เสน่ห์ของเมืองไทย

1506 Words
ณ สถานบันเทิงใจกลางเมืองกรุง ชายร่างสูงใหญ่ จมูกโด่งนัยน์ตาสีฟ้า ใบหน้าของเขาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรลงมาจุติก็ไม่ปาน เขาเดินเคียงคู่มากับสาวสวยสุดแสนจะเซ็กซี่ ใครเห็นต่างก็ต้องจ้องมองมาที่ทั้งสอง แต่ใครเล่าจะรู้นั่นคือพี่ชายกับน้องสาวของเขา "พี่นิคคราวหน้านิไม่มาด้วยนะคะ" หญิงสาวสวยหน้าตาฝรั่งจ๋า กระซิบข้างๆ ใบหูของพี่ชาย เมื่อเธอรู้สึกไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะเสียงที่ดัง บนเวทีก็มีนักร้องนักดนตรีเล่นกันสดๆ แต่หญิงสาวกลับชอบธรรมชาติที่มันสงบ ผิดกับลุคของเธอไปเสียสนิท สาวสวยสุดเซ็กซี่เธอมีนามว่านิโคลเป็นน้องสาวแท้ๆ ของนิโคลัส วันนี้ถูกพี่ชายบังคับให้ออกมาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ของเขา ซึ่งมีแต่ผู้ชาย จึงทำให้นิโคลรู้สึกไม่ค่อยชอบ โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ชายสนทนากันเธอรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก "นิเข้าวัดบ่อยแล้ว เข้าผับเข้าบาร์บ้างจะเป็นไรไป ทำตัวเป็นแม่ชีไปได้ น้องสาวของพี่ออกจะสวย" คำชมของพี่ชายไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยแม้สักนิด เมื่อเวลานี้นิโคลทำหน้างอส่งไปให้พี่ชายแทนคำพูด "Hi นิค มานั่งเลย ทำไมวันนี้ควงสาวสวยมาด้วยได้" ก้องภพคือเพื่อนสนิทของนิโคลัส ที่วันนี้นัดกันมาไม่ได้พูดคุยสรวลเสเฮฮาอย่างเดียว แต่เป็นการคุยกันถึงเรื่องธุรกิจไปในตัวด้วย "ไม่กล้าเดินมาคนเดียวกลัวโดนฉุด ก็เลยชวนน้องมาด้วย" นิโคลัสพูดออกมาทีเล่นทีจริง ในขณะที่เพื่อนของเขาจ้องมองมาที่นิโคลด้วยความสนใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะไม่ยินดียินร้ายกับใคร "น้องนิใช่ไหมนิค" เจไดเพื่อนสนิทอีกคนของนิโคลัส เอ่ยถามขึ้นมา เมื่อสายตาคมของเขานั้น ยังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าของนิโคลด้วยความสนใจ "ใช่! นี่คือนิโคล" "โตเป็นสาวแล้วสวยมากถ้านายไม่บอกฉันจำไม่ได้นะเนี่ย" เจไดพูดออกมา ในขณะที่สายตาของเขายังคง จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของนิโคลเหมือนเดิม จนหญิงสาวรู้สึกอึดอัด "นิ... นี่เพื่อนพี่ เจได ก้องภพ และนั่นชาบู" "สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" "เช่นกันครับน้องนิ" เจไดรีบพูดขึ้น และนั่นยิ่งทำให้นิโคลไม่ชอบเขาไปใหญ่ กับคำพูดคำจาแววตากรุ้มกริ่ม "ว่าแต่มาเมืองไทยคราวนี้ จะอยู่ยาวเลยหรือเปล่า" คำถามแรกของผู้ชายที่ชื่อชาบูเอ่ยขึ้น สายตาที่ไม่ล่อกแล่กบวกกับใบหน้าที่เรียบเฉย และดูเหมือนจะไม่สนใจนิโคลสักนิด กลับทำให้หญิงสาวรู้สึกสนใจในตัวของผู้ชายเย็นชาแบบชาบูขึ้นมาอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน "ต้นเดือนก็จะกลับแล้ว พอดีแค่แวะมาดูธุรกิจที่นี่ และที่สำคัญธุรกิจที่โน่นก็ไม่มีใครดูแล เพราะช่วงนี้พ่อไม่ค่อยสบาย" นิโคลัสมีใบหน้าที่เป็นกังวลขึ้นมาในทันที เมื่อเขานั้นพูดถึงผู้เป็นบิดา "นึกว่าจะอยู่ยาว นายไม่หลงเสน่ห์ของเมืองไทย หรือว่าสาวๆ ที่ประเทศไทยเลยเหรอนิค" คำถามของก้องภพ ทำให้นิโคลัสฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับส่ายหน้า เมื่อเขานั้นยังไม่พบผู้หญิงคนไหนที่ถูกใจเลยสักคน ในขณะที่พวกเขาคุยกัน สายตาของนิโคลัสได้เลือกไปมองผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ด้วยความสงสัย เพราะดูจากท่าทางของเธอแล้ว หญิงสาวกำลังร้องไห้ฟูมฟายอย่างไม่อายใคร และยังยกแก้วกระดกเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่าในนั้นมันคือน้ำเปล่า "พิมพ์ เธอตั้งสติหน่อยสิ แค่ผู้ชายคนเดียวหาเอาใหม่แถวนี้ก็ได้ไม่ยากหรอก" พิ้งค์พูดออกมาอย่างเหลืออด เมื่อเห็นเพื่อนเมาหัวราน้ำแบบนี้ "แต่ผู้ชายคนนั้น ที่เธอว่าเขาคบกันมาตั้งเจ็ดปีเลยนะเว้ย" มายด์พูดเสริมขึ้นในทำนองที่เห็นอกเห็นใจพริมโรส และเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ "มายด์ก็แค่ผู้ชายห่วยๆ เปล่าวะ ต่อให้คบสิบปียี่สิบปีหรือแค่ห้านาที ฉันว่ามันก็เสียเวลาอยู่ดี" "อ๊วก! จะอ้วกล่ะ" พริมโรสพูดพร้อมกับโก่งคอจะอ้วกออกตรงนั้น "เฮ้ย! พิมพ์! เธอลุกเลยไปอ้วกในห้องน้ำ" พิ้งค์พูดพร้อมกับพยุงเพื่อนให้ลุกขึ้น "ม่าย...ต้อง พิมพ์เดินเองได้" เสียงพูดที่ยานในขณะที่ยืนทรงตัวแทบไม่ได้ พริมโรสกับผลักเพื่อนออกพยายามที่จะเดินไปห้องน้ำเอง เพล้ง!!! "เฮ้ย!! พิมพ์! " เพื่อนทั้งสองร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อพริมโรสเดินผ่านโต๊ะผู้ชาย มือของเธอคว้าไปโดนแก้วที่โต๊ะตกแตก ในขณะที่ตัวของหญิงสาวล้มไปนั่งอยู่ภายใต้อ้อมกอดของชายร่างสูงใหญ่ "คุณ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" นิโคลัสถามออกมา ในขณะที่ดวงตาของเขา จ้องมองไปที่ใบหน้างามอย่างไม่วางตา เธอดูสวยและมีเสน่ห์ต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้หัวใจเขาเต้นแรงได้นอกจากยายขี้เมา ที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว "ยัยพิมพ์! ต้องขอโทษนะคะเพื่อนเราเมามาก ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ" มายด์พูดพร้อมกับพนมมือขึ้นไหว้ทุกคน เพื่อขอโทษแทนเพื่อน "ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่พวกคุณจะกลับแล้วเหรอ" นิโคลัสเอ่ยขึ้น ในขณะที่เขายังคงโอบประคองร่างอรชรเอาไว้ในอ้อมกอด "ใช่ค่ะ พิมพ์ตื่นสิ กลับบ้านได้แล้ว" "ยุ่งนา คนจา...