เสียงสะอื้นที่พยายามเก็บงำไว้ให้ได้มากที่สุด ต้นข้าวหอบสังขารที่ขาดวิ่นกลับมาถึงบ้านพักของตัวเอง เธอเก็บตัวอยู่ในห้องนอนโดยอ้างกับมารดาว่าไม่สบาย และพิไลซึ่งกำลังวุ่นวายกับการขายกับข้าวช่วงเย็นจึงไม่ใคร่จะใส่ใจ จวบจนนางเก็บร้านเสร็จ ความสงสัยเพิ่มพูนขึ้นในหัวใจนาง ต้นข้าวไม่ใช่คนขี้เกียจ ทุกครั้งหลังเลิกงาน หญิงสาวมักจะคอยช่วยจนกว่านางจะขายหมด วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ต้นข้าวรีบเข้าบ้าน นางสังเกตเห็นความหมองเศร้า แต่คิดว่าบุตรสาวป่วย เลยพยายามไม่คิดมาก ไฟในบ้านมืดมิด เหมือนไม่มีคนอยู่ สาวใหญ่เปิดไฟ กวาดตามองหาบุตรสาว เมื่อไม่เห็นในคลองจักษุ จึงสาวเท้าเดินเร็วๆ เข้าไปด้านใน วางตะกร้าใส่ของที่กระเทินไว้ข้างเอว ลงบนพื้น แล้วจึงเดินไปเคาะประตูห้องบุตรสาว “ข้าวเอ๋ยๆ เป็นไรมากไหมลูก?” เสียงเคาะประตูทำลายภวังค์ ต้นข้าวรีบปาดน้ำตาบนใบหน้า สูดลมหายใจลึกๆ แล้วจึงรีบตอบ “แค่ปวดหัวน่ะแม่ แต่นอนเพ