EP.3 ตามนางรจนา

930 Words
EP.3 ตามนางรจนา “ไม่ค่ะ ไม่รังเกียจ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ เริ่มวางหน้าไม่ถูกเมื่อพนักงานและแขกเหรื่อในโรงแรมที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้นต่างหยุดมองเธอและชีคมุซตาฮ์ซานด้วยความสนใจใคร่รู้ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้เพชรไพลิน” เขาหยักยิ้มที่มุมปาก เป็นยิ้มครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้เห็น เมื่อชายหนุ่มหมุนตัวเดินกลับไปหญิงสาวก็ถึงกับเข่าอ่อนทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง “เกิดอะไรขึ้น เพราะมาลัยพวงนั่นนะหรือ” เพชรไพลินยกมือขึ้นกุมแก้มเอาไว้ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวแทบระเบิด มาลัยพวงนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจจะโยนให้เขา จังหวะที่หมุนตัว เธอโยนออกไปอย่างไร้ทิศทาง เมื่อหันกลับมามันก็อยู่ในมือของชีคหนุ่มเสียแล้ว “เพชรทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้เป็นอะไรหรือเปล่าลูก” หญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบต้นๆ ปราดเข้ามาประคองบุตรสาวให้ลุกยืน “คุณแม่” เธอลุกขึ้นยืน จากนั้นมารดาเลี้ยงจึงประคองเธอให้เข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนชุด รุจินภาคือมารดาเลี้ยงที่สนิทสนมกับเธอเหมือนเป็นแม่ลูกกันแท้ๆ เพราะนับจากบิดาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเมื่อสองปีที่แล้ว เพชรไพลินมีเพียงแค่รุจินภาเท่านั้นที่เป็นผู้ปกครองและญาติเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ หญิงสาวนึกเห็นใจท่านอย่ไม่น้อย อันที่จริงแล้วมารดาเลี้ยงของเธอนั้นยังสาวยังสวย หากจะแต่งงานมีสามีใหม่เพชรไพลินก็ไม่คิดคัดค้าน แต่นั่นล่ะมารดาเลี้ยงของเธอกลับครองตัวเป็นโสด ขยันทำงานจนไม่มีเวลาชายตามองชายหนุ่มคนไหน “หนูรู้หรือเปล่าเพชร แขกเหรื่อชมหนูกันใหญ่ แม่ไม่ผิดหวังในตัวหนูเลยจริงๆ สมแล้วที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวของบ้านนาฏศิลป์” รุจินภาเอ่ยชมลูกเลี้ยงที่รักราวกับเลือดเนื้อเชื้อไขในอก ก่อนที่เธอจะผันตัวมาเป็นคนสอนรำ เธอเองก็เป็นนางรำมาก่อน ความใกล้ชิดก่อเกิดเป็นความรัก เธอจึงตกลงแต่งงานกับบิดาของเพชรไพลินในที่สุด “วันนี้เพชรรู้สึกว่าเพชรรำได้ไม่ดีเลยค่ะคุณแม่ เพชรรู้สึก...” หญิงสาวถอนหายใจขณะนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อให้มารดาเลี้ยงถอดมงกุฎสีเงินออกจากศีรษะให้ “ไม่หรอกจ๊ะ แขกเหรื่อชมหนูให้แม่ฟังไม่ขาดปาก แต่คนที่ชอบที่สุดสงสัยจะเป็นท่านชีคมุซตาฮ์ซาน ไม่น่าเชื่อว่าท่านชีคจะลุกขึ้นรับพวงมาลัยด้วยตนเอง สาวๆ ในงานนะกรี๊ดกันใหญ่” รุจินภาจีบปากจีบคอพูดอย่างออกรส “เอ่อ...พรุ่งนี้ เพชรต้อง...” หญิงสาวอึกอัก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่ชีคมุซตาฮ์ซานชวนเธอมางานเลี้ยงที่โรงแรม รุจินภากำลังถอดทับทรวงให้บุตรสาวจึงมิทันสังเกตว่าเพชรไพลินมีท่าทางแปลกไปจากทุกครั้ง “พรุ่งนี้ทำไมเหรอลูก” “เอ่อ...ต้องสอบวันสุดท้ายค่ะ หลังจากนี้เพชรจะมีเวลาช่วยงานคุณแม่ได้มากขึ้น” หญิงสาวแสร้งกลบเกลื่อนไปเรื่องอื่น แล้วลอบถอนหายใจเมื่อเห็นว่ามารดาเลี้ยงมิได้สงสัยอะไร “พอพูดถึงพรุ่งนี้ แม่ก็เกือบลืมแน่ะว่าพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนๆ หนูคงต้องอยู่คนเดียวนะจ๊ะ แต่แม่สัญญาว่าจะกลับไม่ดึก” รุจินภายิ้มกว้าง เพชรไพลินไม่ได้ตอบเพราะรู้ดีว่ากว่ามารดาเลี้ยงจะกลับคงหลังเที่ยงคืนอย่างแน่นอน เพราะรุจินภาเป็นคนมีเพื่อนฝูงมาก การกินเลี้ยงสังสรรค์ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาที่มีแทบทุกอาทิตย์ “ไม่ต้องห่วงเพชรหรอกค่ะคุณแม่” หญิงสาวใช้สำลีชุบผลิตภัณฑ์เช็ดล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้าจนหมดจด เหลือเพียงใบหน้าเนียนใสสมวัยแรกดรุณีที่มีอายุเพียงแค่สิบแปดปีเท่านั้น ทว่าเธอกลับมีทรวดทรงองค์เอวอวบอัดกว่าเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันบางคนที่ยังดูเป็นเด็กกะโปโลอยู่ “กลับกันเถอะลูก เดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน ไม่ได้เอารถมาเสียด้วย แม่ไม่อยากขึ้นแท็กซี่ตอนดึกๆ มันอันตราย” รุจินภาเร่งบุตรสาว เพชรไพลินพยักหน้าน้อยๆ แล้วเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพายแนวสปอร์ตใบใหญ่ ร่างอรชรเปลี่ยนเป็นสวมกางเกงยีนสีซีดและเสื้อยืดสีพื้น รวบผมเป็นหางม้าแล้วเดินตามมารดาออกไป “คุณเพชรไพลินใช่หรือเปล่าครับ” จังหวะนั้นชายในชุดซาฟารีสีกรมท่าก็ปราดเข้ามาหาพวกเธอ เพชรไพลินไม่ได้ตอบแต่มองชายที่เข้ามาถามด้วยสายตาระแวดระวัง “ผมชื่อมั่นครับ ท่านชีคสั่งให้ผมไปส่งคุณที่บ้าน ท่านฝากมาบอกว่าเป็นการขอบคุณเล็กๆ น้อยสำหรับรำที่สวยงามและน่าประทับใจครับ” เพชรไพลินหันกลับไปมองมารดาเป็นเชิงถามความเห็น “ไปเถอะลูก ดีเหมือนกันเราจะได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่ ในเมื่อท่านชีคกรุณาพวกเรา นับว่าเป็นเรื่องดี เผื่อว่าท่านมีงานอะไรจะได้เรียกลูกไปรำอีก” รุจินภาเดินนำบุตรสาวไปที่รถ ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะไม่รับน้ำใจของชีคมุซตาฮ์ซาน เพราะการจ้างรำนั้นมีราคาสูง เรียกว่าสามารถใช้จ่ายไปได้สองเดือนอย่างสบายๆ เลยทีเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD