“หรือมึงคิดจริง...ห๊ะ...ไอ้ตะวัน!” ชายหนุ่มหรี่ตามองลูกน้อง ใบหน้าเริ่มบึ้งตึง จนตะวันเริ่มสงสัยว่าวันนี้เจ้านายเป็นอะไรไป แล้วใครมันบังอาจมาทำให้อารมณ์เสียแต่เช้า โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำให้เจ้านายมโนไปไกล
“ผมไม่กล้าหรอกคร้าบบบ ... เจ้านายก็รู้นี่นาน้องรินเค้าประกาศแล้วว่าคุณอิฐเป็นตัวจริง”
“หึ ก็แค่ไอ้มดแดง” ภูสิงห์พูดออกมาอย่างดูถูก มีเพียงเขาที่รู้ว่าเพราะอะไร
“ใครเหรอครับ ไอ้มดแดง”
“มึงไม่ต้องรู้”
“แต่น้องริน....เขา...เอ่อ...ประกาศตัวแบบนั้นนะครับเจ้านาย”
“ไอ้ตะวัน!”
“ครับ ๆ” ตะวันรีบหุบปากพร้อมกับโอดครวญในใจ เขาพูดความจริงล้วน ๆ แล้วเจ้านายไม่พอใจอะไร แค่เอ่ยถึงนรีรินนิดเดียวก็ไม่ได้ ตะวันได้แต่นึกสงสารเพื่อนร่วมงานในใจ
และเหนืออื่นใด ก็อดสงสารตัวเองไม่ได้เช่นกัน...สงสัยเมื่อเช้าเขาก้าวเท้าข้างไหนออกจากบ้านก่อน ทำไมวันนี้มันถึงซวยอย่างนี้ เจ้านายอารมณ์เหวี่ยงวีนมาเลย แล้วชีวิตที่เหลือทั้งวันจะเป็นอย่างไรน้อ...โอ๊ยยยย....
เสียงเคลื่อนไหวแผ่วเบา ดังมาจากฝั่งหน้าต่างห้องนอนของนรีริน บานหน้าต่างค่อย ๆ แง้มเปิดโดยที่เจ้าของห้องยังนอนหลับสนิทไม่รู้ตัว ร่างสูงใหญ่โหนตัวขึ้นมาแผ่วเบา ก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังเตียงนอนที่หญิงสาวกำลังหลับใหล
แสงไฟฟ้าหน้าบ้างส่องเข้ามารำไร พอให้มองเห็นหน้าคนที่นอนอยู่บนเตียง ภูสิงห์หยุดยืนจ้องมองเป็นครู่ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับตรงหน้าผากหญิงสาว สัมผัสลำคอรับรู้ถึงความร้อนที่ร่างกายขับออกมา
ตัวร้อน ไม่สบายจริงด้วย
ทีแรกภูสิงห์คิดว่านรีรินโกหก แกล้งป่วย ไม่ยอมไปทำงานเพราะอยากหลบหน้าเขา จึงตัดสินใจแอบเข้ามาในห้องของเธอ เพื่อดูให้เห็นกับตาว่าเธอป่วยจริงหรือป่วยการเมือง พอมือเขาสัมผัสตัวเธอ ความร้อนที่สัมผัสได้ทำให้แน่ใจว่าเธอไม่สบายจริง
นรีรินเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตัวนอนหงายแล้วลืมตาขึ้นมองด้วยสีหน้างงๆ เป็นนานกว่าจะเห็นหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงชัดๆ
“นาย..สิงห์” น้ำเสียงแหบแห้งที่เปล่งออกมา ทำให้ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปนั่งริมเตียงของเธอ ก่อนจะเอ่ยออกมา
“เป็นอะไร”
“ไข้”
“ไปหาหมอรึยัง”
“กินยาแล้ว”
“คิดง่ายๆ เดี๋ยวก็มาตายคาไร่ของฉัน ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จะพาไปหาหมอ” ชายหนุ่มสั่งออกมาโดยไม่สนใจว่าเธอจะเชื่อฟังหรือไม่
“กินยาแล้ว”
“หายไหมล่ะ”
“...”
“ตกลงว่าไง จะไปชุดนี้ใช่ไหม จะได้พาไป” เขาขยับตัวเข้าไปช้อนตัวหญิงสาวจะอุ้มเธอขึ้น
“ไม่ไป!! ปล่อยรินเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวคิดว่าตัวเองตะโกนออกมาสุดเสียง แต่ที่ได้ยินแค่เสียงแผ่วเบาไร้เรี่ยวแรง มันเป็นความซวยอะไรของเธอกัน ไม่สบายแล้วยังต้องมาออกแรงขัดขืนกับตัวปัญหาอีก
“ทำไม?”
“เดี๋ยวก็หาย” เธอตอบอ้อมแอ้ม เพราะรู้ตัวเองดีว่าทำไมถึงป่วย ขณะตอบเขาก็ก้มหน้าหลบตา ภูสิงห์จ้องมองหน้าเธอในความสลัว เมื่อเธอยืนยันแบบนั้นก็ตามใจ
“ดูสภาพเธอสิ พูดยังไม่มีแรง...ฉันบอกให้ลุก ... เธอจะยอมไปดี ๆ หรือต้องให้จับเธอมัด แล้วลากไปหาหมอ”
“ไม่...ไม่ต้องค่ะ”
ภูสิงห์หรี่ตามองท่าทางของหญิงสาว ตลอดเวลาที่คุยด้วย เธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาแม้แต่น้อย เอาแต่ก้มหน้าหลบตา จึงทำให้คิดออกแล้วว่าเพราะอะไร
“ที่ป่วยนี่ เพราะนอนกับฉัน??” เขาถามออกมาตรง ๆ ตามแบบฉบับของภูสิงห์ ไม่เคยสนใจ ไม่เคยแคร์ ว่าใครจะรู้สึกอย่างไร
“....”
“แบบนี้ต้องให้ฉันนอนกับเธอบ่อย ๆ สิจะได้ชิน” เขาพูดออกมาได้หน้าตาเฉย
“ฝันไปเถอะ ผิดพลาดแค่ครั้งเดียวจะไม่มีครั้งต่อไป” เธอตอบห้วน ๆ สะบัดหน้าหนี
“ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ รอให้ฉันเบื่อก่อนสิ แล้วฉันอาจจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ” นี่เองเหตุผลที่เขาแอบเข้ามาดูเธอ มาตรวจดูของเล่นชิ้นใหม่ที่เขายังอยากได้ ยังไม่เบื่อ
“ไม่นะ...นายสิงห์..อย่ายุ่งกับรินเลยนะ เรื่องเมื่อวานรินจะถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น” หญิงสาวตกใจกับความต้องการของเขา ปฏิเสธออกไป และอ้อนวอนให้ชายหนุ่มเลิกยุ่งกับเธอ
ภูสิงห์ไม่พอใจ เธอเป็นใคร ก็แค่เด็กในไร่ ดีเท่าไหร่แล้วที่คนอย่างเขาให้ความสนใจ เธอควรจะดีใจมากกว่าที่เขายังติดใจอยากได้เธออีก เธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ยกเว้นแค่ตำแหน่งเมีย ที่เขาไม่เคยคิดจะมีอยู่แล้ว
“เธอเลือกได้เหรอ ทางที่ดีอย่าขัดใจฉันดีกว่า” น้ำเสียงห้วน ๆ บ่งบอกถึงความไม่พอใจ เธอเป็นใคร ถือดียังไงถึงกล้าปฏิเสธเขา
“ฉันว่าเธอรีบกินยารีบหายดีกว่า จะได้มีแรง คราวหน้าฉันเอาจะได้ไม่ป่วยอีก” พูดเสร็จเขาก็ลุกขึ้น ทำท่าจะเดินกลับออกไปทางเดิมที่เข้ามา
“นายสิงห์ อย่ายุ่งกับรินอีก...ได้ไหม”
“ฉันไม่ได้พิศวาสเธอหรอกนะ อย่าสำคัญตัวผิด คิดว่าฉันสนใจ แต่เพราะเธอมันรนหาที่เอง ฉันก็ต้องสั่งสอนให้รู้ว่าคนที่มันกล้าขัดคำสั่งฉัน จะเป็นยังไง” ภูสิงห์ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีก แล้วเขาก็เร้นกายหายไปกับความมืด
น้ำตาหญิงสาวเอ่อคลอเต็มหน่วย ไร้เรี่ยวแรงจะฝืนทำตัวเข้มแข็งอีกต่อไป เธอทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้าทั้งกายและใจ อยากจะร้องไห้ดัง ๆ ระบายความคับแค้นที่มันสุมแน่นอยู่ภายในอก เขาโกรธแค้นอะไรเธอนักหนา ถึงได้ใจร้าย ทำลายชีวิตของเธอแบบนี้
หญิงสาวนอนคว่ำหน้าลงกับหมอน แล้วร้องไห้ออกมา ปล่อยให้น้ำตาไหลเปียกหมอนจนชุ่ม ร่างบางสั่นเทิ้ม กลั้นสะอื้นไว้ ไม่อยากให้พ่อของเธอได้ยินเสียง ทำไม...ชีวิตของเธอถึงได้บิดเบี้ยวแบบนี้ เสียใจ เสียตัว อีกหน่อยคงไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรีของตัวเอง