7:40 น. ณ โรงเรียน นานาชาติบลูสกาย
นีนนีราตามมาส่งลูกชายที่โรงเรียนแห่งใหม่ อันที่จริงหน้าที่มาส่งน้องไนน์เป็นของแม่อุ้ย แต่วันนี้เธอมีภารกิจเพิ่มเติมพิเศษคือ มาดูตัวอย่าง 'พ่อใหม่' ที่ลูกอยากมีเหมือนเพื่อนจึงถือโอกาสมาดูลูกตอนอยู่โรงเรียนไปด้วย
หลังจากจอดรถแล้วคุณแม่ยังสาวจูงมือเด็กน้อยเดินเข้าโรงเรียน เจ้าของมือเล็กนุ่มนิ่มในอุ้งมือของเธอนั้นเป็นคนที่เธอรักอย่างไม่มีเงื่อนไข เขาทำให้เธออยากเป็นคนที่ดีพอสำหรับคำว่าแม่
คำปรามาสจากผัวเก่าถูกลบล้างไปแล้วเพราะน้องไนน์บอกรักเธอทุกวัน นีนนีราแน่ใจว่าเขาไม่มีทางเสียใจที่เกิดมาเป็นลูกของเธอแน่นอน
"ไนน์" เสียงเล็กๆ ที่เรียกน้องไนน์ทำให้สองแม่ลูกหยุดชะงัก
เธอหันไปมองเพื่อนเจ้าก้อนแล้วก็ต้องกะพริบตาปริบๆ
"แม่ฮะ นี่วินนี่กับวิกกี้" น้องไนน์แนะนำให้เธอรู้จักเพื่อนตัวน้อย แล้วเธอก็ได้รู้จักกับพ่อแม่ของเด็กแฝดที่คนหนึ่งเรียบร้อยน่ารัก อีกคนหนึ่งเป็นเด็กมั่นใจเหมือนลูกชายเธอ
น้องวินนี่กับน้องวิกกี้ที่ลูกชายพูดถึงคือลูกสาวของ ไวท์ วฤทธ์ กับเพนนี คู่รักนักแสดงที่ตอนนี้โลกโซเชียลกำลังพูดถึงอย่างมากว่าพวกเขาอยู่กินกันลับๆ มานานแล้วแต่เพิ่งเปิดตัวครอบครัวให้โลกรู้ตอนลูกโต แฟนคลับของฝ่ายชายค่อนข้างเซอร์ไพรส์แต่ทุกคนก็ยอมรับและเปลี่ยนมาชื่นชอบพวกเขากันทั้งครอบครัวจึง บ้านนี้จึงแทบไม่มีข่าวด้านลบเลย
หลังจากที่ทักทายกันแล้วส่งลูกเข้าเรียน นีนนีรากลับมาที่รถแล้วก็ถอนหายใจอย่างทดท้อ
ตัวอย่างพ่อใหม่ของน้องไนน์ทำให้ความฮึกเหิมที่จะหาผัวใหม่ของเธอแทบเป็นศูนย์
"สเป็กสูงไปไหนนะน้องไนน์ แม่จะหาพ่อใหม่จากไหนให้ลูกได้เนี่ย" นีนนีราพึมพำเพียงลำพังเมื่อนึกไปถึงวฤทธ์ ผู้ชายที่น้องไนน์บอกว่าเป็นต้นแบบของพ่อที่เขาอยากได้ หญิงสาวมองบน คนหล่อสูสีกับวฤทธิ์ที่เธอเคยตกเข้ามาในชีวิตได้ก็คือพ่อแท้ๆ ของน้องไนน์
เธอคิดว่ามันไม่ยากหรอกถ้าจะหาคนหน้าตาดีมาเป็นสามี แต่จะหาคนที่อบอุ่นและใจดีแบบนั้นได้ที่ไหนก่อน เฮ้อ...
‘ไปบอกพ่อน้องไนน์ว่าเขาเป็นลูกก็จบ’ เสียงของจี้ที่ดังขึ้นข้างหูนีนนีราให้หญิงสาวหันไปสนใจทันที
คนที่พูดประโยคนี้ ไม่สิ จี้ไม่ใช่คน จี้เป็นอะไรตอนนี้เธอก็ให้นิยามไม่ได้ ในวันที่เธอคลอดน้องไนน์เธอมองเห็นจี้อยู่ข้างเตียงพักฟื้น รูปลักษณ์ชายชราแสนใจดีของจี้ทำให้เธอไม่กลัวและพยายามสื่อสารด้วย จี้ดีใจมากที่เธอมองเห็นเขา นับตั้งแต่นั้นมาวิญญาณชายชราก็แสดงตัวให้เห็นมาตลอด
ตอนแรกนีนนีราก็งงว่าเรื่องเหนือธรรมชาตินี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สุดท้ายเธอก็คิดว่านี่อาจจะเป็นพรจากสวรรค์เพราะจี้มักจะทำให้เธอมองเห็นอนาคตของคนอื่นแล้วได้บอกเหตุการณ์ล่วงหน้ากับพวกเขาคล้ายกับการดูดวง มันแม่นเหมือนตาเห็นจนหลายคนเรียกเธอว่าแม่หมอ ส่วนคนไม่ดีที่เข้ามาในชีวิตจี้ก็ช่วยกรองให้ นีนนีราเลยไม่กังวลที่มีวิญญาณของจี้ติดตามแม้บางครั้งจะมีเพื่อนสนิทที่รู้เรื่องแล้วมาล้อว่าจี้เป็นผีและเธอเป็นร่างทรงก็ตามที
'นีราห้ามดูดวงให้ยัยนั่นอีกนะ ยัยนั่นหาว่าฉันเป็นผี ฉันไม่ยอม' ตอนนั้นจี้โวยวายจนหูคนฟังแทบชา เธอเลยถามว่าแล้วตกลงจี้เป็นอะไร คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบ สรุปจี้เองก็ไม่แน่ใจว่าจี้เป็นอะไร แต่ที่แน่ๆ คือห้ามบอกว่าจี้เป็นผี ไม่อย่างนั้นจี้จะโกรธ!
"จี้ ที่จี้ให้บอกเรื่องลูกพี่อัยย์ก่อนหย่านี่คือความคิดเห็นหรือดูดวงแล้วเห็น" นีนนีราหันไปถามชายชราที่นั่งเล่นอยู่บนคาร์ซีตของน้องไนน์
ดูรวมๆ แล้วจี้อาจจะไร้ความน่าเชื่อถือแต่จี้ก็ไม่เคยบอกอะไรผิดพลาดยกเว้นครั้งนี้ที่นีนนีราฟังแล้วต้องทวนซ้ำ
‘จี้บอกแล้วไง มองไม่เห็นอนาคตนีราเลย มองไม่ออก ดำมืดไปหมด’
“ถ้าเป็นแค่ความคิดเห็นก็เงียบไปเลยจี้”
"อ้าว"
"จี้มาทีหลัง จี้ไม่รู้หรอกว่าเขากับนีราเข้ากันไม่ได้ขนาดไหน ถ้าจะหาพ่อให้ลูกก็คงต้องหาใหม่ไม่เอาคนเก่าแน่นอน"
‘เข้ากันไม่ได้เหรอ’ จี้ทำท่าเหมือนลำบากใจที่จะพูดแต่สุดท้ายก็พูดออกมา ‘ขอพูดในฐานะที่สนิทกันนะ คนแบบนีราหาผัวใหม่ยากแน่ ลองง้อผัวเก่าก่อนไหม’
"จี้!" นีนนีราโมโห แต่แน่นอนว่าทำอะไรไม่ได้
ปกติจี้ก็มีประโยชน์ที่คอยช่วยทำนายอนาคตเล็กๆ น้อยๆ ให้คนรอบข้างแต่เรื่องเธอจี้กลับทำนายไม่ได้ซ้ำยังออกความคิดเห็นบ้งๆ แบบคนที่ชอบแอ๊บใสทำตัววัยรุ่นแต่หัวโบราณที่สุด
"จะโกรธก็โกรธ จี้แค่พูดไปตามเนื้อผ้า"
เนี่ย... คนทันสมัยที่ไหนจะใช้ประโยคแบบนี้ มีแต่คนหัวโบราณอย่างจี้เท่านั้นแหละ ไม่อยากคุยด้วยแล้ว โกรธ!
นีนนีราถอนหายใจ แล้วขับรถไปทำงานโดยมีชายชราผู้ชื่นชอบคาร์ซีตเด็กจนพยายามที่จะนั่งมันแต่เพราะเขาตัวโตเกินไปจึงยัดได้เพียงเสี้ยวหนึ่งของตูดบนเบาะสีดำเข้มให้พอได้ขึ้นชื่อว่านั่ง
เฮ้อ...
ทำไมนีนนีราต้องมาเห็นภาพนี้อยู่คนเดียวด้วยเนี่ย เกิดเป็นเธอนี่น่าปวดหัวที่สุดเลยจริงๆ