ในตอนเช้าสัตยาตื่นขึ้นมาก็พบว่าพลอยไพลินยังคงหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนเขา เขาขยับเข้าไปกอดเธอให้แนบชิดขึ้นจนส่วนนั้นดันสะโพกเธออยู่ พลอยไพลินงัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วก็ตกใจเมื่อโดนแท่งที่แข็งแกร่งนั้นดันสะโพกเธอแล้วดูเหมือนว่าสัตยานั้นตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น
เธอพยายามขยับตัวเบาๆ เพื่อให้ออกจากอ้อมแขนของเขา แต่สัตยารู้ทันเขาแกล้งทำเป็นว่ายังไม่ตื่นแล้วละเมอกอดเธอให้แน่นขึ้น มือเขาที่พาดกอดเธอตรงหน้าอกนั้นทำให้เขารู้สึกได้ว่าพลอยไพลินนั้นหัวใจเต้นแรงแค่ไหน
พลอยไพลินนิ่งไปสักพักกลัวว่าเขาจะตื่น เธอรอจนมั่นใจว่าเขายังไม่ตื่นแล้วค่อยๆ แกะมือเขาออกทีละนิดแล้วค่อยๆ ขยับออกไปจากอ้อมกอดนั้น สัตยาแกล้งหลับต่อแล้วลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำ
เขายิ้มออกมาแล้วสักพักก็ค่อยๆ หุบยิ้มลง คิดว่าตัวเองทำอะไรลงไป คงเพราะหึงพลอยไพลินและกลัวเธอเข้าใจผิดที่เห็นเขาเดินออกมากับผู้หญิง ประกอบกับความเมาเลยทำให้เขาขาดสติและรีบจองตัวเธอไว้ก่อนจะตกไปเป็นของคนอื่น
‘แพรว ผมขอโทษที่ฉวยโอกาสกับน้องสาวของคุณ ถึงคุณจะบอกให้ผมดูแลพลอยในฐานะภรรยาแทนคุณก็ตาม แต่ผมก็รู้สึกผิดอยู่ดี และผมสัญญานะว่าผมจะไม่ทำให้พลอยต้องเสียใจ จะดูแลเขาและยกย่องไม่ให้พลอยต้องเสียเกียรติ’ สัตยาบอกแพรวพราวในใจ ก่อนจะขึ้นใส่เสื้อผ้า เพื่อกลับไปอาบน้ำที่ห้องของเขาก่อนที่แม่บ้านจะเดินมาเห็นแล้วจะทำให้พลอยไพลินเสื่อมเสีย
เมื่อพลอยไพลินออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นสัตยาแล้ว เธอดีใจที่เขาไม่ได้อยู่ในห้องต่อเพราะมันทำให้เธออึดอัด แต่ลึกๆ ก็น้อยใจที่เขากลับออกไปโดยไม่อยู่ลาเธอสักคำ นั่นอาจหมายความว่าเขาไม่อยากเผชิญหน้ากับเธอ
พลอยไพลินแต่งตัวลงไปที่ห้องครัว วันนี้แม่บ้านทำข้าวต้มปลา เธอเลยเดินไปช่วยแม่บ้านซอยขิงเพื่อใช้โรยหน้าข้าวต้มแล้วก็ลวกไข่ให้สัตยาเพิ่มอีกฟอง จากปกติที่เขาทานหนึ่งฟองอยู่แล้ว
พอถึงเวลาทานอาหารเช้าเธอก็กังวลว่าจะหลบหน้าเขาดีหรือไม่ แล้วก็ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับเขาแล้วทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแทน อย่างนี้คงจะดีกว่าและอึดอัดน้อยกว่าหลบหน้าเขาแล้วต้องเจอกันหลังจากหลบหน้าแบบนั้นคงน่าอึดอัดมากกว่า
สัตยาเดินลงมาแล้วเห็นพลอยไพลินนั่งรอเขาที่โต๊ะอาหารก็ยิ้มอย่างโล่งใจ เขานั่งลงตรงหัวโต๊ะแล้วหันไปพูดกับแม่บ้าน
“ป้าออครับ ต่อไปจัดโต๊ะให้พลอยนั่งฝั่งขวามือนะครับ” สัตยาบอกแล้วยิ้มให้พลอยไพลินที่เอาแต่ก้มหน้าตักข้าวต้มทานเหมือนว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“พลอย” สัตยาเรียกเธอเสียงนุ่ม
“คะ” พลอยไพลินตอบรับเขา แต่ก็ยังก้มหน้าทานข้าวต้มอยู่
“กินเสร็จไปเปลี่ยนชุดใหม่นะ พี่จะพาออกไปข้างนอก” สัตยาบอกแล้วตอกไข่ใส่ข้าวต้มทั้งสองฟองอย่างอารมณ์ดี
“ไปไหนคะ” พลอยไพลินถามเขาเสียงเบา
“ไปวัด ไปทำบุญให้แพรว” สัตยาบอก พลอยไพลินเลยเข้าใจว่าเขารู้สึกผิดเหมือนเธอแล้วทั้งสองจะไปทำบุญเพื่อขอขมาแพรวพราวให้ยกโทษให้ทั้งคู่ในเรื่องนี้
**********************
สัตยาจอดรถที่ใต้ร่มไม้ใหญ่แล้วเดินไปหยิบของที่จะนำมาทำบุญออกมาจากเบาะด้านหลัง เดินนำพลอยไพลินไปยังโบสถ์เพื่อกราบพระแล้วนำชุดสังฆทาน อาหารคาวหวานที่เตรียมมาถวายพระสงฆ์เพื่อส่งผลบุญให้กับแพรวพราว ก่อนจะนำดอกแก้วที่พลอยไพลินตัดมาจากบ้านไปวางไว้ที่หน้าป้ายสุสานของเธอ
“วันนี้พี่พาพลอยมาทำบุญหาแพรว และถือโอกาสมาขอขมาแพรวเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน” สัตยาเริ่มพูดขึ้นมา พลอยไพลินไม่ได้พูดอะไร เธอรอฟังเขาพูดก่อนแล้วเธอจะขมาพี่สาวต่อจากเขา เพื่อให้แพรวพราวยกโทษให้ และเธอจะสาบานต่อหน้าหลุมศพของพี่สาวว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสัตยาอีก เพื่อให้เขาสบายใจและไม่ต้องรู้สึกผิดกับแพรวพราว
“ตอนแรกที่แพรวบอกพี่ที่โรงพยาบาลก่อนจะจากไป ว่าให้พี่รับพลอยมาเป็นภรรยาและดูแลเธอให้ดี พี่รับปากไปอย่างนั้นเอง” สัตยาพูดออกมา แพรวพราวใจหายและรู้สึกเสียใจลึกๆ ที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ตอนนั้นเธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลยไม่รู้ว่าพี่สาวสั่งเสียเอาไว้อย่างนั้น
“พี่ยอมรับว่าพี่พยายามโยนความผิดให้พลอยเพื่อที่จะโทษใครสักคนที่แพรวตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าพลอยไม่ผิด พี่ทั้งต่อว่าพลอยด้วยคำพูดที่แย่ๆ ทั้งทำร้ายจิตใจพลอย แต่ว่าพลอยก็ยังทำดีกับพี่เสมอ จนวันหนึ่งที่พลอยทนความเลวร้ายของพี่ไม่ไหว และจะจากไป ตอนนั้นพี่ถึงรู้ใจตัวเองว่า..พี่รักพลอย” สัตยาพูดแล้วหันมามองหน้าพลอยไพลินตอนท้ายประโยคที่เขาบอกว่ารักเธอ
“และพี่ก็ได้ทำผิดกับพลอยไปเมื่อคืน พี่เลยอยากมาขอขมาแพรว และบอกแพรวว่าพี่เต็มใจดูแลพลอยอย่างที่เคยรับปากแพรวเอาไว้ แต่ไม่ใช่เพราะพี่อยากทำตามสัญญาแค่อย่างเดียว แต่เพราะพี่รักพลอยจริงๆ และสัญญาว่าจะดูแลพลอยให้ดี และยกย่องพลอยเป็นภรรยาอย่างถูกต้อง พี่อยากให้แพรวช่วยดลใจให้พลอยรับรักพี่ และยอมให้พี่ดูแลตลอดไปในฐานะภรรยา แพรวยกน้องสาวให้พี่ด้วย ช่วยพี่หน่อยนะแพรว” สัตยาพูดกับป้ายสุสานแต่ว่าสายตาของเขานั้นจ้องมองพลอยไพลินตลอดเวลา
พลอยไพลินเองเข้าใจแล้วว่าสัตยานั้นรู้สึกกับเธออย่างไร ที่ผ่านมาเธอเองเข้าใจผิดมาตลอดว่าเขาเกลียดเธอ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขารักเธอ และเธอปฏิเสธไม่ได้ว่ารักเขาเช่นกัน
กำแพงทุกอย่างและความกลัวว่าจะโดนมองไม่ดีนั้นหายไป เมื่อสัตยากล้าพูดขอขมาและขอเธอจากแพรวพราวอย่างนี้ เธอจะปฏิเสธเขาก็ขัดใจตัวเอง สู้ยอมรับหัวใจตัวเองแล้วรับรักเขาไปเลยจะดีกว่า
“พี่ใหญ่” พลอยไพลินเรียกชื่อเขาเสียงเบา ก่อนจะหันไปมองรูปพี่สาวที่ยิ้มอย่างสดใสตรงหน้า
“พี่แพรวคะ ที่ผ่านมาพลอยเองยอมรับว่าไม่มีความสุขเลยที่ต้องอยู่กับคนที่ดูเหมือนว่าเกลียดพลอยอยู่ตลอดเวลาทั้งๆ ที่พลอยพยายามทำดีด้วย แต่ว่าพลอยก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรทำไมพลอยไม่มีความสุขที่อยู่กับพี่ใหญ่ แต่พลอยไม่เคยรู้สึกว่าเกลียดเขาเลย ยิ่งช่วงหลังๆ ที่พี่ใหญ่บังคับให้พลอยอยู่เพื่อชดใช้หนี้บุญคุณแล้วมาวุ่นวายในชีวิตพลอยมากขึ้น แทนที่พลอยจะรำคาญกลับรู้สึกดีอย่างประหลาด และอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่กับพี่ใหญ่” พลอยไพลินพูดแล้วหันหน้าไปทางสัตยาที่กำลังลุ้นรอฟังประโยคต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
“พลอยคิดว่าพลอยเองก็รักพี่ใหญ่ค่ะ” พลอยไพลินบอกแล้วหันไปอมยิ้มให้กับรูปของพี่สาว สัตยายิ้มกลว้างออกมาอย่างดีใจที่รู้ว่าพลอยไพลินนั้นใจตรงกับเขา
“แต่ถ้าจะให้พลอยเป็นเมียพี่ใหญ่ พลอยไม่เอาด้วยหรอกนะคะ พลอยไม่อยากมีสามีใจร้ายและเอาแต่ใช้อำนาจแบบนี้” พลอยไพลินพูดออกมาทีเล่นทีจริงทำเอาสัตยาร้อนใจเป็นอย่างมาก
“ไม่สิพลอย ไม่พูดอย่างนี้สิ” สัตยาบอกพลอยไพลินแล้วหันไปมองรูปถ่ายของแพรวพราว
“พี่สัญญานะแพรวว่าจะดูแลพลอย ไม่ปากเสีย ไม่ทำร้ายจิตใจ ไม่ใจร้ายกับพลอยอีกแล้ว ช่วยพี่เถอะนะ”
“เรื่องนี่พี่แพรวช่วยไม่ได้หรอกค่ะ พี่ใหญ่ไม่ต้องขอให้เมื่อย” พลอยไพลินบอกแล้วไหว้ลาแพรวพราวเพื่อเดินกลับไปที่รถโดยมีสัตยาเดินตามมาอย่างร้อนใจ
“พลอยเองก็รักพี่ แล้วจะไม่ให้โอกาสพี่จริงๆ นะหรือ” สัตยาถาม พลอยไพลินอมยิ้มคิดว่าเขาจริงจังมากไปจนดูไม่ออกว่าเธอแค่พูดเล่นไปอย่างนั้น
“รักก็ส่วนรัก แต่ว่าถ้ารักแล้วไม่มีความสุขพลอยก็ไม่ได้อยากอยู่กับพี่ใหญ่นี่คะ” พลอยไพลินอำเขาแล้วขึ้นไปนั่งบนรถก่อนเขา สัตยาขึ้นมานั่งบนรถแล้วกุมมือเธอเอาไว้
“พี่ขอโทษนะพลอย ที่ผ่านมาที่พี่ทำไม่ดีกับพลอยไว้ จริงๆ พี่ร้ายกับพลอยเอาไว้เยอะ อยู่ๆ พอรู้ตัวว่ารักจะให้อ่อนโยนทันทีเลยมันก็ไม่ใช่ พี่ยอมรับว่าพี่กลัวเสียหน้า” สัตยาบอกหน้าเขาแดงที่ต้องพูดอะไรที่ขัดจากนิสัยของตัวเขาเอง
“ดีกันนะพลอย ชีวิตคนเรามันสั้น อย่าโกรธพี่นานเลย” เขาง้อเธอเสียงอ้อน เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ก็อดเขินไม่ได้ สัตยาเห็นแก้มแดงเรื่อนั้นก็รู้แล้วว่าเขามาถูกทาง
“นะครับพลอยคนดี ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจตอนนี้ก็ได้ แค่อย่าเกลียดพี่ก็พอ” สัตยาอ้อนเธออีกครั้ง คราวนี้พลอยไพลินกลั้นยิ้มไม่อยู่ เธอตีแขนเขาไปหนึ่งที
“พี่ใหญ่ก็ได้ยินแล้วนี่ค่ะว่าพลอยรักพี่ ทำเป็นมาพูดดี”
“แต่งงานกันนะพลอยพี่ใจร้อน” สัตยาบอก เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาคว้าเธอไปจากเขาแน่นอน
“ไม่ค่ะ” พลอยไพลินบอก
“ทำไมล่ะ” สัตยาถามเสียงเศร้า
“พี่แพรวตายยังไม่ถึงปี พี่ใหญ่จะแต่งงานกับพลอยแบบนี้ พลอยจะโดนคนอื่นมองอย่างไรคะ แล้วอีกอย่างเราต่างคนต่างยังไม่ได้เรียนรู้กันเลย เราไม่รู้หรอกว่าชีวิตคู่เราจะไปกันรอดหรือเปล่า เพราะพี่ใหญ่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนพลอยตามไม่ทัน วันก่อนตีมึนใส่พลอย เมื่อวานก็โมโหใส่พลอย วันนี้อยู่ๆ มาบอกว่ารักพลอย พลอยก็คิดมากอยู่นะคะ ชีวิตพลอยทั้งชีวิต” พลอยไพลินบอกเขา
สัตยานึกตำหนิตัวเองที่ใจร้อน เพราะเธอตกเป็นของเขาแล้ว นึกว่าพลอยไพลินจะยอมง่ายๆ เหมือนอย่างนางเอกในละครที่พอตกเป็นของอีกฝ่ายแล้วทุกอย่างจะง่ายไปหมดทุกอย่าง แต่เธอกลับมีความนึกคิดที่ดูลึกซึ้งกว่าที่เขาคิด
“อืม พี่เข้าใจแล้ว” สัตยาบอกแล้วปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ แล้วมีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลกับคำพูดของพลอยไพลิน
**********************
ทั้งคู่กลับไปถึงบ้านก็ทำเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ต่างตรงที่ว่าสัตยานั้นเอาแต่คิดเรื่องของพลอยไพลิน และดูจะเอาอกเอาใจเธอมากขึ้น และพลอยไพลินเองก็ยอมรับน้ำใจจากเขา ไม่ได้ปฏิเสธที่เขาทำดีกับเธอ
ขณะรับประทานอาหารเย็นสัตยาก็ตักอาหารเอาใจเธอออกนอกหน้าอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนแม่บ้านนั้นอดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ที่ดูเหมือนทั้งสองจะมีใจให้แก่กันเพราะพลอยไพลินก็เป็นคนดีคนหนึ่ง
“พี่ใหญ่ตักอาหารให้พลอยมากไปแล้วนะคะ พลอยอิ่มแล้วค่ะ” พลอยไพลินบอกเขาแล้วยิ้มให้เขาที่กำลังฝืนยิ้มมาให้เธออย่างเป็นกังวล
“วันนี้ทั้งวันพี่ใหญ่ดูยิ้มฝืนๆ นะคะ มีอะไรในใจหรือเปล่า หรืออึดอัดหรือเปล่าที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำแบบนี้” พลอยไพลินถามเขาอย่างเป็นห่วง เธอไม่อยากให้เขาต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
“เปล่า พี่แค่คิดมากนิดหน่อย” สัตยาบอก เขากังวลว่าพลอยไพลินถึงจะบอกว่ารักเขา แต่ว่าการที่เธอยังไม่ยอมเชื่อมั่นในตัวเขาและยังไม่ยอมแต่งงานด้วย ช่องว่างนี้อาจทำให้เธอมีคนอื่นมาแทนที่เขาได้
พลอยไพลินไม่ได้ถามอะไรต่อเธอพอรู้ว่าเขาคิดมากเรื่องที่เธอไม่รับปากแต่งงานกับเขา เพราะมันเร็วเกินไปจริงๆ ที่จะทำอย่างนั้น
หลังจากอาหารเย็นทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับที่ห้องนอน สัตยาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กำลังจะเข้านอนด้วยความว้าวุ่นใจที่เอาแต่คิดเรื่องพลอยไพลิน ยิ่งรู้ว่าเธอรักเขามันก็ยิ่งทำให้เขากังวลหนักกว่าเดิม
สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น สัตยาเดินไปเปิดประตูห้องนอนของเขาแล้วพบว่าเป็นพลอยไพลินที่ยืนอยู่ตรงนั้น เธอก้าวเข้ามาในห้องของเขาแล้วเดินไปที่เตียงนอนแล้วขึ้นไปนอนห่มผ้าหลับตาพริ้มกลบเกลื่อนความเขินอาย
“พลอยทำอะไร” สัตยาถาม
“ก็จะนอนไงคะ” เธอบอกเขา
“เดี๋ยวนะพี่ไม่เข้าใจ” สัตยาบอกแล้วรีบปิดห้องปีนขึ้นเตียงมานอนข้างๆ เธอ
“ก็ยังไม่แต่งงานในตอนนี้ แต่อยู่เรียนรู้กันแบบนี้ไปก่อนไงคะ พี่ใหญ่ไม่เข้าใจตรงไหน” พลอยไพลินบอกแล้วอมยิ้มใต้ผ้าห่ม
สัตยาดีใจแทบจะตัวลอย เขาขยับเข้าไปดึงเธอมากอดไว้แล้วพยายามจะจูบเธอ
“นอนค่ะ พรุ่งนี้พลอยต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า” พลอยไพลินบอกเขาเป็นนัยว่าคืนนี้เธอยังไม่พร้อมสำหรับการเข้าหอ ทั้งที่ก็เขินไม่น้อยที่ต้องเป็นฝ่ายมาหาเขาถึงที่หองอย่างนี้ และสัตยาก็ไม่อยากขัด แค่เธอยอมมานอนให้เขากอดอย่างนี้ก็ดีใจจะแย่แล้ว
“นอนได้แล้วค่ะ พลอยง่วงแล้ว” พลอยไพลินบอกแล้วขยับไปซุกที่อกของเขาเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายอีกครั้ง
“ขอบใจนะพลอย พี่ดีใจที่สุดเลย” สัตยาบอกแล้วจุมพิตที่หน้าผากเธอด้วยความตื่นเต้น
“ถ้าพี่ใหญ่ยังชวนคุย พลอยจะกลับไปนอนห้องแล้วนะคะ” เธอแกล้งขู่เขาทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า
“ครับที่รัก พี่ยอมทุกอย่างแล้ว” สัตยาบอกแล้วปิดปากเงียบ อมยิ้มเบาๆ แล้วหลับตาลงโดยมีพลอยไพลินในอ้อมแขนของเขา ต่อจากนี้ไปเขาจะยอมลดทิฐิและความใจร้อนลง เพื่อให้ผู้หญิงในอ้อมแขนนี้มีความสุขอย่างที่เขารับปากเอาไว้ ละทิ้งความอคติที่เคยมีต่อเธอแล้วใช้หัวใจมองเธออย่างที่ควรทำตั้งแต่แรก
พลอยไพลินอมยิ้มหลับตานอนหลับภายใต้อ้อมแขนนั้นอย่างมีความสุข เธอไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายร้ายกาจอย่างเขาจะมีมุมที่อ่อนโยนกับเธอได้อย่างนี้ เธอได้แต่หวังว่าเขาจะรักและดูแลเธอเหมือนที่สัญญาไว้ และหวังว่าจะได้รับความอบอุ่นและอ่อนโยนจากเขาอย่างนี้ตลอดไป
-------- จบ --------