CHAPTER 6

1756 Words
CHAPTER 6 แค่เสียงออกมาให้ได้ยิน ฉันก็รู้ว่าความคิดเขาเป็นยังไง ถึงไม่ได้เห็นหน้าก็พอรู้ดี “…” [ถ้าดีจะลองพิจารณา] “…” [โอเค?] “โอเคค่ะ อีกสองวันหนึ่งจะไปทะเลด้วย เราไปแช่น้ำที่หาดด้วยกันนะคะ” แช่น้ำที่ไม่ใช่แช่น้ำอย่างเดียว ฉันรู้ว่าเขาชอบแช่น้ำแบบนี้มากแค่ไหน อยู่มานานทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าไหม? […] “ไปไม่ได้ใช่มั้ยคะ งั้น...” [ยังไม่ได้ตอบ] “อ่า” เพราะว่าฉันรู้ดีในหลายครั้งหากถามไปแล้วได้คำตอบหรือว่าสายตาที่บ่งบอกว่าไม่ได้มันจะรับรู้เองได้เลยอัตโนมัติต่างจากวันนี้ที่อีกฝ่ายปฏิเสธ ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งก้าวก่ายกับงานอีกฝ่ายที่ดูหนักหนามากมายเหลือเกิน ไม่รู้ว่าการแบกรับอะไรที่ในสายตาคนอื่นมันสบายแต่ความจริงต่างกันอย่างสิ้นเชิง [หายแล้วใช่มั้ย] “ค่ะ” อีกฝ่ายหมายถึงประจำเดือนฉันเอง [งั้นแช่นานหน่อยนะ น้ำเยอะ] สองวันต่อมา ร่างกายเปล่าเปลือยสีขาวอมชมพูในจากุชี่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยกระแสน้ำอุ่นอย่างพอเหมาะไหลเวียนรอบตัวพอให้ช่วยผ่อนคลายความล้าสะสมลงไปบ้าง ฟองสีขาวนวลนุ่มถูกตีขึ้นฟูยิ่งกว่าขนมหวานโรยท็อปปิ้งด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดจากฝรั่งเศสโอบล้อมร่ายกายเอาไว้อีกชั้นตามมาด้วยกลิ่นเทียนหอมชั้นดีราคาเจ็ดหลักต่อหนึ่งชิ้น ข้างซ้ายในมือมีไวน์แก้วโปรดขึ้นชื่อของเมืองหนึ่งในชิลีรวมไปถึงรอบอ่างสีขาวที่สามารถเห็นวิวทะเลรอบแบบสามร้อยหกสิบองศา บรรยากาศตอนใกล้พระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ท้องฟ้ากลายเป็นสีพาสเทลไล่ขั้นไปตามที่ธรรมชาติสรรสร้างกำหนดให้มันเป็นและคงความสวยงามยิ่งกว่าสิ่งอื่นๆ การมาครั้งนี้และทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือว่าต่างประเทศฉันก็ยังได้รับการดูแลดีเหมือนเช่นเคย ไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักครั้งเดียว มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วแหละ ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีมาก ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่หลายคนฝันถึง หรือจะเถียงว่าไม่ใช่? หากจะเถียงก็คิดก่อนสักนิดเดียวก็ได้ว่าความหรูหรา ความโดดเด่น ความร่ำรวยและความ Luxury ที่พึ่งได้เอ่ยออกไปใครมันจะไม่ฝันถึงกัน ใครก็อยากเอาตัวเองมาถึงจุดนี้ทั้งนั้นแหละสักครั้งในชีวิตมันก็ยังดี ส่วนน้อยในปัจจุบันที่ยังบอกว่าทนต่อสิ่งยั่วยวนได้ถึงจะลำบากมากแค่ไหนก็ทนได้แต่นั่นเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้นเอง ความสบายใครบ้างไม่เลือกมัน ความเป็นอยู่ที่ดีใครบ้างจะปฏิเสธมัน ไม่มีหรอกยิ่งกับประเทศที่ร่ำรวยเป็นกระจุกและความจนกระจายไปทั่วแบบนี้อย่างน้อยๆ ชีวิตที่เกิดมาบางคนก็ต้องดิ้นรนเสาะหาความเห็นแก่ตัวมาไว้ที่ตัวเองอยู่แล้ว ในเมื่อมีทางเลือกมากกว่าคนอื่นๆ ในเมื่อทุกอย่างมาเกยตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว การปฏิเสธใช่ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนัก ในเมื่อบนโลกนี้มีปัจจัยคือเงิน ฉันวางแก้วไวน์ในมือหลังจากดื่มด่ำกับรสชาติของมันไปแล้วนิดหน่อย เปลี่ยนเป็นคว้าโทรศัพท์มาในมือเคลื่อนนิ้วผ่านไปมาเพื่อหาดูอะไรเพลินๆ ข้ามเวลายามแช่สายน้ำอุ่นกระทั่งเข้ามาหยุดในไอจีตัวเอง ยอดคนติดตามหลักล้าน ยอดติดตามกลับมีแค่ 0 หึ... นี่คือฉันเอง อาณาบริเวณในโลกออนไลน์ที่เอาไว้ลงรูปภาพกิจกรรมต่างๆ มากมายไม่เว้นแม้แต่งานของตัวเองซึ่งมีแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น นานๆ ครั้งถึงจะเห็นที การลงรูปภาพส่วนใหญ่ก็มียอดไลค์พอสมควร ทุกคนที่เข้ามาล้วนแล้วบอกว่ารวยอะไรขนาดนั้น สวยรวยมาก อวดความรวยและมันก็มีมากกว่านี้ พอเลื่อนมาดูรูปที่ลงล่าสุดไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยอดถูกใจมันก็ใช้ได้ คอมเม้นก็ไม่น้อยหน้าเลยด้วยซ้ำ มันก็คือชีวิตที่ฉันอยากให้คนอื่นๆ ได้รับรู้แต่ไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิต มีแค่ 10 % เท่านั้นแหละหากนับเต็มร้อย แน่ละใครจะเอาทั้งชีวิตมาไว้บนโชเชียลให้โง่กัน ถูกใจ 58399 คน ENO.N positions ❤ รูปที่พึ่งลงไปคือ ฉันมัดผมขึ้นสูงแบบยุ่งๆ หน่อย ก็คือมัดแบบไม่ได้ตั้งใจมัดนั่นแหละแต่ดูสวยเฉย ก่อนหันโชว์แผ่นหลังขาวเข้ากล้องอยู่ในอ่างขนาดใหญ่โอบล้อมไปด้วยฟองสีขาวแซมบางจุดด้วยกลีบดอกกุหลาบแดงให้มีความโดดเด่นออกมา มีองค์ประกอบรอบอ่างด้วยของแบรนด์ราคาแพงลิบลับ ก็แค่นั้นเอง ไม่คิดว่าจะเรียกความอิจฉาคนได้ขนาดนี้ ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกบนโลกนี้มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดอยู่ไม่ว่าใครก็ตาม ข้อนี้ฉันรู้ดีมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการด้วยซ้ำไป หลายคอมเม้นมันแรงจนคนอื่นอาจคิดว่าฉันได้เห็นหรือเปล่า ฉันอ่านแล้วจะรับได้ไหม ฉันร้องไห้ไปกี่ครั้งกัน ความรู้สึกมันก็ไม่ได้ดีเสมอไปแต่ก็ไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกให้ลดลงถึงติดลบหรอก ฉันมีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้ ~ครืด~ครืด~ การเสพอ่านคอมเม้นถึงคราวยุติลงเมื่อแชตของผู้จัดการคนสวยดีดเด้งมาให้ได้อ่าน ไม่ต้องรอช้าหรอกหากตอนที่ฉันได้จับโทรศัพท์พอดีก็จะตอบทันทีแต่ถ้าไม่ได้จับหรือว่าอยู่กับเขา ปุ้ยรู้ดีว่าควรทำยังไงหากเป็นเรื่องด่วน การทำงานกับฉันมีข้อที่ต้องทำแบบง่ายๆ แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอไม่สามารถละหลวมได้ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ทั้งสิ้น หากทุกอย่างพังแน่นอนอนาคตผู้จัดการของปุ้ยและนางแบบของฉันมันก็จะพังลงมาอย่างไม่หลงเหลือซากอะไรให้เก็บเกี่ยวขึ้นไปได้อีก ขึ้นอยู่กับเขา กับเขาแค่คนเดียว ปุ้ย CHAT ปุ้ย: ไม่ต้องอ่าน ปุ้ย: รกสมองเปล่าๆ ปุ้ย: เข้าใจนะ Read ปุ้ย: หนึ่ง? ENO.N: เพลินดีนะ ปุ้ย: ครั้งแรกที่แกตอบเร็วที่สุด ปุ้ยคงแปลกใจจริงๆ ที่เห็นฉันอ่านเร็วเป็นที่สุดนับตั้งแต่รู้จักและทำงานร่วมกันมา ทุกครั้งๆ ไม่มีหรอกที่จะรวดเร็วได้ขนาดนี้ ไม่วันกว่าก็สองวันเป็นอย่างต่ำ ENO.N: ว่างมาก กำลังหาอะไรเล่นอยู่ ปุ้ย: หมายความว่าไง? ENO.N: ไม่เกินสามวันหมายศาลไปจ่อถึงหน้าบ้านนักฉอดพวกนั้น ฝ่ายไอทีของเขาไม่ปล่อยให้พลาดหรอก ENO.N: อย่าห่วง ปุ้ย: ก็ดี เบื่ออยากนับเงิน ENO.N: รอนับ ที่พิมพ์ออกไปมันเป็นความจริงทั้งหมด ความเป็นส่วนตัวของฉันไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรมักขึ้นตรงกับเขาเท่านั้นมันก็เหมือนกับความอิสระกับทุกๆ เรื่อง ในเมื่อเขาอยากได้มันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดเดียวเพราะเพียงแค่เขาเอ่ยปากออกมาทุกคนก็พร้อมส่งทุกอย่างให้ได้เสมอ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ทุกคอมเม้นด่าทอไม่รอดสักราย หลายคนก็น่าจดจำกันไปแล้วกับบทเรียนที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งต่อหลายครั้งทว่ามันกับไม่หายจากนิสัยสันดานของคนบางคน คนใหม่มีปะปรายบ้างส่วนมากไม่กี่เดือนมานี้ฉันเห็นคนเก่าเยอะมากซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ใบหน้าตัวเองแสดงต่อสาธารณะด้วยซ้ำคอยเป็นเงาติดตามรวมถึงเอ่ยคำเสียหาย คิดเหรอว่าไม่มีคนรู้ คิดเห็นว่าจะถูกติดตามไม่ได้ บอกเลยว่าไม่มีทางรอดไปได้หรอก ไม่ว่าจะกับฉันหรือกับใครก็ตาม แกร็ก... โทรศัพท์ในมือถูกวางทิ้งละความสนใจลงเมื่อประตูมีเสียงลูกบิดเปิดกว้างขึ้นขนทำให้เห็นผู้มาใหม่ในชุดคลุมสีเทา ใบหน้าที่พระเจ้าตั้งใจปั้นสร้างขึ้นมานั้นดูเหนื่อยล้าจากเดิมเล็กน้อยเนื่องจากการโหมทำงานหนัก พอได้สบตากันเขาคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนที่จะหันกลับไปปิดประตูห้องก่อนเดิมมาถอดชุดคลุมออกจากร่างกาย ร่างกายอันกำยำที่ทุกครั้งฉันได้เห็นผ่านสายตาไปถึงไหนต่อไหนเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ เข้ามานั่งซ้อนตัวในอ่างเดียวกันกับฉัน เสี้ยวใบหน้าของคนด้านหลังก้มมาซุกจมูกลงขมับจากนั้นก็ถอยออกเล็กน้อยซึ่งก็อยู่ในระดับที่ใกล้อยู่ดี “ทำหน้าเครียดอะไร ไหนผ่อนคลายไม่ใช่?” “…” ฉันไม่ตอบคำถามเขาแต่เอนหลังลงไปพิงกับอกแกร่งจากนั้นก็เงยใบหน้าไปทางด้านหลังพอประมาณมันจึงนอนซบตรงซอกคอของอีกฝ่ายอย่างพอดี “อยากได้อะไร ไหนบอกมา” “ไม่มีค่ะ” ฉันเอ่ยปฏิเสธ “ขอได้รู้ใช่มั้ย?” เขายังเอ่ยพูดข้างหูด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา กลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอีกฝ่ายออกมาให้ฉันสูดดมอยู่เรื่อยๆ เป็นสิ่งที่ฉันชอบในเวลาที่อยู่ด้วยกันแบบนี้ ไม่นานอ้อมแขนแกร่งข้างหนึ่งก็เลื่อนเข้ามากอดรอบเอวของฉันส่วนแขนอีกข้างเขาวางไว้บนปากอ่าง “ไม่ขอหน่อยเหรอ?” สายตาฉันที่จับจ้องไปยังดวงไฟด้านบนนิ่งๆ ส่วนสมองก็พยายามคิดว่าจะขออีกฝ่ายเรื่องอะไรซึ่งมันยากเพราะทุกอย่างที่ฉันอยากได้มันกับมีครบไม่ได้ขาดเหลืออะไรทั้งนั้น หากจะขาด... ก็คงเป็น... “ได้ทั้งหมดเลยใช่มั้ยคะ” เพราะคิดออกแล้วกับเรื่องที่จะขอ ฉันจึงเคลื่อนไหวร่างกายจากเดิมที่เอนตัวพิงอกแกร่งเป็นค่อยๆ หันร่างกายเปล่าเปลือยของตัวเองไปเผชิญหน้าพร้อมสบนัยน์ตาคู่นั้นก่อนที่จะยกแขนทั้งสองข้างสอดคล้องกับลำคอหนา อีกฝ่ายยิ้มขึ้นตรงมุมปากเล็กน้อยฉันแอบเห็น “ให้พี่อยู่กับหนู” “แค่นี้เหรอ?” “อยู่ด้วย 3 วัน ไม่ทำงาน” “โอเคจะอยู่กับหนู สนแค่หนู มองแค่หนูและกินแค่หนูครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD