่ ถึงเวลานั้นท่านจะพักเอง
“แด๊ดไปดูงานที่ห้องตัวเองพักนะ โทร. บอกแม่ด้วยล่ะว่าเดี๋ยวอีกพักแด๊ดจะกลับบ้าน”
หากเป็นคนนอกอาจจะสะกิดใจ ผัวเมียทำไมไม่ติดต่อหากันเอง ทำไมต้องให้บุตรชายเป็นคนแจ้ง เพราะหากอาร์มันโด้จะโทรศัพท์หาภรรยาเขาย่อมทำได้ แต่เขาเลือกที่จะให้พระรามติดต่อกลับไปหามารดาเอง...ทำไม? ก็ท่านไม่สามารถติดต่อภรรยาตัวเองได้น่ะสิ ทุกครั้งพระรามจะตามภรรยาสุดรักให้ท่าน...นารีมีพฤติกรรมที่ชวนสงสัย ชายสูงวัยได้แต่ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่ท่านคิดไว้เลย
พระรามส่ายหน้า บิดาให้ตามตัวมารดาให้ แสดงว่าตัวท่านเองก็ไม่สามารถติดต่อนารีได้ ชายหนุ่มเป่าปากพรวดๆ มองตามด้านหลังบิดาไป ดวงตาอ่อนแสงสลดลง และเหนื่อยหน่ายเต็มที
บ่อนเสี่ยซ้ง!!
คนจีนที่ตั้งตัวเป็นจอมอิทธิพลในปารีส ไม่มีใครกว้างขวางเท่ากับทรงพล ในทุกประเทศทั่วโลก มักจะมีชุมชนคนจีนที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่เว้นแม้แต่ฝรั่งเศส ทรงพลเริ่มต้นจากการค้าขาย เขามีหัวคิดฉลาดแกมโกง ไม่นานบ่อนเล็กๆ ก็ถือกำเนิดขึ้น 10ปีให้หลังมันขยายใหญ่แทบพอๆ กับกาสิโนครบวงจร เมื่อมีเงิน มีอำนาจมากพอ จึงใช้เงินปิดหูปิดตาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เขาทำมาหากินโดยการเปิดบ่อนการพนัน มีทุกรูปแบบให้ผีพนันเข้ามาหาความสนุก พร้อมกับการเสี่ยงโชค ใครมือดีเข้ามาก็รวย ใครมือซวยเข้ามาก็ล่มจม...มีคละเคล้ากันไปทั้งรอยยิ้ม และคราบน้ำตา
“เจ้ๆ โทรศัพท์” อาตี๋วัยรุ่นเดินมาสะกิดลูกค้าชั้นดี เมื่อมีคนภายนอกต่อสายเข้ามาหา
นารีสะบัดหน้าฉับ เธอเกือบตวาดกลับ หากไม่เพราะมองเห็นมันพกอาวุธไว้ที่ข้างเอว นางคงด่ากราดไปแล้ว
“ใครล่ะ!! โทร. มาหาห่าอะไรว่ะ ขัดลาภชะมัด มือกำลังขึ้นด้วยสิ” นางบ่นอุบ แต่ก็ยอมวางมือด้วยดี เมื่อแต่ละคนที่นั่งหน้าตูม อยากจะต่อในเกมต่อไป หากนางยังไม่เล่นก็ต้องลุกไปก่อน
“เร็วๆ เจ้ เสี่ยไม่ชอบให้คนนอกโทร. เข้ามา...อยากโดนเสี่ยด่าหรือไงล่ะ”
มันบ่นอุบที่ยอมนารีครั้งนี้เพราะหล่อนเป็นระดับ VIP ลูกค้าที่เอาเงินมาทิ้งให้บ่อนเป็น10 เป็นล้าน
“เออๆ ไปแล้วๆ” หากอาร์มันโด้มาเห็นนารีในตอนนี้ เขาคงไม่อยากเชื่อตาตัวเอง ผู้หญิงที่หน้าฉากๆ อ่อนหวานและเป็นผู้ดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จะกากได้ขนาดนี้ ใบหน้ามันย่อง ผมเผ้าไร้ทรง เพราะคร่ำเคร่งกับการลุ้นไพ่ จนลืมใส่ใจดูแลตัวเอง
สาวใหญ่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นแนบหู นางรู้โดยไม่ต้องเดา คนๆ นั่นน่าจะเป็นบุตรชาย
“มีอะไรราม แม่กำลังยุ่ง!!”
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ เขากรอกเสียงเรียบๆ กลับไป “แด๊ดกลับมาแล้วครับ แม่น่าจะกลับไปรอแด๊ดที่บ้าน แทนที่จะซุกตัวอยู่แต่ในบ่อน”
“แกไม่ต้องมาสอนฉัน แกหาเงินให้ฉันได้หรือยังล่ะราม เหลืออีกแค่วันเดียวเองนะ ฉันกลัวแกหาไม่ได้เลยมาหาทางช่วยแกอยู่นี่ไงล่ะ” นางตวาดกลับเสียงขุ่นแก้ตัวอุบอิบ ให้นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ ไม่ได้ลุ้นไพ่เบื่อตายชัก “เดี๋ยวว่าไงน่ะ แด๊ดแกกลับมาแล้วเหรอ...ตายๆ ดึงไว้ก่อนนะราม...ขอแม่เสริมสวยก่อน ตอนนี้ไม่ไหว แด๊ดเห็นแม่ในสภาพคงตกใจแย่”
นางกรอกเสียงกลับไปร้อนรนพอกับใจ เมื่อมองเห็นตัวเองผ่านกระจกเงา สภาพไม่ผิดกับแม่ค้าตามตลาดสดที่โทรมแล้วก็ทุเรศสุดๆ
พระรามหย่อนโทรศัพท์เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทเหมือนเดิม เขานวดคลึงปลายนิ้วข้างขมับ เหนื่อยจนอยากจะหลับตาแล้วไม่ตื่นขึ้นมาเลย ชีวิตเขาจะหาความสงบสุขได้จากที่ใดได้บ้าง เมื่อมารดาคอยสร้างแต่เรื่องให้ตามเช็ดตามล้าง เขาเหนื่อยบอกตามตรง...
ก๊อกๆ
วานรเคาะประตูเรียกเจ้านาย เขายืนอยู่หน้าประตูห้องสวีท เหลือบมองเวลาที่ข้อมือแล้วจึงรีบเคาะย้ำๆ ไปอีกหลายๆ ครั้ง!!
“รู้แล้ว รู้แล้วโว้ย!! ลุกเดี๋ยวนี้แหละ...เร่งฉิบ!!” ทศกัณฐ์บ่นอุบ เสียงเคาะประตูหนักๆ ปลุกให้คนที่พึ่งหลับเต็มตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย หลังจากเล่นกิจกรรมผาดโผนอย่างหนักมาตลอดทั้งคืนกับแม่สาวทรงสะบึม เนื้อ นม ไข่ ชายหนุ่มสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมสลวยดกดำพร้อมทั้งออกแรงขยี้หนักๆ เพื่อขับไล่ความง่วงงุนที่เกาะกุมอยู่ที่เปลือกตา
ชายหนุ่มยกปลายเท้าขึ้นสะกิดแม่สาวร้อนรักบนเตียง พร้อมทั้งตะโกนเรียกเสียงลั่น
“ตื่นๆ ไปได้แล้ว หมดเวลาของเธอแล้วคนสวย”
“มะ ไหวแล้วนะคะ ลินดาปวดไปหมดทั้งตัว คุณโด๊ปยามาเหรอคะพ่อรูปหล่อ” เสียงครางแผ่วๆ กับอาการผวา เมื่อหล่อนแทบจะโงหัวไม่ขึ้นหลังจากถูกหนุ่มพลังช้างจับพลิกคว่ำพลิกหงายเกือบทั้งคืน
“ลุก!! ออกไปได้แล้ว... ฉันจะออกไปทำงาน หล่อนก็ไสหัวกลับไปเถอะ ค่าตัวฉันวางไว้นี่นะ” ชายหนุ่มเบ้ปาก แววตาฉายแววไม่พอใจ เมื่อหล่อนเหลือแค่ซาก หลังเขาดื่มความหวานจนหมด หล่อนก็หมดประโยชน์เช่นกัน
ปังๆ เสียงกระแทกเท้าหนักๆ ทำให้สาววัยละอ่อนปรือตาขึ้นมอง แม้จะแทบหมดแรงยืน แต่เมื่อเป็นประกาศิตของชายหนุ่ม ดึงดันไป ครั้งต่อไปจะอดเสียเปล่า...เมื่อทศกัณฐ์กระเป๋าหนัก หากเขาหิ้วใครสักคนมาสนองความอยาก...สิ่งตอบแทนคือเงินก้อนโต ในเมื่อชายหนุ่มเป็นพ่อบุญทุ่มตัวเอ้
เธอรีบผุดลุก กระโจนไปคว้ากระดาษแผ่นเท่าฝ่ามือมาถือไว้ หรี่ตามองตัวเลขบนกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะรีบตะครุบมือปิดกั้นเสียงกรี๊ดแทบไม่ทัน...เมื่อจำนวนมันเยอะกว่าที่คาดไว้
“ครั้งต่อไป ลินดายินดีบริการเต็มที่นะคะ... จะให้นั่ง ให้คลาน ให้ทำอะไรได้ทุกอย่าง อย่าลืมลินดานะคร๊าคุณ” เสียงเจ้าหล่อนตะโกนบอก แล้วทุกอย่างก็เงียบสนิท ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาไม่เคยย้อนกลับไปกินอาหารจานเดิม...ครั้งเดียวก็เกินพอสำหรับผู้หญิง1 คน
“บาย!!” ลินดาโบกมือให้วานร เขามองตามบั้นท้ายของหล่อนไปพร้อมกับส่ายศีรษะ ผู้หญิงสมัยนี้ แต่ละคนเหลือที่จะรับได้ แต่งตัวเหมือนเอาชุดชั้นในมาใส่ แถมมีเงินมา ผ้าก็เปิดได้อย่างง่ายดาย ทำตัวไม่ต่างอะไรกับนางกลางเมือง
“มาเรียกห่าอะไรแต่เช้าว่ะไอ้ลิง!! ยังนอนไม่ทันจะเต็มตื่น” เสียงบ่นดังลั่น พร้อมกับประตูห้องสวีทสุดหรูเปิดแง้มออกมา
ทศกัณฐ์ในวันที่อิดโรยสุดๆ ก็ไม่ได้ทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูแย่ลง ชายหนุ่มยังคงงามสง่าน่าเกรงขาม แม้เสื้อผ้าที่ใส่จะยับยู่ยี่ ไม่ต่างอะไรกับผ้าที่ถูกยัดไว้ในซอกตู้
“วันนี้มีพรีเซ้นต์ผ้าไทยครับ” วานรตอบเสียงขรึม
“แล้วไง...ไม่มีฉันสักคน...มันจะเป็นไรไปวะ”
“งานนี้ท่านสั่งไว้เองนะครับ ว่าจะดูทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง...” เสียงแย้งแม้จะเรียบๆ แต่มันเป็นการตำหนิเขาอ้อมๆ ไอ้ลิงนี่นับวันชักจะฉลาดหัวแหลม หลอกด่าเขาได้แบบหน้าซื่อตาใส เดี๋ยวปัด!!
“เออ...ลืม... ไปก็ไปว่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าเพชรนลินจะส่งผ้าแบบไหนมาให้ดู ตัวเขามาเองหรือส่งใครมาล่ะ”
ข้อมูลของคู่ค้า ทศกัณฐ์ผ่านตาและจำได้แม่น เขาเลือกบริษัทของเพชรนลิน เพราะสะดุดตากับคอลเลคชั่นใหม่ๆ ของหล่อนช่วง2-3 ปีหลัง ดูแปลกและเน้นแบบเรียบ แต่กลับเก๋ไก๋สะดุดตา เมื่อนำผ้าพื้นเมืองในประเทศตัวเองมาตัดเย็บได้สวยเลิศล้ำ เขาเคยเห็นสินค้าของเพชรนลินผ่านตา2-3 ครั้งจากแม่พวกสาวๆ ที่สวมใส่มา เนื้อผ้าเรียบ ลวดลายมีเสน่ห์ เขาจึงเจาะจงให้ทางนั้นส่งผ้าตัวอย่างมาให้ดู เขาอยากรู้ว่าเพชรนลินมีกึ๋นมากพอให้ร่วมงานด้วยหรือไม่
“ส่งคนอื่นมาครับ”