"เข้ามา" สิ้นเสียงเอ่ยอนุญาตของเขา เธออยากจะวิ่งหนีกลับไปตั้งหลักที่บ้าน ไม่อยากเข้าไปข้างใน เดาไม่ถูกว่าจะไปเจอกับอะไร แต่ทำได้แค่เพียงคิด จึงได้แต่ยื่นมือเปิดประตูเข้าไป
"ฉันคงไม่ต้องเชิญเธอนั่งหรอกนะ" เมื่อเห็นว่าเธอเข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขาเงียบ ๆ
"ค่ะ" นรีรินนั่งลง ก้มหน้าเล็กน้อย ท่าทางของเธอดูไม่ดีใจเหมือนคนที่กำลังได้งานทำ แต่กลับเหมือนแบกโลกใบใหญ่ไว้เพียงลำพัง
"ฉันให้เธอมาทำงานตามข้อตกลง แต่ถ้าไม่อยากทำก็บอกให้ไอ้เชนมันโผล่หัวออกมา ไม่งั้นฉันจะไปตามหาเอง หรือจะเล่าเรื่องนี้ให้พ่อเธอฟังดีล่ะ" เขาวางปากกาในมือลง และเงยหน้าขึ้นพร้อมกับขู่เธอ
"นายสิงห์จะให้รินทำงานอะไรก็บอกมาค่ะ" ไม่มีทางเลือกจริง ๆ
"ดี!! ฉันชอบคนพูดง่าย รู้เรื่อง ไม่ทำตัวโง่ ๆ" วาจาที่เปล่งออกมา นรีรินแทบอยากจะเดินหนี
"กฎของฉันคือ ลูกน้องต้องทำตามคำสั่ง ห้ามถาม ห้ามสงสัย และที่ฉันไม่ชอบที่สุดคือ ห้ามมาวุ่นวายกับฉัน ไม่ต้องมาอ่อยหรือเอาตัวเข้าแลก ฉันเกลียดผู้หญิงแบบนี้" แจ้งกฎของเขาให้เธอรู้จะได้ปฏิบัติตามคำสั่ง
"ตกลงค่ะ" ที่พอคุยกันได้และมีความเห็นตรงกันก็คงจะเป็นเรื่องนี้ เธอไม่อยากเข้าใกล้เขาเหมือนกัน อย่างน้อยนรีรินก็โล่งอกที่เขาไม่ยุ่งกับลูกน้องแบบเธอ จะได้ทำงานสบายใจขึ้น
"อ้อ…ถ้าฉันเรียกเมื่อไหร่ จะดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องมา คำสั่งฉันสำคัญที่สุด"
เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร ราชาแห่งไร่ส้มภูลมเหรอ ที่เรียกเมื่อไหร่เธอก็ต้องมา ฝันไปเถอะ เลิกงานแล้วคือจบ นรีรินแอบต่อต้านในใจ
“จะมาเป็นเลขาฉัน ขอบอกว่ามันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด เพราะเธอจะได้รับการทดสอบจากฉันเป็นพิเศษ ต้องรู้ทุกเรื่องมากกว่าคนอื่น หวังว่าเธอจะไม่เปลี่ยนใจ หรือถอดใจก่อน”
เขาพูดยืดยาวกับเธอ เหมือนปราณีที่สุด แต่เธอมั่นใจว่าคนอย่างเขาไม่เคยหวังดี หรือทำดีกับเธอแน่นอน
"พรุ่งนี้มาแต่เช้า ฉันต้องการให้เธอทดลองงานจนกว่าจะผ่าน ถึงจะให้เธอมานั่งทำงานตำแหน่งเลขาฉันได้ อย่าเพิ่งฝันหวานว่ามันจะง่ายขนาดนั้น"
"ค่ะ" แต่ในใจนรีรินกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สวดส่งวิญญาณภูสิงห์ไปหลายรอบ
เธอไม่อยากทำงานกับเขา แต่ถูกบังคับแล้วยังจะถูกกลั่นแกล้งอีกเหรอ ในใจคิดถึงราเชนอยากให้กลับมาจัดการอีตานายสิงห์ให้หนัก
"พรุ่งนี้หกโมงเช้าห้ามสาย ถ้าสายจบ ฉันจะตามหาไอ้เชนมันเอง" พูดเสร็จเขาก็ลุกเดินออกไป หมดความสนใจที่จะคุยกับเธอแล้ว
05.50 น.
นรีรินมายืนหนาวสั่นอยู่คนเดียว เพราะทั้งออฟฟิศยังไม่มีคนมา เมื่อวานเจอคำขู่ไป ไม่อยากมีปัญหา เกิดเจ้านายไม่พอใจเดี๋ยวจะเปลี่ยนวิธีมาทดลองงานเธอ
"มาเร็วดีนี่" นรีรินสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองเห็นภูสิงห์เดินออกมาจากทางด้านหลังออฟฟิศเงียบ ๆ และมีตะวันเดินตามมา ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะให้เธอไปกับภูสิงห์สองคน
ตะวันเดินเลยไปจนถึงโรงจอดรถของส่วนออฟฟิศ และขับรถกอล์ฟออกมาจอดเทียบให้เธอกับ ภูสิงห์ขึ้นนั่ง เธอเลือกนั่งแถวหลังสุดห่างจากเจ้านาย จะได้ใช้เวลานี้เตรียมตัวเตรียมใจ หากวันนี้เจออะไรที่เขานำมาทดสอบ เธอจะพยายามอดทน คงไม่หนักถึงกับฆ่าแกงเธอให้ตาย
สวนส้มเรียงรายเป็นแถวยาวสุดลูกหูลูกตา กำลังออกลูกเต็มต้นสวยงาม นรีรินมองดูด้วยสายตาชื่นชมธรรมชาติ หมอกลงจาง ๆ กลายเป็นหยดน้ำเกาะอยู่ตามยอดหญ้ากระทบกับแสงพระอาทิตย์ทำให้ดูเป็นประกายสวยงาม ดูอบอุ่น เธอรู้สึกสุขใจกับภาพที่เห็นจนต้องเผลอยิ้มออกมา
เป็นความสุขที่เธออยากเก็บซึมซับไว้ เพราะหากวันหนึ่งเธอจะต้องย้ายออกไป ก็อดคิดถึงสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ พวกเธออาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งนาน ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นเจ้าของไร่ มองเห็นแค่แผ่นหลังก็รู้สึกมวนท้อง บอกได้แค่เกลียดยันเงา เมื่อไหร่กันที่เธอจะมีโอกาสได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของใคร
“ลงมาได้แล้ว จะต้องให้มีคนเชิญหรือไงถึงจะลงได้” นรีรินที่กำลังคิดอะไรเพลิน ทีแรกยังงง แต่พอสบตากับเจ้านายก็รู้แล้วว่าตัวเองมาทำอะไร เธอจึงลงจากรถไปยืนใกล้กับตะกร้าและเข่งสำหรับใส่ส้ม
“วันนี้เริ่มจากเก็บส้ม งานง่ายๆก่อน ดูหน้าตาแล้วทำงานใช้แรงแบบนี้เหมาะกับเธอ” เขากำลังแกล้งเธอหรือเปล่า แต่อย่างว่าถึงเขาจะแกล้ง นรีรินก็ขัดคำสั่งไม่ได้
จากนั้นภูสิงห์ก็เดินไปนั่งในร่มที่กางไว้ พร้อมโต๊ะเก้าอี้ มีกาแฟวางเสิร์ฟไว้ให้พร้อม เขานั่งลงทำงานโดยไม่สนใจเธออีก นรีรินจึงต้องเดินไปหยิบตะกร้ามาสะพายเพื่อเตรียมตัวเก็บส้ม ใช่ว่าเธอจะไม่เคยทำ แต่ก่อนก็เคยทำ จนช่วงเรียนต่อมหาวิทยาลัยต้องออกไปพักหอพักข้างนอกจึงไม่ค่อยได้ทำแล้ว พอเรียนจบก็กลับมาอยู่กับพ่อเพื่อรองาน
ตลอดทั้งอาทิตย์ เธอต้องสะพายตะกร้าเก็บส้ม โดยมีเจ้านายนั่งทำงานในร่มเย็น ๆ คอยจับตามองตลอดเวลา มีคนงานชายจะช่วยเธอนำตะกร้าส้มมาใส่รวมในเข่งพร้อมคนงานคนอื่น ก็โดนนายสิงห์ตวาดจนคนงานชายคนนั้นไม่กล้าเข้าใกล้เธออีก ส่วนเธอต้องทนฟังคำพูดเสียดสีอีกนานกว่าจะหมดวันเธอก็แทบจะลากขากลับบ้าน
ต่อมาก็เป็นการปลูกส้ม การใส่ปุ๋ย ทำทุกอย่าง จนเธอแทบจะกลายเป็นสาวสวนส้มอยู่แล้ว ถ้าออกจากที่นี่ไปเชื่อได้เลยว่าเธอสามารถทำสวนส้มได้
เจ้านายก็มานั่งคุมทุกวันและคอยจับผิดเธอตลอดเวลา เหนื่อยก็เหนื่อย แต่พักไม่ได้ แสดงอาการเหนื่อยออกมาก็ไม่ได้ จะต้องมีคนคอยแขวะ คอยว่า นี่เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเธอมาตั้งแต่ชาติไหนกัน