3 เด็กวิ่งซื้อของ

1091 Words
3 เด็กวิ่งซื้อของ ไอซ์ คาราเมล มัคคิอาโต,ไวท์ ช็อคโกแลต มอคค่า,กรีนทีครีม แฟรบปูชิโน่,ช็อคโกแลตครีม ชิพ แฟรบปูชิโน่,ไอซ์ กรีนที ลาเต้ นั่นคือเมนูทั้งหมดของยามบ่ายแก่ๆ ที่ฉันต้องไปซื้อให้พี่ๆ ฝ่ายครีเอทีฟ ทั้งที่มื้อเที่ยงก็ไปหิ้วอาหารกลางวันให้แล้ว ชีวิตเด็กฝึกงานในบริษัทโฆษณาระดับต้นๆ ของเมืองไทย เป็นเยี่ยงนี้แหละค่ะ ตอนแรกดีใจที่ได้ฝึกงานในแผนกครีเอทีฟ แต่ตอนนี้เศร้าสุดๆ ส่วนเด็กฝึกงานคนอื่นๆ ที่มีอีกสี่คนนั้น ซึ่งมาจากมหาวิทยาลัยอื่น และอยู่ต่างแผนกก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน ยิ่งพูดยิ่งอิจฉาเพื่อนๆ ทั้งสาม ที่เล่าเรื่องการฝึกงานอย่างสนุกสนาน ที่ได้เรียนรู้งานอย่างจริงจังในบริษัทวินวันแอดเวอร์ไทซิ่ง ก็แหงสิ...ใครจะกล้าใช้เด็กฝึกงานอย่างลีน่า น้องสาวของกรรมการผู้จัดการ เนเน่ เพื่อนของลีน่า และอาจเป็นคู่หมายของเจ้าของบริษัท ส่วนจินนี่นั้นก็เป็นเพื่อนลีน่า ที่สำคัญทั้งสามล้วนเป็นคุณหนูไฮโซฯ ที่มาจากครอบครัวนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในสังคมทั้งนั้น ฉันก็ไม่อยากอิจฉาเพื่อนหรอก เพราะมันไม่ดี ที่สำคัญทุกคนก็ดีกับฉัน ช่วยเหลือจุนเจือยามฉันไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ไม่เว้นแม้แต่คนที่ชอบว่าฉันอ้วนอย่างเนเน่ แต่ชีวิตฉันตอนนี้มันน่าน้อยใจกับชะตาชีวิตของตัวเองเหลือเกิน มันจึงอดเปรียบเทียบกับชีวิตที่แสนสบายของเพื่อนๆ ไม่ได้ ก็คนเราเลือกเกิดไม่ได้นี่เนาะ...ฉันจึงก้มหน้าก้มตารับใช้พี่ๆ ในแผนกไปตามกรรม เผื่อว่าวันหนึ่งพี่ๆ เขาจะมองเห็นความสามารถอื่นๆ ของฉันบ้าง จริงๆ มันก็ไม่เหนื่อยหรอกกับแค่ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เพราะร้านก็อยู่ไม่ไกลจากออฟฟิศ แต่เพราะออฟฟิศนี้มีสี่ชั้น ชั้นบนสุดของกรรมการบริหาร ส่วนพนักงานอยู่ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นสามเท่านั้น แยกเป็นแผนกกันไป แต่ลิฟต์นั้นพนักงานไม่มีสิทธิ์ใช้ ผู้บริหารเป็นสาวเปรี้ยวรุ่นใหญ่หุ่นดีที่รักการออกกำลังกาย เลยรณรงค์ให้พนักงานได้ออกกำลังเดินขึ้นลงเพื่อสุขภาพที่ดี และดูเหมือนทุกคนจะเดินขึ้นลงชิลๆ อาจเพราะชินแล้ว แต่ฉันนี่สิ...จะตายเอา แผนกครีเอทีฟอยู่ชั้นสาม คิดดูฉันต้องเดินขึ้นลง ไปซื้อของกินให้พี่ๆ วันละไม่ต่ำกว่าสองรอบ และต้องเอาเอกสารไปส่งตามแผนกที่อยู่ชั้นหนึ่ง ชั้นสองบ้าง เดินขึ้นลงจนรับรอบไม่ได้ บางวันเหนื่อยแทบจะเป็นลม กับการเดินขึ้นลงบันได แต่ข้อดีมันก็คงจะเป็น...