“ทำไมล่ะหรือกลัวว่าฉันจะสู้ราคาไม่ไหว เธอก็รู้ดีนี่เพชรไพลินว่าฉันมีเงิน ไม่อย่างนั้นเธอจะเข้าหาฉันด้วยวิธีน่ารังเกียจแบบนี้เหรอ”
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว”
เพชรไพลินแทนตัวเองว่าฉันอย่างห่างเหิน แววตาที่มองชายหนุ่มนั้นกระด้างและแข็งกร้าว หัวใจที่เจ็บช้ำทำให้เธอไม่คิดจะทนอีกต่อไป
“ทำไมล่ะเพชรไพลิน ต่อรองราคากันได้ รับรองว่าฉันให้เงินดีกว่ามันแน่ๆ ฉันจะปรนเปรอเธอให้ถึงใจเชียวล่ะ” เขาโน้มหน้าเข้าใกล้จงใจกระซิบแผ่วที่ข้างหู
“ร้อยล้าน!”
เธอตะโกนบอกออกไป ใช่ว่าต้องการเงินจำนวนนั้น แต่เพราะต้องการประชดอีกฝ่าย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่คิดเช่นนั้น ชีคมุซตาฮ์ซานเลิกคิ้วสูงก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน จงใจทำให้หญิงสาวได้รับความอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี เมื่อต้องพบกับกิริยาดูหมิ่นที่แสนหยาบโลนเช่นนี้
“คิดว่าตัวเองมีค่ามากขนาดนั้นเลยหรือ ขนาดสาวบริสุทธิ์ยังราคาถูกกว่านี้ตั้งหลายร้อยเท่า แล้วเธอล่ะ ผ่านมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ อย่างนี้ยังจะกล้าเรียกราคาสูงอีกเหรอ คิดจะย้อมแมวขายหรือไง”
เพชรไพลินเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ทั้งเจ็บทั้งอาย
“ถ้าฉันสกปรกขนาดนั้น ก็ขอให้ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องรั้งไว้เพื่อประชดประชันกันแบบนี้”
น้ำเสียงของเธอนิ่งสนิทเสียจนอีกฝ่ายถึงกับอึ้งไป ถอยห่างตามที่เธอต้องการ แล้วยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“หวังว่าเราคงไม่ได้พบกันอีก” หญิงสาวเอ่ยลาแล้วเดินกลับออกไปจากห้องทั้งน้ำตา แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นกมลทิพย์ยืนรออยู่หน้าห้อง ดูก็รู้ว่าแอบฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเลขาสาวป้องปากด้วยท่าทางขบขัน
“กล้านะยะร้อยล้าน อย่างเธอร้อยเดียวก็พอแล้ว” กมลทิพย์หัวเราะคิกแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานด้วยท่าทางนวยนาด
เพชรไพลินหน้าซีดสลับแดงคล้ายจะเป็นลม ทว่าเมื่อความอดทนของเธอสิ้นสุด เธอก็ได้ทำในสิ่งที่เธอเองก็ไม่คาดคิด หญิงสาวเดินไปที่โต๊ะทำงานของกมลทิพย์แล้วหยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะสาดใส่กมลทิพย์เต็มแรง
“กรี๊ดดด!”
กมลทิพย์กรีดร้องด้วยความตกใจ โชคดีที่กาแฟตั้งไว้ได้ครู่หนึ่งแล้วจึงไม่ร้อนมาก แต่ก็เปรอะเปื้อนไปหมดทั้งตัว เธอเต้นเร่าแทบจะกระโจนเข้าตบเพชรไพลิน แต่ก็ต้องชะงัก เมื่ออีกฝ่ายชี้หน้าหล่อนกลับ
“อย่าบีบให้หมาจนตรอกลุกขึ้นสู้ เพราะคุณจะเดาไม่ออกหรอกว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง”
น้ำเสียงนิ่งเย็นเยียบทำให้กมลทิพย์ถึงกับลอบกลืนน้ำลาย มือที่เงื้อค้างไว้กลางอากาศค่อยๆ ลู่ลงแนบลำตัว แต่ก็ยังไม่วายปากดี
“คิดว่าฉันกลัวแกนักหรือไงนังกระจอก”
เพชรไพลินไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะโต้แย้งกับผู้หญิงคนนี้ เธอไม่ตอบ แล้วเดินไปที่ลิฟต์ ภายในลิฟต์ว่างเปล่ามีแค่เธอยืนอยู่เพียงลำพัง มันกำลังเลื่อนกลับลงไปยังชั้นเริ่มต้น เหมือนกับเธอในตอนนี้ที่... ‘ว่างเปล่า’
เมื่อก่อนก็ไม่มีเขา ต่อไปไม่มีก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร กลับไปยืนอยู่ที่เดิมยังไงล่ะเพชรไพลิน คิดเสียว่าไม่มีผู้ชายคนนั้น ไม่มีชีคมุซตาฮ์ซานที่แสนดีอีกต่อไปแล้ว
แม้จะพยายามเตือนใจตัวเองเช่นนั้น แต่ร่างบางกลับทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ เจ็บปวดเสียยิ่งกว่ามีคมมีดนับร้อยนับพันเล่มฝังคมแหลมลงมาบนก้อนเนื้อสีแดงสดที่เต้นด้วยจังหวะเชื่องช้าเต็มที เธอพยายามถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายออก ทว่าเหมือนสวรรค์จงใจแกล้งเธอ เพราะถอดอย่างไรมันก็ไม่ยอมออกจากนิ้ว แหวนซึ่งเป็นตัวแทนของความรักที่ชีคหนุ่มได้มอบให้เธอ บัดนี้มันกลับเป็นสิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดให้เธอทุกข์ทรมานทุกครั้งที่เห็นมัน
---
เมื่อรจนาอย่างนางรำเพชรไพลิน เสี่ยงพวงมาลัยออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท...