พันธะร้ายพ่ายรัก : ตอนที่ 7
“คาไลน์” วิเวียนทวนคำพูดของพิธีกรบนเวทีเป็นชื่อที่เธอคุ้นเคย เธออยากจะถอยออกจากคนตรงนั้นแต่สุดท้ายแรงดันจากด้านหลังทำให้ตัวเธอพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“โอ๊ย!” เธอล้มลงที่พื้นอย่างแรงจนร้องเสียงหลง ทุกคนในงานเงียบลงทันที สายตานับร้อยนับพันจ้องมาที่เธอที่นั่งโดดเด่นอยู่ที่พื้น วิเวียนรวบรวมสติโดยเร็วและรีบดันตัวเองลุกขึ้น
พรึบ!
อยู่ๆมือปริศนามาจับเธอลุกขึ้นจากด้านหลัง
“ขอบคุ…….” วิเวียนหันหน้าจะมาขอบคุณบุคคลปริศนาที่ช่วยพยุงเธอ แต่คำพูดนั้นกลืนหายไปเมื่อเจอกับลูกน้องคนนั้นของเขา ที่สวมชุดเหมือนกับที่เธอเห็นพวกเขาครั้งแรกที่ผับ เป็นคนเดียวกันที่มากระซิบกับเจ๊ซูซี่ก่อนที่เธอจะขึ้นไปหาเขาที่ห้อง
“ขะ ขอบคุณค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ขอตัว” วิเวียนพยายามสะบัดแขนออก แต่เขากลับบีบรัดแน่นมากขึ้น
“นายอยากคุยกับคุณ”
“ฉันไม่รู้จักนายของคุณ ปล่อยด้วยค่ะ” วิเวียนใช้สายตาชำเลืองไปที่แขนของเธอที่ถูกจับไว้แน่น และพยายามพูดเน้นหนักประโยคสุดท้ายเสียงดังให้คนรอบข้างเธอได้ยิน และมันก็ได้ผล แขนของเธอเป็นอิสระ ดวงตากลมโตหันไปมองคนที่ยืนอยู่บนเวทีแค่เพียงชั่ววินาที เขากำลังจ้องมาที่เธอจริงๆ เธอรีบเดินฝ่าฝูงชนออกมาอย่างไม่สนใจ
“ไม่น่าเลยยัยวิเอ๊ย เดินเข้าธนาคารไปฝากเงินก็จบไปนานแล้ว ผลของการอยากรู้อยากเห็นของตัวเองแท้ๆ” วิเวียนเดินไปบ่นไปเรื่องความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง มือบางตีหน้าผากตัวเองเบาๆ ขาเรียวยาวสาวเท้ามุ่งตรงเข้าธนาคารฝากเงินและทำการโอนเงินให้ที่บ้านทันที
“ยอดโอนหนึ่งล้านบาท เข้าบัญชีxxx เรียบร้อยแล้วค่ะ อันนี้เป็นใบเสร็จโอนเงินนะคะ” พนักงานธนาคารพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ตื้ด ตื้ด ตื้ด ~~
“ว่าไง” รอไม่นานปลายสายก็กดรับสายเธอ
“หนูโอนเงินให้แล้วนะแม่”
“มึงโอนมาเท่าไหร่” ปลายสายพูดสวนมาทันที
“ตามที่แม่ต้องการ แต่หลังจากนี้หนูไม่มีให้แม่แล้วนะ หนูต้องทำงานใช้หนี้เขาเหมือนกัน” วิเวียนปั้นคำโกหกเพื่อจะตัดปัญหาให้จบสิ้นกันสักที
“ได้เลยลูกแม่ แม่จะไม่กวนใจลูกสาวสุดที่รักของแม่อีกเลย ขอบใจมากเลยลูกรักของแม่ ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่มีแต่เจริญ” ปลายสายเยินยอเมื่อรู้ว่าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว
“แค่นี้แหละ หนูยุ่งๆ” วิเวียนตัดสายทันทีที่พูดจบ ใบหน้าหวานไม่ได้แสดงอาการดีใจกับคำพูดของคนปลายสายเมื่อกี้เลยสักนิด
“หวังว่าจะตัดขาดกันจริงๆสักทีนะ”
วิเวียนเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าห้าง ระหว่างรอรถกลับคอนโด ความรู้สึกแปลกๆที่เธอใช้เงินของเขายังคงอยู่ เธอพยายามคิดเข้าข้างตัวเองแต่สุดท้ายเธอก็ยังอดสงสัยไม่ได้
“มาเฟียนักธุรกิจอย่างนายจะไม่หวังผลที่ลงทุนเลยหรอ”
ติ้ง~ เสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นไลน์ดังขัดจังหวะความคิดของเธอ
เจ๊ซูซี่ : วันนี้มีงานรับแขกเอสวีวีตอนสองทุ่มนะลูก วันนี้ตารางเราว่างด้วยนิ่
วิเวียน : ทำไมปุบปับจัง ทุกทีแขกระดับนี้ต้องบอกล่วงหน้าไม่ใช่หรอคะ
เจ๊ซูซี่ : พอดีแขกพึ่งโทรมาคอนเฟิร์มเมื่อกี้นี้เอง เจ๊ก็ไม่ทันตั้งตัว
วิเวียน : อ่อๆ โอเคค่ะ
--//--//--//--//--//--//--//--
7.00 PM.
ร่างบางยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานเดิม หลังจากกลับมาจากห้างสรรพสินค้าเธอก็นอนพักเอาแรงเพื่อทำงานคืนนี้ แต่ก็หลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นเตรียมตัว วิเวียนอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีดำสนิทเผยให้เห็นหน้าอกที่ยากจะปิดให้มิด ปล่อยผมยาวสลวยดัดลอนปลายเล็กน้อย ซึ่งแตกต่างกับการแต่งตัวเมื่อตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง วิเวียนกลายเป็นสาวเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะออกเธอไม่ลืมที่จะใส่เสื้อคลุมแขนยาวโอเวอร์ไซส์ติดกระดุมมิดชิดคลุมเรือนร่างสุดเซ็กซี่ไว้ก่อน
วิเวียนเดินลงมารอรถแท็กซี่หน้าคอนโดของเธออย่างเช่นเคย ถึงเธอจะได้เงินดีในอาชีพนี้แต่เธอคิดว่ารถไม่จำเป็นสำหรับเธอ ชีวิตเธอมีแค่คอนโดกับที่ผับ ไม่เคยไปไหนนอกจากสองที่นี้ ความจำเป็นที่ต้องมีรถส่วนตัวเลยตัดทิ้งไปได้เลย อีกอย่างระหว่างผับกับคอนโดเธอก็อยู่ไม่ไกลกันมาก ส่วนใหญ่เจ๊ซูซี่จะแวะส่งเธอเวลากลับดึกเป็นประจำ ต่อให้เธอปฏิเสธเจ๊ซูซี่หลายครั้งก็ไม่เคยสำเร็จ ด้วยความเป็นห่วงและความสบายใจของแกเธอเลยยอมให้เจ๊ซูซี่มาส่งบ่อยๆ
"ผับ S.star ค่ะ" วิเวียนบอกกับคนขับแท็กซี่ให้ไปยังจุดหมาย ไม่มีใครไม่รู้จักผับชื่อดังแห่งนี้
ไม่นานรถแท็กซี่ก็ขับมาจอดบริเวณหน้าผับชื่อดัง ร่างบางก้าวขาลงจากรถแท็กซี่โดยไม่รอช้า เพราะใกล้เวลาที่แขกนัดแล้ว วิเวียนสาวเท้าอย่างมั่นใจเดินผ่านสายตาวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มองมาที่เธอ ความสวย ความออร่า ที่ทำให้หลายคนมองตาไม่กระพริบ
บรรยากาศภายในผับยังเปิดเป็นเพลงคลอเบาๆ เวลานี้นักท่องราตรียังไม่ค่อยมากันมาก ภายในผับเลยยังไม่ครึกครื้น
"แหมๆ เดี๋ยวนี้ร้อนเงินหรอจ๊ะ ถึงรับงานด่วน หรือเป็นถังขยะกันนะ รองรับเศษขยะจากคนอื่น" น้ำเสียงแดกดันที่คุ้นเคยโดยที่ไม่ต้องคาดเดาว่าคือใคร
"ถ้าฉันได้แขกเยอะแล้วทำให้เธออิจฉาก็ขอโทษด้วยนะนารา ขอตัวก่อน" ใบหน้าหวานกระตุกยิ้มมุมปากเย้ยคนตรงหน้า และเดินหลีกออกมาไม่อยากปะทะอารมณ์
"อย่าผยองไปหน่อยเลย สักวันกูจะกระชากมึงล่วงลงมาเอง" นารากำหมัดแน่นพร้อมกับพ่นคำด่าตามหลัง วิเวียนได้ยินทุกคำพูดแต่เลือกที่จะไม่สนใจ
"เจ๊ซูซี่ไปไหน ปกติจะมารออยู่แถวนี้นิ" เธอมองไปรอบๆเคาท์เตอร์ของผับที่จะเป็นที่ประจำของหญิงวัยกลางคน แต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา
"นี่ๆ เห็นเจ๊บ้างไหม" วิเวียนถามกับเด็กพีอาร์ในผับที่อยู่แถวนั้น
"สวัสดีค่ะพี่วิ เจ๊ฝากบอกว่าให้พี่วิขึ้นไปที่ห้องรับรองแขกโซนเอสวีวีได้เลยค่ะ ห้องเดิม เจ๊แกบอกมาแค่นี้" เด็กสาวคนนั้นยกมือไหว้เธอพร้อมกับบอกสิ่งที่เจ๊ซูซี่สั่งไว้
"อ่อๆ ขอบใจมาก"
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินเข้าห้องน้ำส่องความเรียบร้อยของตัวเอง จัดผมเผ้าให้ดี เธอใช้เวลาไม่นานกับการเตรียมตัว
"แล้วแขกไม่สั่งเหล้าหรอไง หรือเจ๊เตรียมให้แล้ว" วิเวียนพูดพึมพำกับตัวเอง เพราะทุกทีเวลารับแขกเด็กพีอาร์จะเป็นคนยกเหล้าไปเสิร์ฟแขกด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้ไม่มีใครบอกอะไรกับเธอเลย คิดแค่ว่าเจ๊ซูซี่น่าจะเตรียมให้หมดแล้ว ร่างบางรีบขึ้นไปที่โซนเอสวีวีดั่งเช่นเคย ระหว่างทางก่อนถึงห้องก็เจอกับบอดี้การ์ดยืนเรียงกันด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนกับหุ่น เมื่อเธอลองมองดีๆเหมือนเธอเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อนหน้านี้
"คงไม่ใช่หรอก" ร่างบางพึมพำกับตัวเองเบา
“เอ่อ…ฉันมาตามที่นัดไว้” วิเวียนทำท่าทีกล้าๆกลัวๆเมื่อมาถึงหน้าห้องรับรองที่มีบอดี้การ์ดหน้าโหดยืนขวางอยู่สองคน
“ชื่อ?” หนึ่งในบอดี้การ์ดเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงเข้ม
“วะ วิ วิเวียน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ยิ่งมองหน้าบอดี้การ์ดทำให้เธอรู้สึกกลัวจนขนลุก แค่สายตาก็เหมือนฆ่าเธอได้แล้ว
“เชิญ” ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงเข้มของบอดี้การ์ดหน้าห้อง
แกร๊ก~ เมื่อเธอก้าวพ้นประตูเข้ามา ประตูก็ถูกปิดอย่างรวดเร็วจนเธอหันกลับไปมองด้วยความตกใจ แสงสว่างในห้องมาจากไฟดวงเล็กๆตรงกลางห้องดวงเดียว บรรยากาศเงียบผิดปกติ แต่แล้วตาก็ไปสะดุดเข้ากับ….
“อ้าวเจ๊ วิตกใจหมด ทำไมไม่เปิดไฟทั้งหมดละ อยู่มืดๆทำไม ไหนว่าแขกมาแล้ว” วิเวียนเอ่ยทักเจ๊คนสนิทที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังกลางห้องกำลังก้มหน้าก้มตาแต่เธอจำลักษณะของหญิงวัยกลางคนได้ วิเวียนพูดไปพร้อมกับหันไปกดเปิดสวิซส์ไฟให้สว่างกว่าเดิม
พรึบ! ไฟสว่างจ้าทั่วห้องพร้อมกับร่างบางหันหน้ากลับมาตามเดิม
“ค่อยสว่…..” คำพูดถูกกลืนหายไปในลำคอ
“คะ คาไลน์” วิเวียนตาโตกับชายร่างสูงที่ยืนอยู่มุมห้องกำลังจ้องมาที่เธอด้วยสายตายากจะคาดเดา และมีลูกน้องอีกคนที่เธอเจอวันนี้ตอนกลางวันยืนอยู่ไม่ห่าง
ฮึก ฮือออ ~ เสียงสะอื้นทำให้เธอละสายตาจากชายร่างสูงมามองคนที่กำลังส่งเสียงสะอึกสะอื้น กำลังถูกมัดมือมัดขาด้วยเชือกเส้นใหญ่อย่างแน่นหนา ด้วยก่อนหน้านี้ไฟค่อนข้างสลัวทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตที่มือและข้อเท้าของเจ๊ซูซี่ว่ากำลังถูกมัดอยู่ และไม่เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย
“นี่มันอะไรกัน” วิเวียนแววตาวูบไหวกับสิ่งที่เห็นก่อนจะหันไปถามเขา
“เจ๊ขอโทษ ฮือ ฮือ วิ เจ๊ขอโทษ” เจ๊ซูซี่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ทำให้เธอก้าวขาเพื่อจะไปหา
“หยุด!” น้ำเสียงเข้มพูดออกมาทำให้เธอชะงักฝีเท้าทันที น้ำเสียงของเขาทำให้เธอเสียวสันหลังวาบ
“ฉันถามว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!!” วิเวียนตวาดลั่นอย่างเหลืออด ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มอย่างเดือดดาล มือบางกำหมัดแน่น
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักแบบสม่ำเสมอค่อยๆเดินมาหาเธออย่างช้าๆ นัยส์ตาดุคู่นั้นจ้องมาที่เธอไม่วางตา จนทำให้วิเวียนก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ
ปึก! แผ่นหลังของเธอชนเข้ากับผนังห้องบ่งบอกว่าไม่มีทางหนีอีกแล้ว ตึก ตึก ตึก คาไลน์เดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ จนตัวเธอห่างกับเขาแค่คืบ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของเขาเข้ามาเตะจมูกเธอ
“นายต้องการอะไร!!!” วิเวียนถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผสมกับความกลัว