4
คนแปลกหน้า...ที่ครั้งหนึ่งเคยแซบกัน
การเดินทางมาพักผ่อนหาไอเดียของฝ่ายครีเอทีฟทีมเอ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ฉันเดินทางไปยังจุดนัดหมายขึ้นรถ นั่นคือหน้าบริษัท โดยรถยนต์อเนกประสงค์ของพี่แก็บ
ระหว่างเดินทางพี่ๆ ก็คุยกันสนุกสนาน ฉันแจมบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพราะส่วนใหญ่พี่ๆ จะคุยเรื่องงาน สลับเม้าท์มอยเพื่อนร่วมงานแผนกอื่น และบางครั้งก็พูดถึงเอเยนซี่อื่นที่เป็นคู่แข่ง โดยเฉพาะวินวันแอดเวอร์ไทซิ่ง
“ฉันก็ไม่อยากแข่งอะไรกับวินวันมากนักหรอก” พี่เจนพูด
“เพราะแกอยากกินเจ้าของบริษัทน่ะสิ” พี่แก็บเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ
“บ้า อย่าพูดความจริงนะ” พี่เจนพูดแล้วหัวเราะร่วน คนอื่นๆ ก็เลยหัวเราะตาม
แน่นอนยกเว้นฉัน...ที่กินเจ้าของวินวันมาแล้วหนึ่งคืนเต็มๆ จากนั้นเขาก็หายไปจากชีวิต เหมือนไม่เคยมีตัวตน คิดถึงพี่เลโอแล้วใจมันก็วูบดิ่งถึงปลายเท้าเลย ผัวคืนเดียวของฉัน หายไปจากชีวิตราวกับเป็นเพียงสายลมจริงๆ
ใช้เวลาเดินทางประมาณสี่ห้าชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย เพราะแวะปั๊มบ้าง ร้านกาแฟ ตบท้ายด้วยการแวะกินมื้อเที่ยงก่อนเข้าที่พักที่จองไว้
ที่พักเป็นโรงแรมห้าดาวติดริมทะเล และมีสระว่ายน้ำกว้างด้านติดกับริมหาด ที่สำคัญ...อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักตากอากาศของครอบครัวพี่เลโอ
การมาที่นี่มันทำให้ฉันคิดถึงเขามากกว่าเดิม และเศร้ายิ่งกว่าที่เคยเศร้า
หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ฉันกับพี่เจนก็อาบน้ำแต่งตัวสบายๆ อย่างคนมาเที่ยวทะเล จากนั้นเราก็งีบหลับเพื่อพักผ่อน เพราะนัดกับพี่แก็บและพี่โตตอนสี่โมงครึ่งจะเดินเล่นชายหาด ตามด้วยการนั่งชิลๆ ที่ร้านอาหารข้างๆ รีสอร์ต ซึ่งวันนี้มีนักร้องชื่อดังคนหนึ่งมาโชว์
ฉันกับพี่เจนตื่นก่อนเวลานัดหมายครึ่งชั่วโมง พี่เจนแต่งหน้าอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ แต่งไปบ่นไป
“การแต่งหน้าเหมือนว่าไม่ได้แต่งนี่มันยากสุดจริงๆ”
“หน้าพี่เจนสวยได้รูป เครื่องหน้าก็ดีมากๆ หน้าสดยังสวยเลย”
“อูย ชมจนพี่จะลอย มา พี่แต่งหน้าให้” พี่เจนดึงฉันไปนั่งบนเก้าอี้หน้ากระจก จับปลายคางหมุนไปมา
“เป็นสาวเป็นนางปล่อยหน้าสดแบบนี้ได้ไง”
“แต่งไปก็ไม่สวยขึ้น” ฉันพึมพำ เพราะยังไงคนก็โฟกัสที่รูปร่างของฉันมากกว่า
“โอ๊ย เด็กโง่ หน้าตาน่ารักขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว ถึงหน้าจะกลม แต่หน้าตาเกลี้ยงเกลา ปากนิด จมูกหน่อย แถมตอนนี้ก็ผอมไปมากแล้ว พี่เชื่อเลยว่าฝึกงานเสร็จแก้มจะผอมเท่าพี่แน่ๆ เว้นแต่แก้มจะตื่นมากินรอบดึก”
“เมื่อก่อนน่ะทำแบบนั้นจริงๆ แต่ตอนนี้ เหนื่อยมากค่ะ หลับตั้งแต่ค่ำยันเช้าเลย”
“ดีแล้วล่ะ นี่แนะนำเลยนะ กินน้ำอัดลมและขนมให้น้อยลง รับรองหุ่นเพรียวแน่ๆ”
“ค่ะ แก้มจะพยายามกินของหวานให้น้อยลง อยากหุ่นดีเหมือนพี่เจน”
“ดีมากจ้า สาวน้อย” จากนั้นพี่เจนก็แต่งหน้าให้ฉันอ่อนๆ
“ผิวหน้าดีอยู่แล้ว ไม่ต้องลงรองพื้น แค่ลงครีมบำรุงผิวกับครีมกันแดด และจบด้วยแป้งฝุ่น ทาลิปสีชมพูอ่อนๆ และแก้มสีเดียวกับปาก ขนตาก็งอนเป็นธรรมชาติ คิ้วก็เหมือนกันเรียวได้รูปอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลย”
“ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่เจน” ฉันส่องกระจกด้วยความพอใจกับฝีมือการแต่งหน้าของพี่เจน ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมาก แต่ยอมรับว่าเครื่องสำอางของพี่เจนคือคุณภาพดีสมราคาแบรนด์ โดยเฉพาะครีมบำรุงผิวกับครีมกันแดดที่เกลี่ยผิวหน้าได้เนียนเป็นธรรมชาติ
“ไม่เป็นไรหรอกจ้า แก้มก็จำวิธีแต่งหน้าง่ายๆ แบบนี้ไปแต่งเองนะ เราน่ะยังเด็ก และผิวหน้าดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องโป๊ะหนัก เข้าใจมั้ย เพราะมันจะกลบความสวยตามวัยของเรา”
“ค่ะ ขอบคุณพี่เจนมากๆ ที่แนะนำ” ฉันยกมือขอบคุณพี่เจนจากใจจริง และหมุนตัวเพื่อดูรูปร่างตัวเอง
มัวแต่ฟุ้งซ่านถึงผู้ชาย กินไม่ค่อยได้ก็จริง ยังดีที่นอนหลับ แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้ว่าตัวเองน้ำหนักลงไปเยอะแล้วเหมือนกัน
...คงเป็นข้อดีข้อเดียวในการถูกผู้ชายฟันแล้วหายไปจากชีวิต!
จากนั้นฉันกับพี่เจนก็ลงมายังชายหาดตามเวลานัดหมาย ซึ่งสองหนุ่มก็มาเลทเล็กน้อย จริงๆ ก็พักอยู่ห้องข้างๆ และก่อนลงมายังชายหาด พี่เจนก็เคาะเรียกประตูห้องสองหนุ่มแล้ว
“แก้มยุ้ยนี่ผอมลงไปเยอะนะ มาฝึกงานแค่เดือนกว่าๆ” จู่ๆ พี่แก็บก็เอ่ยขึ้นขณะพวกเราเดินไปเรื่อยๆ บนชายหาด โดยฉันกับพี่เจนเดินอยู่ข้างหน้า โดยมีสองหนุ่มเดินตามหลัง
ปกติตอนไปฝึกงานฉันใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงพลีสตัวยาวและเสื้อตัวหลวม เพราะไม่ชอบใส่เสื้อผ้าพอดีตัว มันอึดอัด ยิ่งเวลากินเยอะๆ ด้วยแล้ว แทบหายใจไม่ออก มันก็เลยยิ่งทำให้ฉันดูอวบอ้วนกว่าเดิม
“ขอบคุณค่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้เขา เพราะถือว่าเป็นคำชม
“นั่นแหละข้อดีของการเดินขึ้นลงบันไดออฟฟิศสามชั้น วันละหลายรอบ” พี่เจนบอกด้วยรอยยิ้ม
ตรอมใจเพราะถูกผู้ชายฟันแล้วหายหน้าไปด้วยแหละ เลยกินอะไรก็ไม่อร่อยเลย ทุกวันนี้ก็กินพอกันตาย
ฉันได้แต่ซ้ำเติมตัวเองในใจ
“อีกไม่นานก็ผอมเพรียวลมเหมือนพี่เจนแหละ” พี่โตบอก
“พี่ว่าอย่าผอมมากเหมือนพี่เจนนะแก้มยุ้ย เพราะอย่างอื่นก็ผอมไปด้วย” พี่แก็บพูดเสียงเบา แต่ทุกคนก็ได้ยิน
“ไอ้แก็บ!” แล้วพี่เจนก็พุ่งไปหาพี่แก็บ แต่พี่แก็บก็ไวเกิน วิ่งฉิ่วไปข้างหน้า โดยมีพี่เจนวิ่งไล่ไปติดๆ
“ตีกันอีกแล้วสองคนนี้” พี่โตพึมพำ และฉันก็มองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า มันเป็นภาพที่สวยงาม
แม้ทั้งสองจะเป็นทั้งบัดดี้ในเรื่องงาน แต่ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่บางครั้งมันก็มีบางอย่างที่เรียกว่าเกินเพื่อนแทรกอยู่ด้วย
หลังจากพี่เจนกับพี่แก็บวิ่งไล่กันจนเหนื่อย พวกเราก็เดินย้อนกลับมายังร้านอาหารกึ่งผับข้างๆ โรงแรมที่พัก ซึ่งเย็นๆ แบบนี้แขกก็ยังไม่มากนัก แต่ในช่วงใกล้เวลาที่นักร้องดังขึ้นโชว์ แขกจะน่าจะทยอยมามากขึ้น
พี่ๆ สั่งอาหารมาแทบล้นโต๊ะ ก็ลาภปากอีกหนึ่งมื้อของฉัน หลังจากที่กินอะไรไม่ค่อยอร่อยมานาน มื้อนี้ก็กินได้มากสุดแล้ว กระทั่ง...
“เฮ้ย นั่นบอสของวินวันนี่นา โห มากับน้องมินนี่เสียด้วย” พี่แก็บเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกับบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะที่อยู่ห่างจากโต๊ะของเราไปไม่มาก
พี่เจนกับพี่โตหันขวับไปดูคนทั้งสองตามสายตาพี่แก็บ มีเพียงฉันคนเดียวที่ไม่กล้าหันไปมอง มันรู้สึกกลัวยังไงไม่รู้ ใช่... ฉันกลัวว่าใจจะเจ็บ
“โห วันนี้ควงซุป’ ตาร์เลยนะบอสเลโอ” พี่เจนทำเสียงกึ่งๆ หมั่นไส้
“อิจฉาน้องมินนี่ว่างั้นเถอะ” พี่แก็บถามเสียงประชด
“ก็นิดนึง”
“ไม่ต้องไปอิจฉาหรอก เพราะคนอย่างคุณเลก็ไม่เคยคบหาใครถึงขั้นแฟนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะสวยระดับนางเอกหรือไฮโซฯ” พี่โตว่า
“อ้าว...เขาหันมามองเราแน่ะ โอ๊ะ เดินมาแล้ว” พี่เจนเอ่ยเสียงตื่นเต้น มันทำให้ฉันค่อยๆ หันไปมองเขา
ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีน รวบผมหยักระบ่าไว้บางส่วน ปล่อยบางส่วนระข้างแก้ม เขาส่งยิ้มและยกมือไหว้พี่ๆ ฉันเองก็อยากยกมือไหว้เขาเช่นกัน แต่พี่เลโอไม่แม้แต่จะปรายตามอง ฉันเลยไม่กล้า ได้แต่ก้มหน้านิ่งๆ ทั้งที่ใจนั้นเต้นระรัวที่ได้เจอเขาอย่างไม่คาดฝัน หลังจากที่คิดว่าเขาเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านมาเพื่อจะผ่านไป
พี่เลโอ...คงไม่อยากให้ใครรู้ว่ารู้จักฉัน ถึงไม่ทักทายกันเลย หรือแม้แต่จะมองหน้า ...ทำไมรู้สึกเจ็บจังเลย
“ไม่คิดว่าจะเจอคุณเลที่นี่” พี่โตเอ่ยทักทายก่อน
“นั่นสิครับ มาเที่ยวกันเหรอ”
“ค่ะ มาเที่ยว พักผ่อนสมองนิดหน่อยค่ะ เผื่อจะได้ไอเดียดีๆ ไปสู้กับวินวัน” พี่เจนพูดกลั้วเสียงหัวเราะ และทุกคนก็หัวเราะตาม ไม่เว้นแม้แต่พี่เลโอ
“รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ครับที่ได้สู้กับคนเก่งๆ อย่างพวกคุณ ยังไง ค่อยเจอกันใหม่นะครับ ผมขอตัวก่อน”
“ค่ะ/ครับ แล้วเจอกัน”
เมื่อพี่เขาหมุนตัวเดินจากไป ฉันจึงกล้าที่จะมองแผ่นหลังกว้างนั้น กระทั่งเขานั่งบนเบาะข้างๆ มินนี่
“เฮ้อ...หล่ออะ” พี่เจนพึมพำพร้อมถอนหายใจแรง
“หยุดเพ้อ กินต่อๆ” พี่แก็บตัดบท เมื่อเห็นท่าทางของพี่เจน
“เป็นไงแก้มยุ้ย บอสของวินวันหล่อมั้ย”
“ค่ะ หล่อมากๆ” ในเมื่อพี่เลโอไม่ทักทายหรือแม่แต่มองหน้าฉันเลย ฉันก็ไม่กล้าบอกความจริงกับพี่ๆ ว่าฉันก็รู้จักเขาเช่นกัน
ที่ผ่านมาก็เฝ้าแต่หลงรักเขาฝ่ายเดียว แต่มันก็ไม่เคยเจ็บปวดเท่ากับการได้อยู่กับเขาคืนเดียว แล้วเขาก็ทำหมางเมินเหมือนฉันเป็นคนแปลกหน้าแบบนี้
การที่คิดว่าได้มีอะไรกับพี่เลโอคืนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในชีวิต เพราะมันจะเป็นความทรงจำที่งดงามของฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจ
เพราะตอนนี้เหมือนความทรงจำนั้นเป็นของมีคมที่คอยแต่จะทิ่มแทงให้ฉันโหยหา และเจ็บปวดเหมือนใจจะขาดเมื่อเขาทำเหมือนฉันเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน...
หลังจากนั้นฉันก็กินอะไรแทบไม่ลง แต่ก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด คือสนุกไปกับพี่ๆ เขาอย่างเต็มที่ กระทั่งกลับห้องพัก พี่เจนหลับเป็นตาย แต่ฉันออกไปนั่งร้องไห้ที่ระเบียงจนค่อนดึก ก่อนจะข่มตาหลับลงได้
:::::::::::::::::::::::