ตอนที่ 8.

1513 Words
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันเตรียมคำอธิบายไว้แล้ว ลูกต้องเข้าใจค่ะ” แพรพรรณเชื่อมั่นว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้ ตอนนี้มัสลินก็เข้าพิธีแทนลินินไปแล้ว ชั่วดียังไงหลานสาวของเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้ของเจ้าสัวโภคิน อีกฝ่ายคงไม่กล้าโวยวายให้เสียหน้า ส่วนชีวิตหลังจากนี้ของมัสลินเธอไม่คิดจะสนใจ งานเลี้ยงสิ้นสุดลง เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกส่งตัวเข้าหอ การแต่งงานที่มากพิธีแสนเหนื่อยทำให้สองหนุ่มสาวแทบยืนไม่ไหว “เหนื่อยหรือเปล่ามัส” ภานุเอ่ยถามเจ้าสาวของเขา “ยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนอีกค่ะ ยืนรับแขกจนปวดขาไปหมด พี่นุก็ท่าทางเหนื่อยไม่แพ้มัสเลย” มัสลินถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก้มลงนวดขาตัวเองให้คลายความเมื่อยล้า ไม่คิดว่างานแต่งงานจะเหนื่อยขนาดนี้ “พี่ขอสาบานเลยนะ ว่าจะแต่งงานครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว เข็ดจริงๆ” ภานุทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง “พี่นุไปอาบน้ำสิคะ จะได้หายเหนื่อย แช่น้ำอุ่นๆ จะได้สบายตัว เดี๋ยวมัดเตรียมน้ำให้ค่ะ” “ไม่เป็นไร มัสพักเถอะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน” ภานุลุกจากเตียงเดินหายเข้าในห้องน้ำ มัสลินมองตามหลังเจ้าบ่าวที่เดินโผเผเข้าไปในห้องน้ำแล้วอมยิ้ม ขณะนั่งตัวตรงมองตัวเองในกระจก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาเป็นเจ้าสาวตัวแทน ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์แบบเกาะอกกระโปรงสุ่มพองบานราวกับเจ้าหญิง ใบหน้าถูกตกแต่งอย่างงดงาม ผมรวบเป็นมวยประดับด้วยเครื่องประดับผมและดอกไม้ พิศมองดูเหมือนภาพในความฝัน เธอคิดถูกใช่ไหมที่ยอมรับข้อเสนอของภานุ ชีวิตหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปใช่ไหม “ที่ผมเสนอให้คุณแต่งงานกับผม เพราะผมอยากช่วยคุณ ถ้าคุณแต่งงานกับผมก็จะสามารถรับคุณยายมาดูแลได้ ไม่ต้องไปอาศัยป้าของคุณให้เขาโขกสับ” ข้อเสนอนี้ของเขา ทำให้มัสลินยอมรับปาก เธอต้องการพาคุณยายออกมาให้พ้นจากคนใจร้ายอย่างแพรพรรณ ภานุร่ำรวยและยินดีช่วยเหลือเธอทุกอย่าง การแต่งงานครั้งนี้จะพลิกชีวิตของเธอกับคุณยายให้เปลี่ยนไป “คุณยายคะ มัสคิดไม่ผิดใช่ไหมคะ ที่ยอมแต่งงานกับคุณภานุ” มัสลินพึมพำออกมา หลับตาลงผ่อนลมหายใจออกแรงๆ ระบายความวิตกกังวลในหัวใจออกมา บอกตัวเองว่ามันจะผ่านพ้นไปแล้วจะมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ มองภาพสะท้อนในกระจกเงาของตัวเองอีกครั้ง ทว่า... ดวงตากลับเบิกกว้างขึ้น เมื่อมองเห็นเงาสะท้อนของใครคนหนึ่ง ปรากฏอยู่ในกระจกพร้อมกับปืนในมือ “แกเป็นใคร ชะ ช่วย อุ๊บ!” เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือไม่ทันหลุดพ้นคอ มือหนาก็ยืนมาปิดปากไว้พร้อมกับผ้าผืนหนึ่งก็โปะลงมาบนจมูก มัสลินผวาดิ้นสุดแรงเผลอหายใจสูดกลิ่นนั้นเข้าไปเต็มปอด ดวงตาเบิกค้างความหวาดกลัวแทรกผ่านเข้ามาในหัว ก่อนอนุสติสุดท้ายจะหมดลง ร่างบางทรุดฮวบลงไปในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น “หึ หลับให้สบายนะคนสวย” เขากระซิบเบาๆ ข้างหูคนไร้สติ ก่อนจะช้อนอุ้มร่างบางเดินออกจากห้องนั้นไป ตลอดหลายวันมานี้ ความเคลื่อนไหวของภานุและมัสลินตกอยู่ในสายตาของเขาโดยตลอด เขาจับตามองสองหนุ่มสาวตั้งแต่ทั้งคู่ออกมาถ่ายรูปด้วยกันที่ชายหาด และยังจ้างให้ช่างภาพถ่ายรูปคนทั้งคู่ตอนอยู่บนเรือส่งมาให้ดูด้วย ท่าทางสนิทสนมกันของทั้งสอง ทำให้คนมองรู้สึกขัดตาเหลือกำลัง เขาลอบมองว่าที่เจ้าสาวที่ดูสวยหวานด้วยสายตาหยามหยัน ผู้หญิงเจ้ามารยาอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนก็ยิ้มระรื่น หัวร่อต่อกระซิก หว่านเสน่ห์ ยั่วยวนผู้ชายให้ตกหลุมไปทั่ว เจอภานุไม่เท่าไหร่ก็สนิทสนมถึงกับจับมือจับผมกันแล้ว เขาปล่อยให้มีความสุขกันให้มากๆ ก่อนที่เขาจะทำให้มันได้ลิ้มรสความเจ็บปวดแสนสาหัส แบบที่มันทำไว้กับพี่ชายเขา คืนแต่งงานของมันคือคืนที่เขาเลือกจะลงมือ ลักพาตัวเจ้าสาวของมันไป แบบที่มันเคยทำกับพี่ชายของเขา สิ่งที่ไอ้ภานุทำไว้ จะต้องได้รับการชดใช้อย่างสาสม! ///   มัสลินรู้สึกตัวขึ้นมาท่ามกลางความมืด ในสภาพที่เจ้าตัวมึนงง สมองทำงานช้าจนนึกอะไรไม่ออก พยายามขยับลุกขึ้นแต่มือถูกมัดไว้แน่น อ้าปากจะร้องก็พบว่ามีผ้ามัดปากไว้ ตาลืมไม่ขึ้นถูกผ้ามัดปิดไว้เช่นกัน นอนตะแคงคุดคู้บนพื้นเย็นๆ แถมพื้นยังโครงเครงไปมา พยายามออกแรงดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ช่างยากเย็นเหลือเกิน ร่างกายขยับได้เล็กน้อยเพราะถูกพันธนาการไว้จนดิ้นไม่หลุด ยิ่งออกแรงยิ่งถูกเชือกที่มัดไว้บาดข้อมือจนแสบไปหมด หญิงสาวจึงนอนนิ่งๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามตั้งสติตัวเอง ลำดับเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ภาพในความทรงจำเสี้ยวนาทีสุดท้ายก่อนสิ้นสติค่อยๆ วาบผ่านมาในมโนนึก เธออยู่ในห้องหอหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในห้อง รูปร่างของเขาสูงใหญ่ไว้ผมยาว หนวดเครารกเรื้อน่ากลัว เธอจึงกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่ถูกเขาใช้มือปิดปากเอาไว้แล้วถูกผ้าเหม็นๆ โปะจมูก ถูกลักพาตัว... เธอถูกลักพาตัว ! คำๆ นี้ ผุดขึ้นในหัว ความทรงจำย้อนกลับมาให้จดจำได้ พร้อมกับความกลัวที่พุ่งวาบเข้ามา ร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมาในทันทีด้วยความหวาดหวั่น เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมถึงมีคนลักพาตัวเธอมา คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัว ขณะที่เจ้าตัวพยายามสงบอารมณ์ข่มความหวาดกลัวลงทีละน้อย คุณยายเคยสอนว่า หากยามเกิดปัญหาสิ่งใดต้องตั้งสติให้มั่นใช้ปัญญาในการแก้ไข อย่างให้อารมณ์หรือความหวาดกลัวมาครอบงำ จนทำให้ตัวเองขลาดเขลา  มัสลินสูดลมหายใจแรงๆ นิ่งเงียบใช้ประสาทรับรู้ที่ยังพอใช้งานได้คือหู เงี่ยหูฟังเสียงรอบๆ กาย เสียงเครื่องยนต์... เสียงคลื่น... พื้นโครงเครง... เธอถูกพาขึ้นมาบนเรือและเรือกำลังแล่นไปที่ไหนสักแห่ง... มัสลินวิเคราะห์สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แกร๊ก... เสียงเปิดประตูดังแว่วมา หญิงสาวนอนตัวเกร็งหายใจเข้าออกแผ่วเบา ความหวาดกลัวถาโถมเข้ามาอีกระรอก มัสลินพยายามตั้งสติที่เหลือน้อยนิดของตัวเองไว้มั่น ยอมรับว่ากลัวมาก แต่จะหนียังไง เมื่อถูกมัดมือปิดตาปิดปากไว้แบบนี้ ได้แต่นอนรอชะตากรรมที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แกร๊ก... เสียงประตูปิดลง พร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เสียงฝีเท้าหยุดลงเมื่ออีกฝ่ายเดินมาหยุดใกล้ เขายอบตัวลงพร้อมกับยื่นมือมาแตะที่แก้ม  ปลายนิ้วสากหนาไล้ไปมาบนแก้มนุ่ม หญิงสาวกลั้นหายใจขนลุกเกรียวด้วยความกลัวปนขยะแขยง พยายามไม่ขยับ กลัวอีกฝ่ายรู้ว่าเธอรู้สึกตัวแล้ว ภาพของผู้ชายตัวโตผมยาวหนวดเคราครึ้มเต็มหน้ายังอยู่ในหัว รูปลักษณ์แบบนั้นไม่ต่างจากมหาโจรในละครภาคค่ำ ที่เด็กอาหมี่และนางแววชอบดู ปลายนิ้วแตะไล้ไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนไปปลดผ้าที่คาดปากเธอออก “ท่าทางจะหายใจไม่ค่อยออกใช่ไหม โทษทีมัดแน่นไปหน่อย...” คนพูดดึงผ้าออกจากปากของเธอ ริมฝีปากกระตุกยิ้มเย็น ขณะที่มองร่างงามในชุดเจ้าสาวสีขาวพองฟู ด้วยสายตาเรียบนิ่ง เจ้าหล่อนคงกลัวมากนอนตัวแข็งแถมยังกลั้นหายใจตอนถูกเขาแตะแก้ม แกล้งสลบไม่ฟื้นอย่างนั้นหรือ... “แก...” มัสลินเลิกแกล้งนอนนิ่ง เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรู้แล้วว่าเธอฟื้นแล้ว “พูดเพราะๆ  หน่อยครับ เจ้าสาวคนสวย...” คำพูดดูเหมือนเย้าหยอกแต่เสียงเขาแข็งกร้าว ทำเอาคนฟังห่อไหล่ รู้สึกหวาดกลัวเพิ่มขึ้น ตัวสั่นเทาไปหมด “นายเป็นใคร... จับตัวฉันมาทำไม” มัสลินเปลี่ยนสรรพนามจากแกเป็นนาย มันคงเพราะที่สุดที่เธอพอจะเรียกขานอีกฝ่ายไหว “ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อของฉัน” เขาไม่ยอมบอกชื่อและไม่บอกเหตุผลที่จับตัวเธอมาด้วย มัสลินคาดเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายทำแบบนี้ทำไม เธอมั่นใจว่าไม่เคยทำผิดคิดร้ายกับใครมาก่อน ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหนหมายหัว ถึงนางแพรพรรณผู้เป็นป้าจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอ แต่คงไม่ถึงขั้นคิดฆ่าแกงกัน หากจะทำคงทำไปนานแล้ว เหลือคนเดียวที่น่าจะเป็นต้นเหตุ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD