บ้านไม้ธารา
เสียงเกลียวคลื่นของท้องทะเลที่สาดซัดเข้าหาฝั่งอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้โสตประสาทการรับรู้ของเนื้อแพรเริ่มที่จะตื่นตัวขึ้น หญิงสาวยกมือเรียวขึ้นขยี้ตาอย่างคนที่ยังมีอาการง่วงงุนอยู่ ก่อนจะขยับตัวไปมาอย่างเมื่อยขบไปทั้งตัว แล้วก็ต้องร้องครางออกมาในทันทีเมื่อความปวดแปลบแล่นปราบขึ้นมาย้ำเตือนกับสิ่งที่ได้เจอเมื่อคืน
เนื้อแพรได้แต่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ร่างบอบบางหลับตาลงเพื่อกลืนก้อนสะอื้นที่ตอนนี้ต่างแย่งกันตีตื้นขึ้นมาเพื่อจะกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ให้เจ้าของร่างบางได้รับรู้ว่าหัวใจภายในนั้นเจ็บปวดกับการสูญเสียในครั้งนี้มากมายขนาดไหน
เนื้อแพรนอนหลับตาสะอื้นไห้อยู่อย่างนั้น แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดที่ข้างแก้มนวล พร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยถามออกมา
“ยังเจ็บอยู่ใช่ไหม ถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้” อัศนีถามอย่างเป็นห่วง
“ค่ะ ยังเจ็บอยู่ เอ่อ...ช่วยขยับออกไปห่างๆ ก่อนได้ไหมคะ”
เนื้อแพรเอ่ยบอกเสียงอุบอิบ พลางก้มหน้างุดไม่ยอมสบตากับชายหนุ่ม ก่อนจะรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างจนถึงคอ โดยหารู้ไม่ว่ากริยาที่หญิงสาวทำเช่นนี้สร้างความพึงพอใจให้กับอัศนีเป็นอย่างมากถึงกับหัวเราะหึๆ ออกมาให้เธอได้ยิน
“คุณหัวเราะอะไรคะ”
“ก็หัวเราะเธอน่ะสิ ไม่ต้องห่มหรอกผ้านั่นน่ะ เมื่อคืนฉันเห็นมันหมดแล้วล่ะ ของสวยๆ งามๆ อย่างนี้เธอจะปิดมันไว้ทำไม อีกอย่างคนที่เห็นก็คือฉัน...เธอเป็นของฉัน เนื้อแพร”
อัศนีย้ำเสียงหนักกับคำว่า ‘เธอเป็นของฉัน’ ยิ่งทำให้แก้มนวลเนียนของหญิงสาวนั้นแดงปลั่งขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบพลิกกายลงจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่อัศนีนั้นไวกว่า ชายหนุ่มคว้าร่างบอบบางของหญิงสาวเอาไว้ได้ทันก่อนร่างนั้นจะพ้นไปจากเตียง
“ว้ายยยย คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ”หญิงสาวหวีดร้องขึ้นอย่างตกใจ
ดวงตากลมโตตวัดมองใบหน้าอัศนีอย่างตื่นตระหนก กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอเหมือนอย่างเมื่อคืน ริมฝีปากอวบอิ่มรีบเอ่ยขอร้องออกมาทันที
“อย่าทำอะไรฉันเลยคุณอัศนี”
มือเรียวใหญ่ค่อยๆ คลายอ้อมกอดจากเอวคอดของเนื้อแพรออกช้าๆ เมื่อรู้สึกถึงร่างบอบบางที่กำลังสั่นอยู่ในขณะนี้ อัศนีไม่อยากให้หญิงสาวตรงหน้าต้องหวาดกลัวต่อสิ่งใดในยามที่อยู่กับเขา
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า ก็แค่จะถามว่าจะรีบไปไหน เห็นนอนอยู่ดีๆ อยู่ๆ ก็เด้งดึ๋งขึ้นมาแล้วก็รีบลงจากเตียงน่ะ แล้วก็ช่วยเรียกฉันใหม่ด้วย เมื่อคืนเราคุยกันไว้ว่ายังไง หวังว่าจะจำได้นะ เนื้อแพร”
อัศนีเอ่ยบอกอย่างต้องการเตือนความจำของหญิงสาว
“ค่ะ คุณอัศนี” หญิงสาวเอ่ยตอบเสียงแผ่ว
“ค่ะ แล้วยังไงอีก ที่ฉันถามน่ะเธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะว่าจะรีบไปไหน” อัศนีไม่วายถามซ้ำ
“คือ...ฉันจะไปห้องน้ำค่ะ ไปได้ไหมคะ”
“ได้สิ!...ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มะ เดี๋ยวฉันพาไปส่ง”อัศนีหัวเราะลั่นออกมาทันที พร้อมกับลุกทำท่าจะพาเดินไปส่งที่ห้องน้ำ
เนื้อแพรรีบโบกไม้โบกมือให้เป็นพัลวัน แค่นี้หญิงสาวก็รู้สึกอายมากพอแล้ว
“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง เชิญคุณอัศนีตามสบายค่ะ ฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”พูดจบก็รีบตะครุบผ้าห่มเอาไว้ให้มั่นพร้อมกับเดินไปที่ห้องน้ำทันที
อัศนีได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอ ร่างสูงลุกขึ้นเอื้อมคว้าเอาผ้าขนหนูสีขาวมาพันรอบเอวแล้วเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อออกไปสูดอากาศยามเช้า แต่จะว่าไปนี่คงไม่เช้าสำหรับใครหลายคนที่อยู่บนเกาะแห่งนี้ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วมันเช้ามาก เพราะเวลานี้ส่วนใหญ่ของเขานั้นถ้าไม่หลับก็จะอยู่ภายในออฟฟิศ หรือแม้แต่อยู่ที่นี่ก็จะยังไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากอยู่บนเตียงกับลูกหนี้สาวคนอื่นๆ ที่พากันมาใช้หนี้ร่างกายให้เขาได้เชยชมแทนการใช้เงินคืนที่กู้ยืมไป
ชายหนุ่มยืนกอดอกอยู่อย่างนั้นเงียบๆ เขาหลับตาลงแล้วปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป พลางคิดไปว่าหากเขาต้องการคู่ชีวิตที่จะใช้ชีวิตด้วยเขาจะเลือกผู้หญิงแบบไหนกันนะ แต่แล้วอยู่ๆ ใบหน้าของเนื้อแพรก็ลอยเข้ามาในความคิด
อัศนีลืมตาตื่นขึ้นในทันที ใบหน้าคมเข้มหันขวับมองกลับเข้าไปภายในห้อง ดวงตาสีสนิมจ้องเขม็งไปที่ห้องน้ำที่หญิงสาวยังคงอยู่ข้างในนั้น ก่อนจะหันกลับไปมองเกลียวคลื่นของท้องทะเลพร้อมกับเปรยกับตนเองเบาๆ
“แค่คืนเดียวหน้าเธอยังลอยเข้ามาในความคิดของฉันได้ แล้วนี่ถ้าเธอต้องอยู่ที่นี่นานเป็นปีๆ ฉันจะทำยังไง”
พูดจบก็เดินกลับเข้าไปภายในห้อง เดินตรงไปที่ห้องน้ำพร้อมกับยกมือเคาะเรียกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวหายเข้าไปภายในห้องน้ำนานครู่ใหญ่แล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!!
“นี่...เสร็จหรือยัง ฉันก็อยากเข้าห้องน้ำบ้างเหมือนกันนะ”
เนื้อแพรที่อาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จแล้วและกำลังสวมใส่เสื้อผ้าพลางคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้นก็สะดุ้งอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ก่อนจะตั้งสติแล้วตอบกลับไปเสียงตะกุกตะกัก
“สะ...เสร็จแล้วค่ะ ดะ...เดี๋ยวนะคะ”
พูดจบก็รีบหวีผมยาวสลวยอย่างเร่งรีบและรวบมัดไว้ให้เรียบร้อยก่อนจะหมุนบิดแล้วเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำโดยที่ไม่ลืมผ้าห่มที่ใช้พันร่างบางเอาออกมาด้วย
“เสร็จแล้วค่ะคุณอัศนี”หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนเดินเลี่ยงไปยืนอยู่อีกมุมของห้องเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวอันตราย
“นึกว่าเธอจะเข้าไปนอนในห้องน้ำซะอีก แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไรฉันให้มากนักหรอก เธอเป็นของฉันแล้ว ต้องอยู่ดูแลปรนนิบัติฉันทุกอย่าง แล้วถ้ามัวเอาแต่กลัวอยู่อย่างนี้เธอจะดูแลฉันได้ดีได้ยังไง แล้วเมื่อไหร่หนี้มันจะหมด เฮ้อ คิดเอาเองนะ ฉันขี้เกียจจะพูด อาบน้ำดีกว่า”
พูดจบก็เดินเลี่ยงเพื่อเดินเข้าห้องน้ำ แต่ไม่วายชำเลืองมองมาทางหญิงสาว อัศนีไม่ได้คิดที่จะตอกย้ำเรื่องหนี้สินที่เธอไม่ได้เป็นผู้ก่อ แต่ต้องมารับใช้หนี้แทน แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากให้ผู้หญิงตรงหน้าต้องมีท่าทีที่หวาดกลัวเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวอันตราย ใช่! เขาจะอันตรายกับเฉพาะคนอื่นที่คิดร้ายกับเขาก่อน แต่กับเธอนั้นไม่ใช่ ก่อนจะหายลับเข้าไปภายในห้องน้ำพร้อมกับเสียงก้องที่ร้องบอกออกมาให้เนื้อแพรได้ยิน
“เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันก่อนแล้วฉันจะพาเธอไปดูงานที่จะทำบนเกาะนี้ โอเคไหมเนื้อแพร”
เงียบไม่มีเสียงตอบ
“โอเคคคคคคไหมมมมมม”
อัศนีไม่วายลากเสียงยาวเพื่อไม่ให้หญิงสาวเครียดจนเกินไป และนั่นก็ทำให้เนื้อแพรยิ้มออกมาได้ และขานรับกับเสียงเอ่ยถามของชายหนุ่ม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่คิดไว้วางใจเขาเท่าใดนัก
“รับทราบค่ะคุณอัศนี”เนื้อแพรรับตอบกลับทันควัน
“ก็แค่นั้น”อัศนียิ้มนิดๆ บนใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยตอบกลับมา ก่อนจะรีบชำระล้างร่างกายของตนต่อไปพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี