12

2731 Words
นีนนีราควักปากกาออกมาจากกระเป๋าคล้องไหล่ สายตาของเธอเล็งไปที่ใบหย่าแล้วเซ็นชื่อไปโดยไม่อิดออด สิ่งนี้สร้างความแปลกใจให้อัครวัตรพอสมควร อัครวัตรกำลังจะหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นแต่ความเคลื่อนไหวตรงประตูบ้านทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงัก เด็กชายตัวเล็กที่วิ่งตื๋อเข้ามาข้างในบ้านแล้วเรียกหานีนนีราด้วยคำสะดุดหู "แม่ฮะ" คนที่นั่งรอลุ้นให้อัครวัตรเซ็นเอกสารหันขวับไปมองลูกชาย เธอตกใจที่เจ้าก้อนเล่นนอกบทแต่ก็รีบเดินไปจูงมือเด็กชายเอาไว้ เพราะมีข่าวเรื่องลืมเด็กไว้ในรถหนาหูเธอจึงสอนให้ลูกลงจากคาร์ซีตรวมทั้งเปิดรถออกมาเองได้ เมื่อครู่เธอคงใจลอยจนลืมล็อกรถไว้ เด็กชายจึงลงมาหาเธอได้ "น้องไนน์ มีอะไรลูก" "แม่หายมานาน ไนน์ก็เลยมาตาม" ไม่ได้นานเลยลูกเอ๊ย หญิงสาวเถียงเจ้าก้อนที่คงตื่นเต้นจนใจร้อน แต่มันก็เจียนจะถึงเวลาที่ต้องคุยเรื่องนี้แล้ว ใบหย่าเธอก็เซ็นไปแล้ว เขาคงไม่หาว่าเธอเล่นแง่อะไร หญิงสาวจูงมือเจ้าก้อนเดินเข้าไปในตัวบ้านเพื่อเผชิญหน้ากับเขา "พี่อัยย์เซ็นเอกสารได้เลยค่ะ" "เด็กนั่นเป็นใคร" คนที่กำลังจะเซ็นใบหย่าถามถึงเด็กชายที่เธอจูงมือมาด้วย "ลูกพี่อัยย์นั่นแหละค่ะ" เธอบอกตรงๆ "โกหก!" นีนนีรามองบน "รีบเซ็นชื่อให้มันจบๆ ก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยมาคุยกัน" อัครวัตรมองเด็กชายที่ค่อยๆ ก้าวเข้าไปหลบที่ด้านหลังของนีนนีรา เขาวางปากกาลงบนเอกสารดังปึกแล้วเงยหน้าขึ้นมองนีนนีราด้วยสายตาดุ "เล่นอะไรของเธอ!" เสียงดุๆ นั้นทำให้น้องไนน์กำมือเธอแน่น ขนาดชายอกสามศอกอย่างจี้ก็ถอยมายืนข้างหลังเธอเหมือนกัน กวาดสายตามองแต่ละคนแล้วนีนนีราก็มองบน ทำไมผู้ชายที่อยู่รอบข้างเธอล้วนทำตัวน่าปวดหัวทั้งนั้น โดยเฉพาะคนตรงหน้าเนี่ย เฮ้อ... น้องไนน์ค่อยๆ โผล่หน้าออกมาดูคนหน้าดุ แถมยังใส่ชุดสีดำสนิทจนตัวของเขาสูงใหญ่ทมึนน่ากลัว คุณคนนี้ไม่ได้ดูใจดีเหมือนพ่อของวินนี่กับวิกกี้เลย น้องไนน์คิดว่าเขาเหมือนปีศาจมากกว่า "แม่ นั่นพ่อเหรอครับ" เด็กชายเขย่ามือมารดาแล้วถาม ในใจของเด็กน้อยคาดหวังว่า นั่นคงไม่ใช่พ่อของเขา นีนนีราแทบจะทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์นี้ หญิงสาวไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเธอต้องมาบอกกับลูกและสามีเก่าไปพร้อมๆ กันว่าพวกเขาคือพ่อลูกกัน ถ้าน้องไนน์ไม่ได้บอกว่าอยากรู้จักพ่อที่แท้จริง เธอจะไม่มีวันยอมพูดเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด "นีราไม่ได้พูดเล่น น้องไนน์ เป็นลูกของนีรากับพี่อัยย์" เธอหันไปบอกคนตัวโตด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วหญิงสาวก็หันมาบอกลูกชายด้วยคำพูดกับแววตาและท่าทางที่อ่อนโยนกว่าเป็นร้อยเท่า "น้องไนน์ คนนี้คือพ่อของหนู พ่อแท้ๆ เลย" น้องไนน์มีสีหน้าผิดหวังสุดๆ เด็กน้อยรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ส่วนอัครวัตรนั้นกำลังมองหน้าคนที่เรียกนีนนีราว่าแม่ให้ชัดอีกครั้ง ใบหน้าของเด็กชายเหมือนใครคนหนึ่งในความทรงจำของเขา ถ้าคนที่เคยแต่งงานกับเขาบอกว่าเป็นลูกเขากับเธอ อัครวัตรก็คงเถียงไม่ออก เพราะดีเอ็นเอมันอยู่บนหน้าเด็กชัดเจนมาก แต่ที่เขาครุ่นคิดอยู่นั้นเป็นเพราะกำลังนึกย้อนกลับไปว่าชีวิตหลังแต่งงานของเขากับเธอที่ได้ใช้ร่วมกันนั้นมีเพียงแค่สองอาทิตย์ เราสองทะเลาะกันรุนแรงตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย อัครวัตรแน่ใจว่าเขาไม่เคยแตะต้องเธอเพราะคิดว่าตัวเองได้แต่งงานกับคนไม่ตรงปก ก่อนแต่งงานย่าของเขาแนะนำเธอให้เขาก็แต่งกับเธอง่ายดายเพราะคิดว่านีนนีราเป็นผู้หญิงที่สวย ชาติตระกูลดี การศึกษาดี แต่คืนแรกที่เข้าหอเธอก็ร้ายใส่เขาแล้ว พออยู่ด้วยกันจริงๆ เขากับเธอทะเลาะกันทุกวัน ยกเว้นวันสุดท้ายที่เขาเมามายอย่างหนักเพราะเซ็งกับชีวิตแต่งงาน คืนนั้นนีนนีราเอ่ยคำขอโทษ เธอบอกว่าอยากเริ่มต้นใหม่ แล้วก็พูดหวานๆ กับเขา ตอนนั้นเขาคิดว่าจะลองทบทวนชีวิตคู่ใหม่ ทว่าเมื่อสร่างเมาขึ้นมาในเช้าวันใหม่เขาก็รู้ว่านีนนีราคนนั้นเป็นแค่คนในฝันเพราะเธอยังเป็นคนเดิมที่แว้ดๆ ใส่เขาแต่เช้า พอเขาบอกว่าเธอร้ายเหมือนแม่มด หญิงสาวก็ยิ่งปรี๊ด "พี่อัยย์ ไม่เคยได้ยินที่เขาพูดกันเหรอคะว่าถ้าอยากเมียเป็นนางฟ้าก็ต้องสร้างสวรรค์ให้เมียอยู่ พี่คิดเหรอคะว่าพี่สร้างบรรยากาศให้เป็นนรกแล้วจะมาบังคับให้นีราเป็นนางฟ้าได้" แล้วเขากับเธอก็ทะเลาะกันอีกหนึ่งยก อัครวัตรคิดว่านีนนีราคนอ่อนหวานช่างเอาใจคนนั้นมีจริงแค่ในฝัน เขาเลยขอแยกทางกับเธอ แต่การที่เธอพาเด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่าเป็นลูกเขาทำให้อัครวัตรรู้สึกถึงก้อนแข็งๆ ในลำคอ ลมหายใจของเขาเหมือนจะขาดห้วงเมื่อคิดว่าคืนนั้นอาจจะไม่ใช่ฝัน... ดวงตาของชายหนุ่มฉายแววสับสนขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่สีหน้าของเขาก็ยังเคร่งขรึมอยู่เหมือนเดิมเพราะไม่รู้ว่านีนนีราจะมาไม้ไหนกันแน่ถึงได้เก็บลูกไว้แล้วมาเปิดเผยในวันนี้ "นีราเซ็นชื่อของนีราไปแล้ว พี่อัยย์ช่วยเซ็นชื่อก่อนเถอะค่ะ แล้วเรื่องอื่นค่อยมาคุยกันทีหลัง" เธอเตือนสติชายหนุ่มว่าเขายังไม่ได้เซ็นใบหย่า เขาได้ยินนีราหันไปกระซิบลูกชายเบาๆ ว่า 'เดี๋ยวแม่หาพ่อให้ใหม่' แล้วหัวคิ้วของเขาก็กระตุก พ่อใหม่งั้นเรอะ? "เรามีเรื่องต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว" อัครวัตรเอ่ยขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดเรื่องหย่าต่อหน้าคนที่ไปยืนหลบหลังนีนนีรา หญิงสาวเองก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าลูกชายเหมือนกันเพียงแต่มันผิดแผน ถ้าเพียงแต่น้องไนน์ไม่วิ่งเข้ามาพวกเธอคงหย่ากันสำเร็จแล้ว เธอหันไปมองจี้ที่สบตากับเธอพอดี เหมือนจี้จะรู้ว่าเธอต้องการถามอะไร 'มองไม่เห็นอะไรเลยนีรา มันดำมืดไปหมด มืดเหมือนชุดผัวนีราเปี๊ยบ งานนี้จี้ขอเป็นกำลังใจให้นะ จี้มองไม่เห็นอนาคตเลยจริงๆ' พอจี้บอกอย่างนั้น หญิงสาวก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ฮึ่บไว้แล้วทำภารกิจหย่าให้สำเร็จ "เดี๋ยวนีราขอตกลงกับลูกแป๊บหนึ่งก่อนนะคะ" หญิงสาวหันไปหาน้องไนน์ "น้องไนน์แม่มีธุระสำคัญจะคุยกับพ่อ น้องไนน์รอก่อนได้ไหมครับ" "นั่งรอตรงนี้ก่อน ผู้ใหญ่มีเรื่องต้องคุยกัน ห้ามเล่นซน เข้าใจไหม" เสียงเข้มๆ ของอัครวัตรเอ่ยกับน้องไนน์ คำสั่งของคนตัวโตที่พูดเหมือนเขาเป็นเด็กเพิ่งวิ่งเป็นไม่รู้ประสาทำให้เด็กชายวัยสี่ขวบกว่ากอดอกแล้วจ้องคนตรงหน้าหัวจดเท้า แววตาของหนุ่มน้อยมองอย่างอัครวัตรครุ่นคิดแล้วก็เงยหน้าไปบอกมารดา "แม่ครับ ถ้าคนแบบนี้เป็นพ่อ ไนน์ไม่อยากมีพ่อแล้ว แคนเซิลพ่อได้ไหมครับ" นีนนีรายิ้มกว้าง คำพูดนี้หลุดออกมาจากปากคนที่เรียกร้องหาพ่อจนเธอลำบากใจ น้องไนน์คงไม่รู้ตัวว่าได้เอ่ยประโยคที่ปลดพันธนาการมากมายออกจากหัวใจของเธอโดยสมบูรณ์ การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่ต้องง้อผัวเก่าเพื่อสภาพจิตใจลูกคือลาภอันประเสริฐที่สุด! อัครวัตรขมวดคิ้ว เขาเคยคิดว่านีนนีราร้ายแล้ว ดีเอ็นเอยังส่งต่อผ่านไปยังลูกชายได้ขนาดนี้เชียวหรือ เขาถึงได้เขม่นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเหมือนที่เคยชังน้ำหน้าของแม่เด็กมันไม่มีผิด คนเป็นแม่บอกจะหาพ่อใหม่ คนเป็นลูกบอกจะแคนเซิลพ่อ ถามพ่ออย่างเขาหรือยัง! เพราะความหมั่นไส้ อัครวัตรจ้องตาเด็กชายตัวเล็กที่ตอนแรกกลัวเขา แต่ตอนนี้เหมือนเจ้าตัวน้อยเอาชนะความกลัวแล้วมาสู้เขาแทน "แคนเซิลพ่องั้นเหรอ เลือดในตัวของนายครึ่งหนึ่งมาจากฉัน ถ้าไม่อยากได้ฉันเป็นพ่อก็ตัดตัวนายครึ่งหนึ่งแบ่งมาคืนฉัน" เขาบอกเสียงดุ เด็กชายอ้าปากค้าง ตัดตัวออกไปครึ่งหนึ่งงั้นเหรอ เขาจะไม่เจ็บจนตายหรือไง แค่ขอบหนังสือนิทานบาดมือเขาก็เจ็บมากแล้ว ให้ตัดครึ่งตัว เขารับไม่ไหวแน่ ฮือ..... เด็กชายวิ่งไปกอดมารดาแล้วร้องไห้ นีนนีรามองบน ยังไม่ทันจะว่าอะไรไอ้ผัวชั่วก็ยืนขึ้นเต็มความสูง "เอาเด็กนั่นไปเก็บ แล้วตามมาคุยกันให้รู้เรื่อง" แล้วเขาก็เดินนำเข้าห้องไป คุณแม่คนสวยถอนหายใจเหมือนหมดแรง... ทำไมอนาคตคนอื่นเธอมองเห็นทั้งหมด แต่อนาคตตัวเองกลับเลือนรางมองไม่เห็นอะไรจนเธอนึกสงสารตัวเอง อย่างน้อยพระเจ้าก็ควรจะชี้ให้เธอเห็นหนทางสว่างสักหน่อยไหม ไม่ใช่ต้องให้พุ่งเข้าชนปัญหาเองอย่างนี้ เฮ้อ... นีนนีราเดินตามอัครวัตรเข้าไปในห้อง พอเห็นผู้ชายนั่งรออยู่หลายคน หญิงสาวก็หันไปมองอัครวัตร "คุณอัยย์ การเจรจาขั้นแรกไม่สำเร็จใช่ไหมครับ" กิตติที่นั่งรออยู่ลุกขึ้นมาถามเมื่อเห็นอัครวัตรเดินเข้าไป นีนนีราทำหน้างง แต่ต่อมาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าหนึ่งในกลุ่มคนตรงหน้าคือทนายมีฝีมือ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้ออกสื่อเยอะแต่หญิงสาวจำได้ว่าหนึ่งในคนเหล่านี้เคยช่วยทำคดีให้ปาลาวันในช่วงที่เขาต้องขึ้นโรงขึ้นศาล อัครวัตรคงจ้างคนเหล่านี้มาจัดการกับเธอแน่ ช่างเตรียมพร้อมอย่างเวอร์วังสมกับที่เป็นเขาจริงๆ แต่ในเมื่อเธอไม่อิดออดที่จะหย่าคนเหล่านี้ย่อมไม่มีความหมาย แล้วอัครวัตรจะพาเธอมาคุยต่อหน้าพวกเขาเพื่ออะไร "ตอนนี้ระหว่างฉันกับนีนนีรามีตัวแปรบางอย่างเปลี่ยนแปลง การหย่าเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด" "..." นีนนีรา "..." กิตติ "..." ทีมทนาย ‘งานเข้า’ มีเพียงจี้ที่พูดออกเสียง แต่แน่นอนว่าไม่มีใครได้ยินยกเว้นนีรา หญิงสาวเห็นด้วยกับจี้ งานเข้าแล้วจริงๆ "นีราเซ็นใบหย่าไปแล้ว พี่อัยย์ไปเซ็นให้มันสมบูรณ์ก่อนเถอะค่ะ เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกันทีหลัง" หญิงสาวเพิ่งหาปากตัวเองเจอ เธอบอกกับอัครวัตรต่อหน้าทีมทนายและผู้ช่วยของเขา คนตัวโตปรายตามองเธอเล็กน้อย เขากอดอกแล้วเพ่งมองเธอด้วยสายตาจับผิด เสียงจี้กระซิบข้างหูว่าทำทางของเขาเหมือนน้องไนน์ไม่มีผิด "เธอต้องพูดมาก่อนว่าทำแบบนี้ เธอต้องการอะไร" "หมายถึงเรื่องเก็บลูกไว้ เรื่องยอมหย่าง่ายแบบผิดคาดหรือว่าเรื่องไหนคะ" "ทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องลูก ทำไมปกปิดเอาไว้" "เพราะนีรารู้ว่าท้องในตอนที่เราแยกกันอยู่แล้ว พูดไปก็คงอึดอัดใจกัน นีราตั้งใจว่าจะไม่พูดตลอดไปเลย แต่เมื่อวานอยู่ดีๆ ลูกก็อยากเจอพ่อ นีราก็เลยพามาดูแค่ให้แกได้รู้ว่าคนนี้คือพ่อ นีราไม่ได้บังคับให้พี่อัยย์ต้องรับผิดชอบอะไรเรื่องลูกเพราะถ้าจะให้รับผิดชอบก็คงบอกตั้งแต่ตอนที่ท้องแล้ว" หญิงสาวบอกด้วยเสียงเรียบๆ แววตาคู่สวยมองเขาอย่างแน่วแน่ เพราะเธอหมายความอย่างที่พูดจริงๆ "แล้วเรื่องที่นีราหย่าง่ายๆ ก็เพราะตอนนี้คนในวงสังคมคงลืมใบหน้าค่าตาของลูกสาวเจ้าของคุ้มเวียงทิพย์ไปแล้ว ดังนั้นเราก็หย่ากันได้แบบไม่ต้องอายใคร เรื่องสมบัติไม่ต้องกลัวว่านีราจะเรียกร้องอะไรนะคะ นีรามีงานทำและดูแลตัวเองกับลูกได้ ส่วนเรื่องลูกพี่อัยย์จะยอมรับแกหรือไม่ก็ตัดสินใจเองเลย ถ้าพี่บอกว่าไม่ต้องการลูกนีราจะไม่ก้าวก่ายและไม่โกรธ" อันที่จริงเธออยากพูดอะไรต่ออีกมากมาย แต่เสียงสะอื้นไห้เหมือนเสียประเทศชาติให้อริราชศัตรูหมดสิ้นทำให้เธอไม่เอื้อนเอ่ยอะไรอีก นาทีนี้อยากพูดคำเดียวว่าจี้ช่วยหยุดร้องไห้หน่อยได้ไหม ไหนๆ อิพี่อัยย์มันจะฟังนีราแล้วก็ขอพูดให้สมกับที่ไม่ได้พูดมาห้าปีสักหน่อย เสียงร้องไห้ของจี้ทำให้นีราไม่ได้ยินอะไรแล้วนะ เฮ้อ... ทีมทนายและกิตติหันมามองหน้าอัครวัตรว่าพวกเขาจะต้องทำอย่างไรต่อ เหมือนว่าคดีจะพลิกไปเสียแล้ว คนที่อยากฟ้องหย่าน่าจะเป็นนีนนีรามากกว่าแล้วตอนนี้ "พี่จะรับผิดชอบลูก" "ก็แล้วแต่พี่อัยย์จะพิจารณาค่ะ ไว้เราค่อยมาว่ากันทีหลังว่าขอบเขตที่เหมาะสมของการรับผิดชอบเรื่องลูกอยู่ตรงไหน นีราขอบอกไว้ก่อนว่าลูกไม่ได้อยากได้เงินทองจากพี่อัยย์ เขาแค่อยากมีพ่อเหมือนที่เพื่อนคนอื่นมี ถ้าอยากรับผิดชอบก็ขอแค่ให้เวลากับลูก แล้วก็ใจดีกับลูกสักหน่อย แค่นั้นเขาก็คงมีความสุขแล้ว" นีนนีราพูดแข่งเสียงสะอื้นของจี้ คน เอ๊ย วิญญาณที่เธอไม่แน่ใจแล้วว่ามาช่วยหรือมาเป็นตัวถ่วงกันแน่... "แล้วพี่ก็จะไม่หย่า" "..." คราวนี้นีนนีราพูดไม่ออก ส่วนจี้ก็หุบปากฉับจนเสียงเงียบในบัดดล "จะยื้อไว้เพื่ออะไรก่อน เรื่องรับผิดชอบลูกกับเรื่องทะเบียนสมรสของเรามันคนละเรื่องกันนะคะ" "พี่ไม่รู้ว่าเธอมีแผนอะไร ตอนนี้พี่ทำได้แค่ทำตรงข้ามกับที่เธอต้องการไว้ก่อน" "พี่อัยย์จะบ้าเหรอคะ" นีนนีราทำท่าเหมือนจะอกแตก ในหูเธอได้ยินเพียงเสียงพึมพำของจี้... 'เออ พ่อเจ้าไนน์มันบ้าดีเดือดจริงๆ ถึงว่าไม่ถูกกับนีรา นิสัยแต่ละคนไม่ยอมใครเลย' อัครวัตรไม่สนใจนีนนีรา เขาหันไปบอกกิตติให้เรียกรถมารับทนาย นอกนั้นแล้วก็เอ่ยขอโทษทีมทนายที่เปลี่ยนแผนกะทันหันและขอบคุณที่พวกเขามาในวันนี้ ชายหนุ่มหันไปมองคนที่หันไปมองผนังบ้านเขาเหมือนสนใจ เธอหันมาหาเขาแล้วเอ่ยปาก "ถ้าพี่อัยย์ไม่หย่า นีราจะใช้สิทธิ์ความเป็นเมียพี่ให้เต็มที่แบบที่พี่ต้องร้องขอชีวิต คิดให้ดีนะคะ" พอเขาบอกว่าจะทำตรงข้ามกับที่เธอต้องการ นีนนีราก็เปลี่ยนจุดยืนทันที หัวคิ้วของอัครวัตรย่นเข้าหากันนิดเดียว ทว่าเขาก็ไม่ได้ทำสีหน้ากังวลใจอะไร "พาพี่ไปทำความรู้จักกับลูกหน่อย" นีนนีราทำท่าเหมือนจะทึ้งหัวตัวเองกับความกวนตีนของเขา เมื่อก่อนคงมีรบรากันไปข้าง แต่ตอนนี้เธอตั้งหลักไม่ทันจริงๆ เลยเดินออกไปทางประตูที่กิตติกับทีมทนายเพิ่งเดินออกไปก่อนหน้านี้ ในหัวของเธอนึกถึงอดีต มีหลายอย่างที่เธอทำแล้วเขาไม่ชอบ แม้ตอนนี้เธอจะโตขึ้นและเปลี่ยนนิสัยบางอย่างไปแล้ว แต่งานนี้คงต้องงัดออกมาแสดงออกให้หมด เจอคุณหนูนีนนีราคนเก่าสักแมตช์ รับรองเลยว่าเขาต้องยอมเซ็นใบหย่าในสามวันเจ็ดวันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD