เด็กอ้วนคนนี้...เป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ? 4
“แล้วหยุดสองวันจะไปที่ไหนไหม?” พี่ว่านเริ่มชวนคุยอีกครั้งหลังจากเห็นฉันเงียบไป
“คงจะอยู่ห้องค่ะ พี่จะกลับบ้านไหม?”
“ไม่ได้กลับ พี่ไม่ได้หยุดเหมือนเด็กสักหน่อย เดี๋ยวเรียนเสร็จแล้วจะรับไปกินข้าวด้วยกันดีไหม ไปกินกับพี่หวาด้วย” พี่ว่านชวน เพียงแค่ได้ยินว่าจะได้เจอพี่สาวคนโตฉันถึงกับต้องรีบพยักหน้าหงึกหงักอย่างดีใจทันที นานแล้วที่เราไม่ได้กินข้าวด้วยกัน
“ได้เดี๋ยวเรียนเสร็จพี่จะโทร. หา” พี่ว่านย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่มิดเช่นเดียวกัน
ฉันกับพี่ชายใช้เวลาเดินทางสักพักก็มาถึงร้านหมูกระทะขนาดใหญ่ บริเวณลานจอดรถของร้านมีรถของลูกค้าจอดอยู่มากมาย โต๊ะเก้าอี้ภายในร้านถูกจับจองจนเกือบจะเต็มทุกโต๊ะ เมื่อมาถึงร้านพี่ชายก็พาเดินเข้าไปภายในร้านที่มีแม่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน ที่จริงพ่อกับแม่ไม่ได้ทำร้านหมูกระทะเป็นหลักหรอกนะ พ่อฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ฉันเรียกแบบนี้ก็คงจะได้ เพราะท่านสร้างหมู่บ้านจัดสรรก่อนจะปล่อยขาย แล้วก็ยังมีคอนโดฯ และอะพาร์ตเมนต์ของครอบครัวอยู่ด้วย
แต่ร้านหมูกระทะร้านนี้แม่ชอบกินและทำมาตั้งนานแล้ว จากเปิดขายเล่น ๆ แต่ลูกค้าดันชอบท่านเลยเริ่มทำจริงจังมากขึ้นจนถึงตอนนี้นี่แหละ เกือบ ๆ เจ็ดปีได้แล้วแหละมั้ง ฉันเองก็จำระยะเวลาได้ไม่ค่อยแม่นสักเท่าไหร่
“คนสวย! แม่คิดถึงจังเลย” ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์ร้านที่แม่นั่งอยู่ ท่านก็รีบส่งเสียงทักทายก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้กับฉัน
“สวยอะไรกันคะ หนูอ้วนเป็นหมูแบบนี้น่ะ แต่คิดถึงแม่นะคะ” รีบแก้ต่างเมื่อเห็นสายตาของลูกค้าในร้านมองแม่อย่างตลกที่เรียกฉันแบบนั้น ฉันรีบเดินเข้าไปกอดอ้อนแม่เหมือนเด็กน้อย แม่ยกมือประคองแก้มฉันทั้งสองข้างก่อนจะจุ๊บที่แก้มสลับข้างไปมาจนเริ่มรู้สึกจักจี้หลุดเสียงหัวเราะคิกคักออกมาแบบนั้น
“คิดถึงแม่จังเลย” ขยับเข้าใกล้สวมกอดแม่ไว้อย่างออดอ้อน ส่วนพี่ชายของฉันที่เดินเข้ามาที่ร้านด้วยกันตอนนี้เดินไปหยิบแก้วน้ำเทน้ำอัดลมใส่แก้วให้ตัวเองแล้วเรียบร้อย
“แม่ก็คิดถึงหนู แล้วนี่พ่อโทร. หาหรือยังลูก”
“ยังค่ะ นี่พี่หวาก็บอกให้หนูโทร. หาแต่หนูก็ยังไม่ได้โทร. เลยค่ะ” รีบเล่าให้แม่ฟัง พลางขยับนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้พี่พนักงานที่เอาบิลของลูกค้ามาคิดเงิน ฉันทำหน้าที่คิดเงินให้พี่พนักงานก่อนจะรับเงินที่พี่พนักงานอีกคนเอามาส่งให้รวมถึงทอนเงินกลับไป
“ขอน้ำซุปเพิ่มหน่อยค่ะ” เสียงลูกค้าดังจากโต๊ะหนึ่ง ได้ยินแบบนั้นฉันก็ขยับลุกขึ้นเดินไปหยิบเหยือกน้ำซุปแล้วเดินถือกลับไปใกล้ลูกค้าที่ต้องการน้ำซุป เหมือนจะเห็นพี่ชายตัวเองเดินเสิร์ฟของช่วยพนักงานแล้วเช่นเดียวกันนะ
“อ้าวไอ้ว่านมาทำงานพิเศษเหรอวะ?”
“ร้านแม่กูเถอะ ไม่คิดว่าพวกมึงจะมากินที่นี่ ปกติไปร้านหรู ๆ นี่หว่า” เสียงพี่ว่านกำลังพูดคุยกับคนที่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเจ้าตัว
“พวกนี้มันอยากกินน่ะ แล้วนั่นใครวะ?”
“นั่นน้องสาวกูเอง”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ มึงมีน้องสาวเป็นช้างน้ำด้วยเหรอวะ”
“ฮ่า ๆ ๆ นั่นสิว่าน เราว่าน่าอายออกนะ น้องสาวไม่ใช่คนแต่เป็นช้างน้ำ”
“ไอ้พวกเหี้ยนี่! ปากมีก็เอาไว้พูดสิ่งดี ๆ ถ้าพูดเรื่องดีไม่ได้ก็เก็บไว้กินข้าวไอ้เหี้ย” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของพี่ชายทำให้ฉันถึงกับรีบหันหลังกลับไม่กล้ามอง เวลาโมโหพี่ว่านน่ากลัวมากเลย
“อะไรวะ กูแค่หยอก”
“หยอกบ้านมึงสิ คำพูดมึงผ่านสมองไหมหรือไม่มีสมองให้คิด”
“อ้าว!! กูเป็นลูกค้านะมึงพูดหมา ๆ แบบนี้กับกูได้ยังไงวะ”
“แล้วมึงพูดดีตายแหละ ปากมึงนี่พูดดี ๆ ไม่เคยจะได้เลยหรือไง” แต่เพราะน้ำเสียงที่เข้มขึ้นของพี่ว่านทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองก่อนจะรีบเดินเข้าไปใกล้ เพราะกลัวพี่ชายจะมีเรื่อง ลูกค้าคนที่ต่อล้อต่อเถียงกับพี่ว่านตอนนี้ลุกขึ้นยืนชี้หน้าพี่ว่านอย่างไม่พอใจ ลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ ก็มองมาอย่างสนใจเช่นเดียวกัน
“แล้วกูพูดผิดตรงไหน ใคร ๆ ก็เห็นนี่ว่าน้องมึงอ้วนเหมือนช้างน้ำ ฮ่า ๆ ๆ หน้าแม่งสิวก็เยอะ”
“แล้วน้องกูไปทำให้บ้านมึงไฟไหม้เหรอไอ้เหี้ยเอ๊ย!” พี่ว่านตวัดหมัดใส่ใบหน้าผู้ชายคนนั้นเต็มแรงจนอีกฝ่ายล้มลง เสียงร้องตกใจของเพื่อนลูกค้ากลุ่มนั้นดังขึ้นพร้อมกับรีบประคองเพื่อนตัวเองไว้ ส่วนคนที่เป็นผู้ชายก็พุ่งเข้ามาคล้ายจะรุมต่อยพี่ว่าน หากแต่จู่ ๆ ก็มีเงาสูงหลายเงาขยับเข้ามาบดบังฉันไว้ ทำให้ตอนนี้ร่างฉันถูกเจ้าของร่างสูง ๆ นับสี่ร่างยืนบดบังเอาไว้
“กล้าที่จะว่าคนอื่น เธอน่ะผ่านมือหมอมากี่คลินิกแล้วล่ะ? หน้าปลอม ๆ ยังจะกล้าไปว่าคนอื่น ช่างกล้านะยะ!”
“อีนิน!”
“จ้านั่นชื่อกูจ้า ถ้ามึงไม่หยุดว่าน้องพวกกู ดั้งมึงหักแน่”
“ไอ้พวกหมาหมู่! ดูไว้! ไอ้พวกนี้มันรังแกลูกค้า!”
“ลูกค้าร้านกูมีความคิดมากพอที่จะวิเคราะห์และแยกแยะเรื่องที่เกิดขึ้น”
“กูไม่ยอมแน่!”
“ถ้ามึงไม่หยุด ได้จบที่โรงพักแน่” เจ้าของร่างสูงที่ยืนบดบังฉันเอ่ยเตือนเสียงเข้ม
“เหอะ! คิดว่ากูกลัวหรือไง ไอ้กระจอก!”
“หึ ได้แล้วเจอกัน สารเสพติดที่มึงพยายามขายให้พวกกูเป็นหลักฐานชั้นดีเลย พ่อมึงเป็นใครนะ? อ๋อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่โทษทีลุงกูเป็นผบ. เจอกันได้สัตว์” สิ้นเสียงเข้มข้อมือฉันก็ถูกกระตุกดึงให้เดินไปพร้อมกับเจ้าของเงาเหล่านั้น ช่วงขาที่ต่างกันทำให้ก้าวเกือบไม่ทันแต่ท้ายที่สุดฉันก็มาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ที่มีแม่ยืนกอดอกจ้องเราสองพี่น้องอยู่
“ยังไงเล่า” แม่ถามเสียงเข้ม ก่อนจะโบกมือให้พนักงานไปจัดการเคลียร์ของโต๊ะนั้น เป็นอันรู้กันว่ากลุ่มคนพวกนั้นจะไม่มีสิทธิ์ได้เข้าร้านเราอีกรวมถึงไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ซื้อขายห้องพักหรือบ้านกับครอบครัวฉัน
“มันว่าน้อง ผมไม่ชอบ”
“เยี่ยม! แม่จัดการต่อเอง” เอ่ยจบแม่ก็หยิบโทรศัพท์ติดต่อหาใครสักคนก่อนจะโบกมือไล่พี่ว่านกับเพื่อน ๆ ของเขาให้ไปนั่งที่เก้าอี้ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเจ้าของเงาที่ยืนล้อมรอบฉันไว้คือกลุ่มเพื่อนที่มหา’ลัยของพี่ว่านที่ฉันจำได้ว่ามีพี่กุมภา พี่เก้า พี่เทพ และมีพี่ ๆ สองสาวอย่างพี่ผัดไทยกับพี่นินนี่ที่เป็นชายใจสาวเหมือนกับคิมมี่