นอน" พริมโรสพูดจาอู้อี้ออกมา ในขณะที่เอาใบหน้าซุกเข้าหาอกกว้าง เมื่อสัมผัสที่ได้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทั้งที่หัวใจกำลังบอบช้ำแม้จะใช้ใบบัวบกเป็นตันก็คงรักษาไม่หายได้ในวันเดียว "พี่นิคไปส่งเขาที่รถหน่อยสิ นิว่าเธอคงเดินไม่ไหวแน่ และเพื่อนของเธอก็มีแต่ผู้หญิงจะหิ้วกันไปยังไง" ความคิดเห็นของน้องสาวฉัน ช่างเปิดทางให้เขาเหลือเกิน "มองไม่วางตาเลยนะนิค" ก้องภพแซวเพื่อนขึ้น "รถอยู่ไหนครับ เดี๋ยวผมช่วยเอาเพื่อนคุณไปส่งให้ เพราะดูท่าทางเธอจะหลับไปแล้ว" นิโคลัสรีบพูดแทรกขึ้นมา ก่อนจะอุ้มพริมโรสขึ้นในท่าเจ้าสาว "เชิญทางนี้เลยค่ะ" พิ้งค์และมายด์เดินนำหน้านิโคลัสออกไป ในขณะที่ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวออกไปนั้น มีสายตาจับจ้องมาที่ชายร่างกำยำด้วยความสงสัย เพราะหลายคนคงคิดว่าเขามอมเหล้าเธอ "คนเลว! ผู้ชายเฮงซวย! " เมื่อชายหนุ่มอุ้มพริมโรสตรงไปที่ลานจอดรถ หญิงสาวได้ตะคอกออกมาเสียงดัง ก่อนที่เธอนั้นจะหลับต่อ แม้เขาจะสงสัยในคำก่นด่าของเธอ แต่ชายหนุ่มก็อดที่จะฉีกยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อใบหน้าหวานเนื้อตัวนุ่มนิ่มกำลังทำให้เขานั้นอยากทำความรู้จักกับเธอ "ขอบคุณมากนะคะ ที่คุณอุตส่าห์อุ้มเพื่อนเรามาส่งถึงรถ" "ด้วยความยินดีไม่เป็นไรหรอกครับแค่นี้เอง" "เอ่อ... ถ้าพวกเราจะเลี้ยงเหล้าตอบแทนเพื่อเป็นการขอบคุณ เราจะเจอคุณได้ที่ไหนคะ คุณ..." พิงค์พูดขึ้นมา เมื่อเธอกำลังคิดว่าพริมโรสควรจะได้ทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ หญิงสาวควรแสดงน้ำใจตอบกลับเมื่อเขามีน้ำใจอุ้มเธอมาส่งถึงรถแบบนี้ "ผมนิโคลัสครับ อีกไม่กี่วันต้นเดือนนี้ก็จะกลับอังกฤษแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับเรื่องแค่นี้เอง ผมขอตัวนะครับขับรถดีๆ ด้วย" พูดจบนิโคลัสก็เดินออกไป ทำให้พิงค์และมายด์มองตากันปริบๆ นอกจากผู้ชายอย่างเขาจะหล่อแล้วยังดูสุภาพอีกด้วย "สเปก... พ่อของลูกชัดๆ " มายด์พูดขึ้นมาลอยๆ จนพิ้งค์เบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้นิดๆ "แล้วแทนคุณไม่ใช่สเปคของลูกว่างั้น" พิ้งค์พูดพร้อมกับขับรถออกไปจากผับ ในขณะที่พริมโรสนอนอยู่ที่เบาะหลัง เสียงโทรศัพท์ของเธอมีสายเรียกเข้าถี่ๆ จนมายด์อดใจไม่ไหวล้วงในกระเป๋าสะพายของเพื่อนมาเปิดดู "ออสการ์!" มายด์พูดออกมาเบาๆ เริ่มสงสัยถึงสาเหตุของออสการ์ที่โทรมา "ไม่ต้องรับนะมายด์" พิ้งค์พูดออกมาด้วยใบหน้าที่โกรธแค้นแทนเพื่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD