เด็กชายตัวเล็กที่นั่งแกว่งขาเล่นอยู่ชะงักเมื่อเห็นกลุ่มคนเดินออกมาจากห้องที่แม่กับพ่อหายเข้าไปในนั้น ผู้ชายทั้งสี่คนหันมามองเขาแล้วก็ยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านไปทางหน้าบ้าน สักพักน้องไนน์ก็กระโดดผลุงลงจากโซฟาเพราะเห็นนีนนีราเดินนำอัครวัตรออกมา
"น้องไนน์ รอนานไหมลูก" แม้จะมีความขัดแย้งกับสามี แต่เธอเลือกที่จะวางเรื่องอื่นไว้ข้างหลัง
นีนนีราเดินเข้ามาหาลูกชายแล้วเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน มือเรียวลูบศีรษะลูกชายอย่างแสนรัก แน่นอนว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาของอัครวัตร
"ไม่นานฮะ" เด็กชายบอกแล้วปรายตาไปมองคนตัวโต สบตาได้คู่เดียวก็รีบหลบตา
"เดี๋ยวแม่จะแนะนำให้รู้จักคุณพ่อนะลูก คุณคนนี้คือคุณพ่ออัยย์ คุณพ่อแท้ๆ ของน้องไนน์จ้ะ" เธอผายมือให้ลูกชายมองคนที่เขาอยากเจอที่สุด
นีนนีราทั้งขำทั้งสงสารที่ลูกชายอยากแคนเซิลพ่อทั้งที่ก็อยากมีพ่อ หญิงสาวเข้าใจมากๆ เพราะเธอเองก็อยากแคนเซิลผัวทั้งที่ลึกๆ ก็ยังตัดใจจากเขาไม่ได้เหมือนกัน เฮ้อ...
อัครวัตรนั่งทับส้นเพื่อให้ความสูงของเขาอยู่ระดับเดียวกับเด็กชายที่เขาแทบไม่มีข้อสงสัยว่าเป็นลูกของตัวเองจริงไหม มองด้วยสายตาตัวเองเด็กชายเหมือนเขาตอนเด็กและเหมือนหลานคนโตของเขาที่เพิ่งจากไปมากๆ แต่ก็แค่หน้าเหมือนเด็กน้อยตรงหน้าเขามีแววตาดื้อดึง ท่าจะรั้นและเป็นตัวของตัวเองน่าดู นิสัยนี้คือดีเอ็นเอส่วนของแม่ชัวร์ แววตาของเด็กน้อยกับมารดามันดูเป็นแววตาเดียวกันชัดๆ
"มาหาพ่อสิ"
เขากวักมือเรียก น้องไนน์เงยหน้ามองมารดา พอนีนนีราที่ยืนน้ำตาคลออยู่พยักหน้ายิ้มๆ เด็กน้อยก็เดินไปหาพ่อที่เขาปรารถนามาตลอด แม้จะไม่เหมือนที่จินตนาการเอาไว้แต่นี่ก็คือพ่อเชียวนะ
แม่ให้ไปหาพ่อได้แปลว่าแม่คงโอเคกับพ่อแหละ
เด็กชายก้าวเข้าไปหาคนตัวโต อัครวัตรวาดวงแขนออกมากอดน้องไนน์เอาไว้โดยอัตโนมัติ เด็กชายตาโตขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่เคยโดนพ่อกอดมาก่อน อ้อมอกอบอุ่นทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาวูบหนึ่ง ใบหน้าของเด็กน้อยเหมือนจะยิ้มก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่เชิงเมื่อรู้สึกว่าพ่อที่น่ากลัวก็ให้ความอุ่นกับเขาได้อย่างน่าทึ่ง
กอดลูกแน่นๆ ได้ครู่หนึ่งแล้วอัครวัตรก็กระซิบบอกข้างหูน้องไนน์
"พ่อจะเป็นพ่อน้องไนน์ตลอดไป แคนเซิลไม่ได้"
เสียงที่บอกอ่อนโยนจนทำให้น้องไนน์พยักหน้าหงึกๆ
เรื่องอะไรจะแคนเซิล ใครจะอยากตัดตัวเองแบ่งให้พ่อกับแม่คนละครึ่งกันล่ะ
ถ้าแม่ถามว่าชอบพ่อหรือเปล่า หัวเด็ดตีนขาดยังไงน้องไนน์ก็คงต้องบอกว่าพ่อคนนี้แหละน้องไนน์คอนเฟิร์ม!
เด็กชายปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเองเบาๆ แค่คิดว่าจะโดนตัดแบ่งครึ่งก็ใจจะขาดแล้ว เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นจริงๆ แน่นอน ไม่มีวัน...
'นีรา ไปกอดลูกกับผัวสิ งานครอบครัวสุขสันต์ต้องมาแล้วนะ' จี้แนะนำ
นีนนีราส่ายหน้าพรืด เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าห่วง เธอก็แสร้งขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยให้ลูกชายดื่มด่ำกับการมีพ่ออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็กลับมาบอกอัครวัตรว่าขอตัวกลับก่อนไปทำธุระอื่นต่อ ชายหนุ่มเองก็จะบินไปสิงคโปร์ช่วงบ่ายเลยยอมให้เธอกลับ ส่วนคนที่อยากเจอพ่อมากมายก็ไม่เซ้าซี้ขออยู่ต่อพอแม่ชวนกลับก็พยักหน้าหงึกหงักเตรียมเผ่นพอกัน พอเอ่ยลาแล้วสองแม่ลูกก็เดินกลับไปที่รถโดยมีอัครวัตรและกิตติเดินมาส่งที่หน้าบ้าน
"ถ้าพี่โทรหา รับสายพี่ด้วยนะ"
อัครวัตรเอ่ยตามหลังมา นีนนีราได้ยินแล้วก็หันกลับมามอง
"นีราไม่เคยไม่รับสายพี่"
แล้วเธอก็เดินออกไป
แววตาคู่คมทอดมองนีนนีรากับลูกชายด้วยความรู้สึกที่ยากจะอ่านออก
"ตามสองคนนั้นไป แล้วรายงานฉันทุกฝีก้าว" เขาบอกคนข้างตัว กิตติรับคำแล้วเดินออกไปขึ้นรถยุโรปของตนแล้วขับตามรถคันเล็กไปห่างๆ แบบไม่ให้พวกเขารู้ตัว