Grrrr Grrrr กอหญ้าที่กำลังลงจากรถหลังจากจอดเรียบร้อย ล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายหยิบโทรศัพท์ ที่ดัังอย่างต่อเนื่อง...
“กิ๊ก!...” กอหญ้ากรอกเสียง เมื่อหน้าจอแสดงภาพคนที่โทรเข้ามา
“เป็นไงบ้าง?...”
“คุณกิ๊ก! เพื่อนสาว ดีขึ้นแล้วเหรอ?” กอหญ้าเลี่ยงไม่ตอบคำถามเพื่อน ที่ต่างเข้าใจกันดีว่า กิ๊ก โสภิตา อยากทราบผลการสรุปว่าเธอตกลงเซ็นสัญญากับทางช่องมั้ย?
“ก็ดีขึ้นมากแล้ว...แล้วเป็นไงบ้าง...เล่ามาหน่อยสิ”
“วันมะรืนนี้ ฉันและก็แกที่ยังป่วยอยู่ มีสอบปลายภาค สนใจเรื่องนี้ก่อนมั้ย?” กอหญ้าเลี่ยงที่จะบอกเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องนึกถึงผู้ชายที่มีดีแต่หน้าตาคนนั้น...คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์... “...ฉันไม่มีทางที่จะให้ผลงานของฉันต้องแปดเปื้อนกับคนนิสัยอย่างนายแน่นอน...” กอหญ้าคิดในใจ ในขณะหูก็ฟังเสียงเพื่อนสาวที่กำลังจามเพราะอาการไข้หวัด
“แล้วบอกหน่อยไม่ได้เหรอไง คนมันอยากรู็และเป็นห่วงแกมาก...” กิ๊ก บ่นร่ายยาว ถามกลับอย่างเป็นห่วง
“…กิ๊ก!!! เพื่อนสาว หญ้าอายุครบยี่สิบเอ็ดแล้วนะ! ซึ่งถึงแม้จะไม่เท่ากับแก...หญ้าก็ดูแลตัวเองได้ และหญ้าก็กลับมาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย...ไปพักผ่อนซะ!!! และถ้านอนไม่หลับก็ไปหยิบหนังสือมาอ่านทบทวน ถึงกิ๊กจะเรียนเก่ง ถึงเก่งมาก แต่ก็ไม่ควรประหลาด เดี๋ยวไอ้สิ่งที่หวังไว้ เกียรตินิยม มันจะหลุดไป....”
“คนอุตส่าห์เป็นห่วง...” กิ๊กบ่นอุบอิบ ใช่! เธอต้องได้เกียรตินิยม และเธอต้องพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้คนสำคัญที่นอกเหนือจากพ่อ เห็นว่าเธอไม่ใช่คนประเภทที่อารมณ์พาไป เธอรักเขาจริงๆ
“...ไว้เรียนให้จบ โตขึ้นอีกหน่อย...ถ้าถึงตอนนั้นกิ๊กยังไม่เปลี่ยน ตอนนั้นเราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง...” คำพูดของผู้ชายที่เธอสารภาพรักเมื่อสี่ปีก่อน ซึ่งกิ๊กไม่มีวันลืม นี้ก็เหลืออีกไม่กี่วันเธอก็จะจบ แน่นอนเธอจบแน่ๆ แต่เธอจะเอาเกียรตินิยม เป็นของขวัญให้กับเขาคนนั้น คนที่เป็นรักแรกของเธอ และตอนนี้เธอก็ยังรักเขาอยู่
“…รู้ค่ะ คุณแม่....” กอหญ้าเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อปลายสายหัวเราะ คริ คริ กับสรรพนามคำเรียกของเธอ ที่เป็นที่ถูกใจของเพื่อนสาวนัก
“คุณกอหญ้ากลับมาเร็วจังครับ”
“พอดีวันมะรืนนี้ หญ้ามีสอบเลยอยากกลับมาอ่านหนังสือนะคะ...รบกวนลุงด้วยนะคะ” ลุงหวังพยักหน้าอย่างเข้าใจกันกับประโยคหลังของกอหญ้า เพราะรถที่กอหญ้าใช้วันนี้ จะเป็นหน้าที่ของลุงหวังที่ต้องไปคลุมรถให้กับเธอเป็นประจำทุกครั้ง....
“ไม่มีปัญหาครับ...” กอหญ้ากล่าวขอบคุณ และขอตัวกลับขึ้นห้องไป
‘สองสัปดาห์ต่อมา....’
“คริสต์เป็นอะไรว๊ะ!...ทำหน้ายังกับคนเบื่อโลก!” กัณฑ์ เอ่ยถามคริสต์ ที่คืนนี้มาปรากฎตัวที่ผับของตัวเอง หลังจากที่หายหน้าไปกว่าสองสัปดาห์
“หาคนไม่เจอ...” คริสต์ตอบกลับเพื่อน และหยิบเครื่องดื่มสีอำพันที่พนักงานนำเสิร์ฟให้ในห้องวีวีไอพี ของผับแห่งนี้ คริสต์กับกัณฑ์เป็นเพื่อนกันตอนประถมที่คริสต์กลับมาอยู่เมืองไทยสองปีและทั้งสองก็เจอกันอีกครั้งที่อเมริกา จากตอนแรกที่แค่คุ้นๆ แต่เมื่อรู้จักกันมากขึ้นทำให้ทั้งสองระลึกได้ถึงความเป็นเพื่อนสมัยประถม ซึ่งกัณฑ์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่น้อยนิดที่รู้ว่า คริสต์ เป็นคนแบบไหน...
“หาคน?...ใครว๊ะ?”
“นักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ‘กอหญ้า’...”
“ไม่เข้าใจว๊ะ...หาไม่เจอยังไง”
“คุณแม่ ต้องการให้ฉันเล่นละคร เรื่อง ‘พ่ายกลซาตาน’ แต่......” คริสต์เล่าเรื่องราวให้กัณฑ์ฟัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่าาาาา....ฉันอยากเห็นนักเขียนคนนี้จริงๆ...ตั้งแต่รู้จักแกมา ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ ‘กล้า หือ กล้า หา’ กับแกเลย”
“ยายเด็กบ้านั้น...ปากจัดขนาดนั้น...ใครจะคิดว่าจะเป็นนักเขียน”
“เด็กมากเลยเหรอว๊ะ...” กัณฑ์ถามกลับอย่างสงสัย
“ไม่รู้ว๊ะ...ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ฉันยังหาเด็กนั้นไม่เจอเลย...คุณแม่กับพี่เขม ถามความคืบหน้าแทบทุกวัน...”
“แล้วที่สำนักพิมพ์ละว๊ะ?”
“นี่ก็แปลกมาก!...ไม่มีใครสามารถให้คำตอบฉันได้เลยว๊ะ...เขาบอกแต่ว่าเธอไม่เข้า มีอะไรให้ฝากข้อความไว้ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับเลย...ไม่รู้อะไรกันนักหนา” คริสต์พูดจบ พร้อมกับนำน้ำสีอำพันกรอกเข้าปากลงคออย่างคนที่กำลังเซ็งสุดๆ
“เท่าที่ฟังแกมา...ฉันเห็นด้วยว๊ะ แปลกจริง ดูมันมีลับลมคมนัยมาก...แล้วแกจะทำยังไงต่อ?...ถ้าเรื่องนี้หลุดจากช่องของแกไป คุณป้ากับพี่เขมคง ส่งค้อนใส่แกวันละหลายๆอันแน่...”
“…ทุกวันนี้ ฉันก็ได้รับจนแทบจะแบกไว้ไม่ไหวแล้ว...” คริสต์คำรามออกมา กัณฑ์ได้แต่ยิ้ม และนึกภาพออกทันที เพราะถ้าคุณหญิงศศิธรกับเขมิกาได้ร่วมมือกันจัดการอะไรแล้วไม่มีอะไรพลาดมือของทั้งสองคนนั้นไปได้ รวมถึงคริสต์ เพื่อนเขาตรงนี้ด้วย เพราะมนุษย์ต่างเพศที่เพื่อนคนนี้ของเขาแคร์ก็มีเพียงสองคนนั้นเท่านั้น..
“เอ่อ!...เกือบลืม ห้องแกเสร็จแล้วนะโว้ย!...นายเจฝากบอกมา เขาบอกว่าติดต่อแกไม่ได้ และแกก็ไม่เคยแวะไปดูเลย...” นายเจ ที่กัณฑ์กล่าวถึง คือเพื่อนของกัณฑ์ที่เปิดบริษัทเกี่ยวกับรับออกแบบและตกแต่งภายในอาคารบ้านเรือน และคอนโด
“ดีเลย!...ฉันไม่อยากกลับบ้านตอนนี้...”
“ทำไมว๊ะ...บ้านแกกับบ้านคุณป้าก็อยู่คนละหลัง ท่านก็สร้างบ้านหลังใหม่ให้แก...”
“แต่บนที่ดินเดียวกัน...ห่างกันแค่ทิวต้นไม้ขวางเท่านั้น...ประตูรั้ว และประตูทางเข้าก็ยังเป็นประตูเดียวกัน...คุณแม่กดดันสุดๆ ทุกวันที่ฉันกลับบ้าน คุณแม่ต้องให้แม่กาญวิ่งมาถามฉันถึงความคืบหน้า...” กัณฑ์ยิ้มแหยๆ มองเพื่อนอย่างน่าสงสาร พลังมวลชนว่าน่ากลัวแล้วแต่พลังหญิงของคุณหญิงศศิธรน่ากลัวยิ่งกว่า....
“ฉัน...ชักอยากเห็นนักเขียนคนนี้จริงๆเลยว๊ะ...” คริสต์ได้แต่นั่งแหงนหน้าพิงพนักอย่างเซ็งๆ เพราะเขาก็คิดแบบเดียวกับกัณฑ์ ที่อยากเห็นและเจอตัว สักที...แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพ้นทุกข์ แต่ก็ยังดีกว่าเจอแรงกดดัน จาก คุณแม่ที่เป็นมาตลอดสองสัปดาห์มานี้....
‘ ณ หน้าประตูทางเข้าสถานบังเทิง...’
“หญ้า!...ถึงไหนแล้ว” กิ๊กที่ยืนอยู่ด้านหน้าทางเข้าพร้อมกับกลุ่มเพื่อนชายหญิงที่มากันครบตามที่นัดไว้ ขาดแต่กอหญ้าที่ยังมาไม่ถึง
“ใกล้แล้ว!...” กิ๊ก ตอบรับและกดวางและหันกลับไปบอกกลุ่มเพื่อน เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาที รถสีแดงมินิคูเปอร์ เอสแฮทซ์ เลี้ยวเข้ามา และเข้าช่องจอด ข้างๆ Land Rover Discovery Sport สีดำ
“ขอโทษทุกคนด้วยนะ...” กอหญ้ากล่าวขอโทษเพื่อนทันที ที่เดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่ยืนรอกันอยู่หน้าทางเข้า
“เอาล่ะ!...ทุกคนพร้อมยัง...คืนนี้พวกเราจะสนุกกันสุดเหวี่ยง สอบเสร็จ จบแล้ว!....ไปกันเลย!!!!” กอหญ้าและเพื่อนทุกคนหันไปที่กิ๊ก ที่กล่าวอย่างกับหัวหน้ากลุ่มประท้วง ต่อจากนั้นกลุ่มใหญ่ของนักศึกษาที่พึ่งผ่านการสอบมาตลอดสองสัปดาห์ พร้อมเพรียงกันเดินเข้าไปด้านใน เมื่อมีการส่งบัตรให้กับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าตรวจสอบ
“หญ้าคืนนี้ ฉันอนุญาตให้ดื่มได้เต็มที่เลย!!!...สามแก้วนะจ๊ะ...”
“คร้าาาา!!!....คุณแม่” กิ๊ก หัวเราะกับคำตอบของเพื่อนสาว กอหญ้าอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักกับกิ๊ก โสภิตา เมื่อตอนปีหนึ่ง คงเป็นโชคชะตาหรืออะไรก็ตามแต่ เพราะพวกเธอเรียนกันคนละคณะแต่กลับเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเท่าที่สองคนเคยมีมาเลย...ย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน....
“คุณเป็นอะไรเหรอเปล่าคะ?” กอหญ้าที่เห็นหญิงสาวที่สวมนักศึกษา ที่ตราสัญลักษณ์เหมือนกัน
“ช่วยด้วย!...ฉัน...หายใจ...ไม่ออก!!!” กิ๊ก ที่หน้าซีดพยายามบอกหญิงสาวที่เข้ามาถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“เฮ้!!!....คุณมีอาการแพ้...รปภ! ช่วยด้วยค่ะ...เรียกรถพยาบาลด่วนเลยค่ะ คือเพื่อน เพื่อนฉันมีอาการแพ้อะไรสักอย่าง” กอหญ้าเมื่อพา กิ๊กมานั่งที่เก้าอี้ที่ใกล้ที่สุดในห้างสรรพสินค้า ก็รีบวิ่งไปหา รปภ. ขอความช่วยเหลือ