โชคขับรถไปที่คอนโดไม่ไกลมากแล้วกดเบอร์โทรหาวีนัสอยู่หลายสายแต่ก็ถูกตัด เขาเลยส่งข้อความไปแทนว่าอยู่ที่คอนโดและนั่งรอที่ล็อบบี้ วีนัสอ่านแต่ไม่ยอมตอบแล้วผ่านไปประมาณห้านาทีเธอก็เดินออกมาจากลิฟต์ด้วยท่าทีเซนิดๆจนต้องรีบประคอง กลิ่นเหล้าลอยหึ่งออกมาขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดื่มไปเยอะมากขนาดไหน เขาประคองเธอขึ้นลิฟต์แบบไม่ถามอะไรสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างเราเลยตกอยู่ในความเงียบมากที่โคตรน่าเป็นห่วง
มาถึงห้องแล้ววีนัสยังไม่พูดอะไรเลย
ไอ้เวรนั่นมันได้เจ็บตัวแน่
“เสี่ย…”
“ทะเลาะกับมันเหรอ?”
“อื้ม”
“ไม่ได้คบกันแล้วใช่ไหม?”
“ไม่อะ มันกลับไปหาเมียเก่าแล้ว!”
“เฮ้อ…เสี่ยไม่เอามันไว้แน่!”
“หนูโง่มากใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่โง่หรอกวีนัส อย่างน้อยหนูก็รู้ว่ามันรักผู้หญิงอีกคนก่อนจะคบกัน”
“เสี่ย…” เธอเบ้ปากร้องไห้ออกมาด้วยความสมเพชตัวเองและเสี่ยโชคดึงเข้าไปกอดทันที มือใหญ่ลูบหัวแผ่วเบาเงียบๆ เขาไม่ดุด่าว่าเธอที่โง่ไปรู้สึกดีกับคนที่ลืมคนเก่าไม่ได้แถมยังติดต่อกันตลอดอีก
ต้นขอคบจริงๆแต่เธอปฏิเสธ
เธอเห็นเขากอดแฟนเก่าก่อนจะเดินมาหา
น้ำตาไหลออกมาอย่างหนักเหมือนว่าทุกอย่างที่แย่ๆหลุดออกไปจากหัวใจแล้วเมื่อได้อยู่ในเซฟโซน คนที่ปากร้ายอ่อนโยนเสียจนความรู้สึกสมเพชตัวเองหายไป ความรู้สึกเหมือนตัวเองโง่ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดเท่าตอนอยู่คนเดียวแล้ว เสี่ยโชคปล่อยเธอแล้วมือใหญ่ประคองใบหน้าก่อนจะเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างแผ่วเบาจนแทบไม่น่าเชื่อด้วยซ้ำว่าจะทำให้รู้สึกดีได้
“เสี่ยไม่ชอบให้หนูร้องไห้แบบนี้เลย”
“หนูก็ไม่ชอบ”
“เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไปเชื่อเสี่ยสิ”
“แล้ว…เสี่ยโชครู้ได้ไงคะ?”
“เพลิงบอก”
“นึกว่าเสี่ยเห็นโพสต์ก่อนจะลบซะอีก”
“เสี่ยกินเหล้าอยู่เลยไม่ได้ดู”
“งั้นกินกับหนูต่อไหม?”
“ได้สิ แต่ถ้าเมาเสี่ยขับรถกลับไม่ไหวนะ”
“โซฟาตั้งใหญ่นอนคนเดียวได้สบายๆค่ะ”
เขาเดินโอบไหล่วีนัสไปนั่งที่โซฟาในห้องรับแขกแล้วมองเหล้าเบียร์ที่วางเต็มโต๊ะพร้อมกับของกินแกล้ม นี่คือวันศุกร์และพรุ่งนี้คือวันเสาร์เลยไม่จำเป็นต้องกลัวตื่นสายมาก หรือถ้าตื่นสายก็ไม่เป็นอะไรเพราะเป็นเจ้าของบริษัทอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าช่วงนี้ที่ตื่นเช้าเพราะลูกน้องมันโทรปลุกเพราะเขาขับรถไปรับ มันไม่อยากไปทำงานสายถึงสุดท้ายจะไปสายอยู่ดีก็ตาม
นี่คือครั้งแรกที่จะนอนคอนโดวีนัส
รู้สึกดีแปลกๆนะ
วีนัสเดินไปหยิบแก้วมาให้เพิ่มแล้วนั่งอยู่ใกล้กัน เธอระบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังและไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาจากปากเลยสักคำเดียว นัยน์ตาที่สดใสแดงก่ำเพราะร้องไห้จากคนที่มันไม่คู่ควรกับหยดน้ำตานั้นเลยด้วยซ้ำ บอกไม่ถูกว่าดีใจขนาดไหนที่เธอแค่รู้สึกดีและตอนนี้ตัดใจได้แบบไม่คิดมากเพราะยังไม่ถลำลึกเกินไปในความสัมพันธ์ วีนัสไปก่อนเวลานัดเพราะตื่นเต้นเลยอยากทำให้ตัวเองดูดีเพื่อช่วงเวลาสำคัญ แต่ว่าเธอกลับเห็นมันยืนกอดกับแฟนเก่าปลอบใจแล้วยังจูบกันอีก จากนั้นมันก็มาขอคบวีนัสแต่ว่าเธอปฏิเสธไปทันทีเพราะหวั่นใจว่าจะไปเป็นตัวแทนของใคร หรืออาจจะเป็นแค่คนคั้นเวลา
โอกาสของเขายังไม่หายไป
ต่อจากนี้จะหวงเด็กและชัดเจนขึ้น
“ถ้ามันมาง้อหนูจะทำยังไง?”
“ไม่มีทางคืนดีหรอก หนู…น่าจะเชื่อเสี่ย”
“เชื่อเสี่ย?”
“ก็เสี่ยบอกว่าไม่มีใครเอาหนูลงหรอก”
“เสี่ยพูดเล่นไปเรื่อยเฉยๆ เวลาได้แกล้งหนูแล้วมันรู้สึกดีตอนหนูทำหน้ายู่ใส่”
“งั้นวันนี้ห้ามแกล้ง หนูไม่มีอารมณ์เล่นด้วยหรอกนะ”
“แล้วพรุ่งนี้ไปไหนไหม?”
“ไม่ค่ะ”
“งั้นปาร์ตี้ที่บ้านของเสี่ยไหม?”
“แต่พี่เพลิงจะไปเที่ยวกับสาวไม่ใช่เหรอคะ?”
“แค่เราสองคนไม่ได้เหรอ?”
“ก็…มันจะดูไม่ดี”
“คิดมาก!”
“ก็หนูเป็นผู้หญิงนี่!”
“เสี่ยรู้จักหนูมาตั้งแต่อายุ…สิบห้าใช่ไหม ถ้าเสี่ยจะทำอะไรโอกาสมันมีตั้งเยอะแยะ”
“จริงด้วย! จะว่าไปเรารู้จักกันมาตั้งเกือบห้าปีแล้วทำไมหนูไม่เคยเห็นเสี่ยโชคมีแฟนเลยล่ะคะ ตอนนั้นที่ทำงานด้วยก็เห็นแค่ควงมาครั้งสองครั้งก็เปลี่ยนคน เสี่ยลืมแฟนเก่าไม่ได้เหรอถึงไม่มีคนใหม่ หรือว่าเสี่ยโชคหวงอิสระจนไม่กล้าผูกมัดกับใคร”
“หนูก็ไม่เคยมีแฟน”
“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย”
“เสี่ยรอคนที่ใช่ดีกว่าคบไปเรื่อย”
เธอเทเหล้าให้เสี่ยโชคแล้วนึกถึงสเป็คที่พี่เพลิงเคยเล่าให้ฟังแล้วก็หนักใจขึ้นมาทันทีเลย พี่เพลิงรู้จักเสี่ยโชคตั้งแต่เรียนมัธยมต้นจนถึงปัจจุบันเลยรู้ว่าเสี่ยเคยมีแฟนอยู่หลายคน แฟนของเสี่ยโชคส่วนใหญ่จะไปในทางหมวย เซ็กซี่ หุ่นนางแบบ สูงเกือบเท่าเสี่ยโชคและฐานะใกล้เคียงกันแทบทุกคนเลย
น่าเสียดายที่ไม่เคยเห็นแฟนเสี่ยโชค
ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกัน
แฟนคนล่าสุดของเสี่ยโชคน่าจะตอนอายุยี่สิบสองสมัยพึ่งเรียนจบและเริ่มทำงาน หลังจากนั้นเสี่ยโชคก็โสดยาวแต่โสดแบบไม่สนิทเท่าไรหรอก เรื่องอย่างว่าน่าจะโชกโชนจนถึงขั้นเจนเวทีเลยก็ได้ ขนาดช่วงที่เธอทำงานด้วยปีหนึ่งยังเห็นเขาควงผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้าจนเริ่มงงและเพราะแบบนี้พี่เพลิงถึงเล่าให้ฟัง
ปีนี้เสี่ยโชคจะอายุสามสิบปีแล้ว
เขาจะครองโสดไปถึงไหน
“เรียนเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดีค่ะ”
“อีกแป๊บเดียวก็เรียนจบแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“สนใจมาทำงานกับเสี่ยไหม?”
“ทาบทามตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ?”
“เสี่ยมีงานเยอะมากแล้วดูแลคนเดียวไม่ไหวหรอก เดี๋ยวอีกสักพักจะให้เพลิงมาดูแลบริษัทนี้ต่อ แล้วถ้าหนูอยากทำงานก็ทำคู่กับเพลิงได้นะ”
“วางตัวพี่เพลิงไว้แบบนี้ถามเจ้าตัวรึยังคะ?”
“แค่มันเห็นเรทเงินเดือนก็พร้อมทำงานแล้ว”
“นั่นสิ!”
“ลองคิดดูก็ได้นะ เสี่ยมีเวลาอีกหลายปีกว่าจะปล่อยเพลิงทำงานจริงๆ”
“ช่วงหลังที่เสี่ยโชคเข้มงวดกับพี่เพลิงมากเพราะแบบนี้ด้วยใช่ไหมคะ?”
“อืม แต่ห้ามบอกมันนะ เสี่ยอยากดูมันไปเรื่อยๆก่อน”
“แล้วมาบอกให้หนูรู้นี่นะ!”
“เสี่ยน่าจะ…เมามั้ง”
“งั้นหนูก็เมาเหมือนกัน”
“หนูเมามากด้วย”
เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนนิดๆวีนัสเมามากจนหน้าแดงเชียว เขาอุ้มเธอเดินเข้าไปในห้องนอนแล้ววางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาและห่มผ้าให้ จากนั้นก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงเว้นระยะห่างประมาณหนึ่งคืนเห็นจะได้ เขาไม่เคยรู้เลยว่ารู้สึกอะไรกับเด็กคนนี้แบบไหนและทุกอย่างมันเริ่มตอนไหนกันแน่ สิ่งเดียวที่บอกชัดว่าวีนัสอยู่ในสายตาเสมอคือความทรงจำของตัวเองที่ได้เจอเธอตั้งแต่วันแรก
เขาจดจำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ
หลงรักไปหมดหัวใจรึยังนะ
“ฝันดีนะวีนัส”
“เสี่ยโชค…ฝันดีนะ”
“หลับตานอนได้แล้ว จะมองหน้าเสี่ยทำไมห่ะ?”
“แก่แล้วบ่นเก่ง”
“เมาแล้วพูดไปเรื่อย”
“หนูไม่ได้เมา!”
“เที่ยงคืนกว่าๆแล้วนอนเถอะ เสี่ยจะอาบน้ำนอนเหมือนกัน”
“ขอบคุณนะที่มาหาหนู”
“เสี่ยไม่มีทางปล่อยให้หนูเสียใจคนเดียวหรอก”
“ต่อจากนี้หนูจะไม่สนใจใครแล้ว!”
“เว้นเสี่ยไว้สักคนนะ”
วีนัสขยับเข้ามาใกล้และยิ้มหวานได้อย่างน่ารักแต่ว่าตาแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้วนี่สิ มือเล็กๆยกขึ้นมาแตะกรอบหน้าของเขา ปลายนิ้วเกลี่ยไปตามสันกรามเหมือนกำลังยั่วยุอย่างนั้นแหละ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ช้อนตามองได้อย่างน่าเอ็นดู ปลายนิ้วแตะที่ปลายจมูกอยู่เพียงไม่กี่วินาทีก็เคลื่อนมาแตะที่ริมฝีปากหยักเหมือนต้องการจะทดสอบความอดทนจนทนไม่ไหวเลยงับเบาๆจนสะดุ้ง
หัวใจสั่นไหวอย่างหนัก
เขินเด็กจนรู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้ว
“อื้อ! เสี่ยโชคอะแกล้งหนูอีกแล้วนะ”
“หน้าเสี่ยมันใช่ของเล่นเด็กมือบอนไหมห่ะ?”
“หล่อนะเนี่ย”
“เรื่องนี้เสี่ยรู้น่าว่าตัวเองหน้าตาดีมาก”
“แต่เสียดายที่ไม่เอาใคร”
“ดีกว่าไม่มีใครเอาแบบหนูก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวหนูจะหาแฟนหล่อๆให้ดู”
“หนูจะไม่มีวันได้ใครเป็นแฟนทั้งนั้น เสี่ยไม่ยอม”
“ทำไมล่ะ!?”
“เสี่ยแค่ไม่อยากให้หนูรักใครทั้งนั้น”
“บ้าแล้ว!”
“ตาจะลืมไม่ขึ้นก็พูดอยู่นั่นแหละ นอนได้แล้วจะได้โตไวๆ”
“หนูโตแล้ว!”
“เด็กอยู่ดี”
“เสี่ยโชคแก่แล้วต่างหากเล่า!”
“เถียงเก่ง”
“ก็เสี่ยไม่ยอมรับความจริงนี่!”
“นอนได้แล้ว”
“เสี่ย…”
“พูดอีกคำเสี่ยจูบนะ!”
“ไม่กลัว…”
ริมฝีปากหนักกดจูบทับลงไปแผ่วเบาแล้วผละออกมาสบตาฉ่ำเยิ้มที่เบิกโตและตัวแข็งทื่อไปด้วยความตกใจมาก ริมฝีปากบางเม้มแน่นอยู่ไม่กี่วินาทีก็เผยอออกจะพูดอะไรบางอย่างแต่วินาทีนั้นเขาจูบซ้ำไปอีกครั้งอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ค่อยๆละเลียดให้เคลิ้มหลงไปกับจูบที่เลาะเล็มกลีบปากก่อนจะสอดแทรกเข้าไปพลิกพลิ้วภายในปากและผละออกมาให้หายใจได้ก่อนจะจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุด ความต้องการปะทุขึ้นมาจนแทบพลิกตัวคร่อมทับแต่ยังข่มใจไหวแล้วระบายความหิวกระหายไปกับจูบที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ล่อหลอกให้เธอเคลิ้มหลงตามมาในเส้นทางที่นำพามา
จูบไร้เดียงสาแบบนี้หวานใช่ย่อย
จูบแล้วอยากจูบอีก
“จะพูดอะไรอีกไหม?”
“ไม่พูดแล้ว”
“งั้นก็นอนได้แล้ว”
“เสี่ย…”
“หน้าแดงนะ”
“จูบเมื่อกี้นี้”
“ทำไม?”
“หนูไม่เคยจูบมาก่อน หนู…”
“กู๊ดไนท์คิสไงหนูไม่รู้จักเหรอ?”
“ก็…”
“จูบไม่เป็นเลยไม่รู้จักว่าจะโต้ตอบยังไงน่ะเหรอ ลองจูบเสี่ยกลับดูไหม เสี่ยก็ปากหวานมากนะ”
“คือว่าเรา…”
“งั้นเสี่ยจะสอนหนูจูบเอง”
ไม่มีคำพูดอะไรออกมานอกจากริมฝีปากที่บดเบียดอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุดพัก จูบอ่อนหวานหลอกล่อให้หลงระเริงมีอารมณ์ตามอย่างง่ายดาย สติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดถูกทำละลายซ้ำๆไม่หยุด ลมหายใจติดขัดอย่างหนักและไม่รู้วิธีการจะโต้ตอบอะไรได้เลย ลมหายใจที่มีกลิ่นเหล้าของเราทั้งคู่ จูบที่มอมเมาให้เคลิ้มหลงไปกับสิ่งแปลกใหม่ สัมผัสไม่คุ้นเคยและน่าตื่นเต้น
หัวใจแทบหยุดเต้นอยู่แล้ว
จูบแบบนี้ดีเกินไป