น้ำหนักฉันลดลงไปตั้งสามกิโลฯ ทั้งที่มาฝึกงานแค่เดือนเดียว นอกจากเดินขึ้นลงบันไดแล้ว ความเหนื่อยและง่วง เพราะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาออฟฟิศที่ค่อนข้างไกลจากที่พัก ทำให้ฉันเริ่มง่วงและเพลียตั้งแต่ตอนเย็น ความหิวเลยไม่รู้หายไปไหน ทำให้กลับถึงห้อง อาบน้ำแล้วก็พุ่งบนเตียง หลับเป็นตายทันที และไม่มีเวลาฝันถึงผัวมโน (ที่เคยเป็นผัวจริงๆ อย่างแซบแค่คืนเดียว) อีก ทั้งที่เมื่อก่อนกว่าจะนอนก็สี่ห้าทุ่ม และกินของจุกจิกไปเรื่อยๆ วันไหนนอนเร็วก็ตื่นกลางดึกเพราะความหิว ก็กินมาม่ากับน้ำอัดลมไป ฝันถึงผัวมโน แล้วก็หลับต่อ ตอนนี้หลับตั้งแต่ค่ำยันเช้า อาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องพัก แวะซื้อแซนวิชกับน้ำผลไม้ในร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย และนั่งกินขณะรอรถเมล์เพื่อไปขึ้นรถไฟไฟฟ้าใต้ดินไปออฟฟิศ “เฮ้อ แก้หลายรอบ มันก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่ะ เบื่อ” เสียงพี่เจน...ก็อปปี้ไรเตอร์ สาวเซอร์คนสวยของแผนกครีเอทีฟทีมเอ บ่นให้ได้ยินขณะที่ฉันวางกรีนทีครีม แฟรบปูชิโน่ ลงบนโต๊ะพี่เขาเป็นคนสุดท้าย ก่อนเดินไปนั่งพักเหนื่อยที่เก้าอี้มุมห้องเงียบๆ “แกก็ออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ หรือที่ไหนๆ บ้างสิ” พี่แก็บ... อาร์ตไดเร็กเตอร์ (Art Director) ซึ่งเป็นบัดดี้ของพี่เจนแนะนำ “จริงของไอ้แก็บมันนะ”พี่โต...หัวหน้าทีมครีเอทีฟ (Creative Director) คล้อยตามลูกน้อง “ข้างนอกก็แม่งร้อน แถมยังฝุ่นพีเอ็มสองจุดห้าอีก โอ๊ย ชีวิตคนกรุง ลำบากจริงๆ” ตอนนี้พี่เจนบ่นเรื่องสภาพอากาศและมลพิษของเมืองใหญ่ “อย่ามัวแต่บ่น อาทิตย์หน้าต้องส่งงานอีกครั้ง ก็หวังว่าครั้งนี้จะผ่าน เพราะยัยพิมก็มองค้อนพี่หลายครั้งแล้วนะที่งานไม่ถูกใจลูกค้าเสียที” พี่โตทำหน้าเบ้ๆ นิดหน่อยเมื่อเอ่ยถึงเออีของบริษัท (Account Executive) ซึ่งมีหน้าที่บริหารงานลูกค้าและรับโจทย์ (Brief) มาพร้อมกับเขา และได้ยินมาว่างานชิ้นนี้ถูกแก้มาแล้วสามครั้ง “หรือว่าวันหยุดนี้เราจะไปเดินเล่นชายทะเลดี เผื่อเจออากาศดีๆ คิดงานออก” พี่แก็บเสนอ “ก็ดีเหมือนกันนะ” พี่โตเออออ “งั้นไปพัทยามั้ย” พี่แก็บเสนอ “อี๋ไม่เอา ใกล้กรุงเทพฯ เกิ๊น” พี่เจนเบ้ปาก “ภูเก็ตเลยมั้ย” พี่แก็บเสนออีกครั้ง “อันนั้นก็ไกลไป” พี่เจนก็ยังไม่เห็นด้วย “งั้นแกอยากไปไหน บอกมาเลย” พี่แก็บทำหน้าเซ็งๆ ใส่บัดดี้ตัวเอง “หัวหินแล้วกัน ไม่ได้ไปนานแล้ว” “เออ ตามใจแกแล้วกัน เนาะพี่โต” พี่แก็บหันไปพยักพเยิดกับพี่โต ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างง่ายๆ “งั้นแก้มยุ้ยไปด้วยกันนะ จะได้มีเพื่อนนอนร่วมห้อง” “จะไม่เป็นการรบกวนพี่ๆ เหรอคะ” ฉันพูดอย่างเกรงใจ เพราะพวกพี่ทั้งสามไปเพื่อพักผ่อนหาไอเดีย และฉันเป็นแค่เด็กฝึกงานที่วันๆ ก็บริการอาหารเครื่องดื่ม และเดินส่งเอกสารไปวันๆ “ไปเถอะ ไอ้เจนมันนอนคนเดียวในที่ไม่คุ้นเคยไม่ได้ มันกลัวผี” พี่แก็บเฉลยคำตอบให้เรียบร้อยถึงเหตุผลที่พี่เจนชวนฉัน “นะ แก้ม ไปด้วยกัน” “ค่ะ” ฉันตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะคิดว่างานนี้นอกจากไปนอนเป็นเพื่อนพี่เจนแล้ว คงบริการความสะดวกสบายให้พี่ๆ ตามแต่ทุกคนต้องการอย่างไม่ต้องสงสัย ...ชีวิตเด็กฝึกงานของฉัน! ................. 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD