ตอนที่ 18 ที่ตรงนี้ไม่มีใครมาเห็นใจ

1146 Words
ภูสิงห์พลิกตัวลงมานอนหอบหายใจอยู่ข้างๆ หญิงสาวที่นอนหันหลังให้เขา บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไร แต่ในความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกอิ่มเอมในความสุขที่ได้ปลดปล่อยออกมา ทั้งที่เธอไม่ได้เก่งกาจเรื่องบนเตียง หรือจะเรียกให้ถูกคือไม่มีประสบการณ์ด้วยซ้ำ แต่กลับทำให้เขามีความสุขอิ่ม แต่ยังต้องการอีกเรื่อย ๆ อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ที่ผ่านมาเมื่อต้องการก็หาที่ปลดปล่อยตามธรรมชาติของผู้ชายเท่านั้น เสร็จสมก็แยกย้ายกันไปไม่เคยมีความประทับใจอะไร แต่กับเธอกลับมีความรู้สึกสุขสม อิ่มแต่ไม่พอแค่ครั้งเดียว อยากได้อีก ตอนนั้นพอได้จูบเธอแล้วไม่สามารถถอนตัวได้ มีแต่ความต้องการเพิ่มขึ้น ทำให้เขาขาดสติขาดความยั้งคิด ตักตวงจากเธอเต็มที่ กว่าจะอิ่มเอม นรีรินก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว   ช่างสิ...ในเมื่อให้โอกาสเธอพูดแล้วเสือกไม่พูด อยากท้าทายอำนาจ เขาก็ต้องทำให้เธอรู้คราวหน้าจะได้ไม่กล้ามาต่อกรกับเขาอีก "ลุก ต้องกลับไร่แล้ว" ภูสิงห์ลุกขึ้นแต่งตัวจนเสร็จ ก่อนจะส่งเสียงบอกหญิงสาวที่ยังนอนหันหลังให้ และเดินออกไปรอที่รถ   นรีรินลุกแทบไม่ขึ้น ขยับตัวก็เจ็บไปทั้งร่าง โดยเฉพาะจุดความเป็นหญิงคงบอบช้ำหนัก เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออก ไม่มีประโยชน์ที่จะมานอนร้องไห้ ในเมื่อทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้อีก จึงเดินไปหยิบเสื้อผ้า และซับในที่กระจัดกระจายเพราะฝีมือของภูสิงห์ เธอพยายามฝืนความเจ็บปวดไว้ รีบแต่งตัว และเดินออกจากห้องนี้ไป โดยไม่หันหลังกลับไปมอง เธออยากไปจากที่นี่จากนรกขุมนี้ให้เร็วที่สุด  "ขึ้นรถ" เขาส่งเสียงมาเร่งเธอ นรีรินไม่อยากจะร่วมเดินทางไปกับเขา ไม่อยากเห็นหน้า หรือได้ยินเสียงแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้แค่แรงจะเดินเธอยัง  ไม่มี จะอวดเก่งหาทางกลับเองก็คงเป็นไปไม่ได้ จึงเดินไปขึ้นรถ แล้วเขาก็ขับออกไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร  ภูสิงห์ขับรถวนเข้าไปในตลาดอีกครั้ง ถึงแม้จะสงสัยแต่นรีรินก็ไม่เอ่ยปากถามอะไร ยังคงนั่งเงียบ จนรถวนมาจอดหน้าร้านขายยา "ลงไปซื้อยาซะถ้าไม่อยากท้อง" เขาบอกเธอแค่นั้น นรีรินจึงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่วางทิ้งไว้กับพื้นรถตรงปลายเท้า ก่อนจะเปิดประตูรถลงไป   แต่ละก้าวที่เดิน เจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด แต่เธอต้องอดทน ในเมื่อตรงนี้ไม่มีใครสงสารหรือเห็นใจเธอ ก็ต้องพยายามฝืนเดินไปจนถึงหน้าร้าน ยืนลังเลเป็นครู่กว่าจะตัดสินใจได้ และเดินเข้าไปในร้าน ในชีวิตไม่เคยคิดว่าจะต้องมาซื้อยาคุมฉุกเฉิน รู้ว่าควรจะป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ แต่เธอไม่เคยมีแม้กระทั่งแฟน แต่ต้องมาซื้อยาแบบนี้ ยอมรับว่าอาย เภสัชกรที่ขายยาเอ่ยถามเธอหลายครั้ง กว่าเธอจะกล้าเอ่ยปากออกไปอย่างตะกุกตะกัก พอได้ยาก็รีบยัดใส่กระเป๋ากลัวใครเห็น ทั้งที่ไม่มีใครสนใจกันอยู่แล้ว และเธอก็เรียนจบอยู่ในวัยที่แต่งงานมีครอบครัวได้ จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเธอมันคือเรื่องที่เลวร้าย นรีรินรีบเดินกลับไปที่รถเพื่อจะได้รีบกลับบ้าน กลับไปร้องไห้ระบายออกมาให้มันสาแก่ใจกับความโชคร้ายครั้งนี้   ภูสิงห์เดินขึ้นมาบนออฟฟิศแต่เช้า ปกติถ้ามาถึงเร็วเขาจะต้องขับรถกอล์ฟออกไปตรวจงานในไร่กับตะวัน ก่อนจะกลับมานั่งดูเอกสารที่ออฟฟิศ แต่วันนี้ไม่รู้เป็นยังไง จิตใจอยากจะขึ้นมาที่นี่ก่อน มองไปที่โต๊ะสองตัวที่วางคู่กันอยู่หน้าห้อง ชั้นสองไม่มีใครกล้าขึ้นมาถ้าไม่จำเป็น ยกเว้นวันไหนเขาไม่เข้า หรือไม่มา ก็จะมีคนแวะเวียนมาหาตะวันบ้าง มาหานรีรินบ้าง ทำไมเขาจะไม่รู้ พวกมันจะกลัวอะไรนักหนา ในเมื่อไม่ได้ทำผิดอะไร เขาก็ไม่เคยลงโทษใครอยู่แล้ว มองไปเห็นเพียงตะวันนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ส่วนโต๊ะอีกตัวว่างเปล่า เขาจึงยกนาฬิกาขึ้นดู เจ็ดโมงกว่า ปกติจะเห็นมาแล้ว “ไอ้ตะวัน” “หวัดดีครับนายสิงห์” ตะวันเงยหน้าส่งยิ้มให้ และลุกเดินเข้าไปหาเจ้านาย “ไปไหน..” ภูสิงห์เอ่ยถาม ไม่ระบุว่าเรื่องอะไร เพียงแต่ถามขึ้นมาลอย ๆ ไม่เอ่ยชื่อออกมา ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจ หรือมองเธออยู่ในสายตามาก่อน หากวันนี้ถามถึงนรีรินลูกน้องคนสนิทอาจจะสงสัย จึงเอ่ยได้ไม่    เต็มปากไม่เต็มประโยค “เจ้านายจะไปไหนครับ สั่งมาได้เลยวันนี้ไอ้ตะวันพร้อม” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยออกมาคนละเรื่องกับที่เจ้านายต้องการ พาลทำให้หงุดหงิด จึงต้องเลียบๆ เคียงๆ ถามถึง “ถ้าแกไปกับฉัน แล้ว..เอ่อ..คนนั้นจะเข้ามาทำงานหรือเปล่า” ภูสิงห์พยักพเยิดหน้าไปที่โต๊ะอีกตัว “อ้อ...น้องริน..วันนี้ลาครับ” “ลา!! ไปไหน” ภูสิงห์ตะคอกออกมาเสียงดัง ทำให้ตะวันเข้าใจผิดคิดว่าเขาไม่พอใจ “พอดีว่าน้องรินเค้าไม่สบายครับเจ้านาย โทรมาลาป่วยแต่เช้าแล้ว คนเรามันป่วยกันได้น้าาา อีกอย่างตั้งแต่ทำงานมาน้องเค้ายังไม่เคยลาเลยนะคร้าบ เจ้านายอย่าไปว่าน้องเค้าเลยนะเจ้านาย” “เสือกรู้ดีเรื่องคนอื่น” จากที่สงสัยว่าทำไมถึงลา เริ่มกรุ่นๆ ไม่พอใจที่ลูกน้องคนสนิทเริ่มจะไปสนิทสนมกับหญิงสาวมากเกินไป “แหะ แหะ ทำงานร่วมกันมา น้องเค้าก็นิสัยดี น่ารัก คงไม่เกเรแน่นอน นายสิงห์ก็เห็นนะครับ ทำงานมาด้วยตั้งหลายเดือนน้องเค้าไม่เคยขาดลามาสายเลยนะ” ตะวันพยายามช่วยแก้ต่างแทนหญิงสาว กลัวเธอจะโดนภูสิงห์เรียกไปด่าเหมือนที่ผ่านมา “แกเป็นอะไรกับเค้า ถึงแก้ตัวให้ขนาดนี้” อารมณ์หงุดหงิด ถึงไม่รักไม่ชอบ แต่อะไรที่เป็นของเขา ใครก็อย่าแตะ ยิ่งได้ยินลูกน้องคนสนิทพูดออกตัวแทน อารมณ์พาลหงุดหงิดทำให้ไม่พอใจไปหมด “เจ้านาย!!” ตะวันร้องออกมาด้วยความตกใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD