วางโทรศัพท์แล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัว และไม่ลืมจะพับเก็บผ้าปูที่นอนไว้เป็นอย่างดี แล้วเดินออกจากบ้านอย่างรีบร้อน ในใจตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมด ราวกับโดนไฟสุมอยู่ในทรวง
“คุณหมอกไม่ทานข้าวทานยาก่อนหรือคะ”
“ไม่ครับ ผมจะไปทานที่บ้านใหญ่”
ตอบป้านวลแล้วก็รีบเดินเร็วมาที่บ้านแม่ ตอนนี้ทุกคนไปทำงานกันหมดแล้วเหลือแค่พ่อกับแม่อยู่กันสองคน
“หายดีแล้วเหรอ” กัมปนาทเอ่ยถามลูกชาย นานทีปีหนจะเห็นลูกชายมาทานข้าวที่บ้าน ตั้งแต่ภรรยาจากไป ในหนึ่งเดือนแทบจะนับครั้งได้
“ครับพ่อ แค่ยังมึนหัวนิดหน่อยครับ” ไม่รู้ว่ามึนเพราะเป็นไข้หรือเพราะน้ำสีเหลืองอำพันกันแน่
“หนูขิมหลานย่านี่เก่งจริงๆเลยนะ มาหาวันเดียว พ่อเลี้ยงถึงกับหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง แต่ว่ารีบกลับไปหน่อย เมื่อเช้าแม่ว่าจะคุยด้วยซะหน่อยแต่ก็เดินตามไม่ทัน”
แค่ก แค่ก
กำลังดื่มน้ำแต่พอแม่พูดเรื่องกัลยาขึ้นมาหน่อยถึงกับสำลัก
“แม่เจอขิมเหรอครับ” ถามแม่ด้วยความตื่นเต้น
“ใช่ ท่าทางรีบร้อน ไม่รู้รีบไปไหน” แววตาคนฟังวูบไหว ไม่รู้ป่านนี้เธอจะโกรธเกลียดเขามากแค่ไหน ไม่รู้เขาต้องขอโทษเธอด้วยวิธีไหน เธอถึงจะยอมยกโทษให้ ความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงนักถ้าทุกคนรู้เรื่องเขาอาจจะกลายเป็นศพก็ได้ เรื่องนั้นเขาไม่ได้กลัว อย่างน้อยถ้าเขาจะตายเขาก็ขอตายด้วยน้ำมือของเธอดีกว่า
“จะไปทำงานแล้วเหรอ ไม่พักอีกสองสามวันล่ะ” กัมปนาทถามลูกชาย
“เปล่าครับพ่อ ผมจะไปดูโรงงานที่อีสานครับ”
“ไปอีสาน!” ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน เพราะตั้งแต่ภรรยาจากไปเขาก็ไม่ค่อยได้ไปดูงานที่อีสานอีกเลย จนกัมปนาทต้องจ้างผู้ช่วยมาช่วยม่านหมอกอีกคน เหตุเพราะเขาทำใจไม่ได้ที่ต้องเดินทางไปในที่ที่เขาเคยไปกับอดีตภรรยา
“หมอกมั่นใจแล้วเหรอลูก อีกอย่างร่างกายลูกก็ยังไม่แข็งแรงดีนะ ให้ชลไปด้วยไหม” กมลพรรณหมายถึงผู้ช่วยของม่านหมอก ที่มาทำหน้าที่แทนมธุสร
“อย่าเลยครับแม่ ผมไปคนเดียวได้ครับ และผมอาจจะไปนานเป็นเดือนนะครับแม่”
“เป็นเดือน!” ทั้งพ่อทั้งแม่ตกใจเป็นครั้งที่สอง
“ครับ ผมมีธุระต้องไปจัดการที่นั่นครับ”
“โรงงานมีปัญหาเหรอทำไมพ่อไม่รู้ ปกติพ่อไม่เห็นหมอกจะไปนานขนาดนี้” ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงงานทุกอย่างส่วนมากทางผู้จัดการโรงงานจะต้องรายงานมาที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ และกัมปนาทจะต้องรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ทำไมครั้งนี้ทางโรงงานถึงเงียบกริบ
“มีนิดหน่อยครับพ่อ แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมคิดว่าผมแก้ปัญหานี้ได้” เขายังไม่อยากพูดอะไรมากในตอนนี้ จนกว่าจะได้เจอกับกัลยา ยังไม่รู้ว่าเธอจะยอมคุยกับเขาหรือไม่ด้วยซ้ำ
“นิดหน่อยแล้วทำไมไปนานจังล่ะหมอก” กมลพรรณถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้เขาจะโตมากแค่ไหนแต่แม่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ยิ่งตกตอนเย็นเขาชอบนั่งดื่มคนเดียว ผู้เป็นแม่ก็อดกังวลไม่ได้
“ผมกะว่าจะไปพักผ่อนด้วยน่ะครับ ฝากน่านดูงานทางนี้แทนผมด้วยนะครับ” กล่าวเสียงเรียบ
“อือ พ่อจะบอกน้องให้” กัมปนาทบอก ทางนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะการทำงานของน่านฟ้าก็สูสีกับม่านหมอก งานเอกสารทุกอย่างท่านรองประธานอย่างน่านฟ้าก็สามารถเซนแทนม่านหมอกได้
“แล้วจะเดินทางวันไหน”
“วันนี้ครับ”
“เฮ้ย! ทำไมด่วนขนาดนั้น” ผู้เป็นพ่อตกใจ
“ครับพ่อ คือผมอยากไปถึงโรงงานเร็ว ๆ เองแหละครับจะได้รีบเข้าไปเคลียร์งาน” เคลียร์งานหรือเคลียร์อะไรเอาให้แน่
“อย่างนั้นก็ให้ลุงเพิ่มไปส่ง”
“ครับผม”
ทานข้าวเสร็จก็เดินกลับมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทาง
“คุณหมอกคะป้าหาผ้าปูที่นอนไม่เจอค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับป้า ปูผืนใหม่ได้เลยครับ”
“ค่ะ” แล้วผืนนั้นล่ะมันหายไปไหน
“คุณหมอกจะไปไหนหรือคะ” เห็นเขาถือกระเป๋าเดินทางออกมาก็แปลกใจ
“ไปอีสานครับ ฝากป้าดูแลบ้านด้วยนะครับ รอบนี้ผมน่าจะไปนานหน่อย”
“ได้ค่ะ คุณหมอกหายป่วยแล้วหรือคะ”
“ดีขึ้นแล้วครับ”
“พกยาติดตัวหน่อยก็ดีนะคะ”
“ก็ได้ครับ วานป้าหยิบให้ผมที”
ได้ยาจากป้านวลแล้วก็รีบออกเดินทางทันที