ท่ามกลางราตรีในคืนเดือนดับ ไร้แสงจันทร์สอดส่องนำทาง เสียงจิ้งรีดร้องบรรเลงเป็นเพลงธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนหลงใหล เด็กน้อยชายหญิงเดินจูงมือกันเข้ามาสร้างความสงสัยให้เด็กหญิงผิวขาวหน้าตาน่ารัก ครานั้นจึงเอ่ยปากครวญถามใร้สิ้นความอยากรู้
"พี่ภามพามาทำไม มันมืด" นภายามนี้ไร้ความเกรงกลัวครั้งพบกับสายตาที่แสนอบอุ่น เด็กชายเผยยิ้มสวยมองใบหน้าจิ้มลิ้มของคนน้อง
"พู่กันกลัวเหรอครับ" ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้งก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสถึงสิ่งอุ่นร้อนตรงหน้าผากตัวเอง
"พี่ภามจูบพู่กานทำไม" เด็กน้อยยกมือเช็ดหน้าผากตัวเองด้วยสีหน้าหงุดหงิด ทำให้รู้ว่าพู่กันไม่เหมือนพ่อเลยสักนิด พู่กันเหมือนแม่ มีนิสัยขี้หงุดหงิด ไม่ยอมคน
"พี่จองไว้ครับ"
รอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าหวานยามจดจ้องสร้อยสีเงินระยิบระยับ สร้อยที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น ความรู้สึกถึงการรอคอย เมื่อเธอนึกถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มอบสร้อยเส้นหนึ่งให้เธอ สร้อยเส้นนี้เป็นสัญญาระหว่างเธอกับเขาก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ครั้งวัยเด็กไม่อาจรู้ได้ว่าการมองของแทนใจนั้นส่อถึงอะไร ทว่า เมื่อเติบโตก็ได้รู้ว่าสร้อยเส้นนี้คืออีกครึ่งของชีวิต
ผ่านไปหลายปีแล้ว ที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของสร้อยเส้นนี้ เธอยอมรับว่าเธอแอบมีใจให้เขาตั้งแต่เด็กหรือที่เรียกว่าอาการคลั่งไคล้ยามคนเราได้รับการดูแลเอาใจใส่จากใครคนหนึ่งเป็นพิเศษ ฟังแล้วตลกชะมัดเป็นเด็กเป็นเล็กหัดมีความรัก มือบางวางสร้อยในกล่องที่เก็บรักษาเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัว วันนี้เจ้าของสร้อยเส้นนี้จะกลับมา เธอจะไปรับเขาที่สนามบิน วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดในโลก เวลาผ่านล่วงเลยการเฝ้ารอคอยมันสิ้นสุดแล้ว และสิ่งหนึ่งที่เธอเฝ้าอยากจะบอกเขาในวันนี้ ก็คือ ความรู้สึกที่เก็บไว้จากข้างใน
"พู่กันเสร็จแล้วตามแม่มาที่รถนะ" ร่างบางหันไปมองประตูเมื่อได้ยินเสียงหญิงวัยกลางคนที่เธอรักที่สุด หัวใจที่สั่นไหวเต้นจับจังหวะไม่ได้ ไม่รู้การเจอกันในครั้งนี้
"ค่ะแม่"
จะจำพู่กันได้หรือเปล่า
ผู้คนประปรายคล้ายหิงห้องที่ออกมาเชยชมราตรี สอดส่องแสงเล็กตามโพรงหญ้า เสียงเครื่องบินลงจอดเมื่อคราวถึงจุดหมายปลายทางหลังจากบินว่อนทั่วนภานานนับชั่วโมง พู่กันเดินมุมมือตนเองด้วยความตื่นเต้น ข้างในบ่งบอกถึงความรู้สึกอิ่มสุข หรือในทางจิตวิทยามักจะบอกว่าเป็นสุดยอดอารมณ์ทางบวกที่ทุกคนปรารถนา ให้เกิดในชีวิตของตัวเอง
"สวัสดีค่ะ" พู่กันยกมือไว้บิดาของคนที่เธอรอรับพร้อมกับกอดดอกไม้แน่น วันนี้แล้วสินะที่จะได้เจอพี่ภาม บุคคลที่เป็นรักแรก
"ไม่เจอตั้งนานสวยขึ้นเยอะเลยนะเรา แบบนี้ตาภามคงอึ้งไม่น้อย" รอยยิ้มเขินอายปรากฎขึ้นเมื่อถูกเชยชม เมื่อยามตื่นเต้น โฮร์โมนส์บางอย่างในร่างกายถูกกระตุ้นทำให้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ พู่กันจึงหันไปบอกผู้ใหญ่ก่อนจะวิ่งออกไป ทว่า เพราะวันนี้คนเยอะเป็นพิเศษจึงทำให้เดินลำบากเล็กน้อย สอดแทรกไปตามผู้คนด้วยความยากลำบาก
จนกระทั่ง..
"อ้ะ.." เพราะถูกชน ด้วยขนาดตัวเล็กอยู่แล้วจึงทำให้เซแต่นั้นโชคดีไม่ล้มเพราะมีใครคนหนึ่งรับไว้ทัน
"ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ" ผู้ชายใส่แว่นดำ หน้าตาคมคาย สูงประมาณ ๑๘๗ มีกระเป๋าเดินทาง เมื่อเขาได้ช่วยผู้หญิงเข้าก็ไม่ละทิ้งความเป็นสุภาพบุรุษเอ่ยถามถึงอาการบาดเจ็บ
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ"
ไม่รีรอพู่กันก็เข้าห้องน้ำทันที ทำธุระส่วนตัวไม่นานก็ออกเดินมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง ป่านนี้พี่ภามคงจะมาถึงแล้ว ถ้าเธอเห็นหน้าพี่ภามจะตื่นเต้นขนาดไหน หัวใจจะเต้นแรงมากหรือเปล่า
สองขาหยุดทันทีเมื่อเห็นแผ่นหลัังของร่างสูงที่เธอเฝ้ารอมาหลายสิบปี รอยยิ้มของความดีใจเผยขึ้นทันที สองมือหยิบดอกไม้ขึ้นเดินไปหาร่างสูงที่กำลังยืนพูดคุยกับผู้ใหญ่
"พี่ภาม" เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อเจ้าของชื่อค่อยๆหันมาจนมาสบตากัน เขาดูดี หล่อ คม รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลานั้นถ้าผู้หญิงคนไหนได้เห็นต้องหลงชอบเป็นแน่
"เธอ เป็นใครเหรอครับ" สิ้นเสียงทุ้มร่างบางที่ยิ้มอยู่ก็หุบยิ้มทันที
"เอ่อ น้องพู่กันไง โตจนจำไม่ได้เลยใช่ไหม" ร่างสูงพยักหน้าตอบรับ ไม่อาจคาดเดาได้ว่าการพยักหน้าคือคำตอบให้ชวนดีใจหรือเปล่า ภามมองหน้าพู่กันนิ่งงันก่อนจะจ้องมองดอกไม้ที่ร่างบางอุ้มอยู่
"ยินดีต้อนรับค่ะ"
มือหนาเอื้อมรับดอกไม้จากคนตัวเล็ก ก่อนจะหันไปคุยกับใครคนหนึ่ง เพราะร่างของเขาบดบังจึงทำให้มองไม่เห็น แต่ไม่นานก็ปรากฎคนผู้นั้นในปริศนาที่ยืนอยู่ข้างกายภาม เธอสวย สวยเหมือนเป็นดารา สวยจนไม่อาจละสายตา
"นาเดียร์นี่พ่อของภาม"
"สวัสดีค่ะ" นาเดียร์ยกมือไหว้ผู้ชายวัยกลางคนแต่คนตรงหน้ากลับส่งยิ้มเชิงทักทาย
"ส่วนนาเดียร์เป็นแฟนของภามครับ"
แต่เขากลับลืมคนที่รอคอยเขานานนับสิบปี
กระเป๋าที่พู่กันถืออยู่ร่วงหล่นทสู่พื้นเมื่อได้ฟังสถานะของเขาทั้งสองคน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันกลายมาเป็นแบบนี้ เขามีแฟนทั้งที่ให้เรารอ ใช่ มันเป็นแค่สัญญาแบบเด็กๆ ที่มีแค่พู่กันที่ซื่อสัตย์อยู่ฝ่ายเดียว จะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้เขากลับมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคนที่มีสถานะเป็นคนรัก
"เอ่อ พู่กันมีธุระด่วน ขอตัวก่อนนะคะ"
นี่สินะ ผลตอบแทนสำหรับคนซื่อสัตย์
อากาศที่ชวนเยือกเย็นบริสุทธิ์ สองขาเก้าขึ้นรถโดยสารมุ่งหน้าอย่างไร้จุดหมาย ดวงตากลมโตส่อแววเจ็บปวด
"ส่วนนาเดียร์เป็นแฟนของภามครับ"
ประโยคนั้นเล่นวนซ้ำในวังวน เหมือนรอคอยตอกย้ำความเจ็บปวดที่ถ่าโถมเข้ามาไม่มีเสื่อมคลาย โสตประสาทรับรู้ถึงเพลงที่ดั่งแว่วเข้ามามันยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นจนหัวใจรับไม่ไหว
" ลุงช่วยปิดเพลงได้ไหม เพลงอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็น ฮึก จะเพราะเลย" ยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มพลางมองออกนอกกระจกรถโดยสาร
"มีรักก็ต้องมีเจ็บ ไม่งั้นชีวิตจะมีสีสันได้ยังไง ใช่ไหม"
"ลุงจะไปเข้าใจอะไร"
"ลุงขับแทคซี่มาหลายปีแล้ว เห็นมานักต่อนัก บางคนถูกแฟนนอกใจ บางคนอกหักรักข้างเดียว แต่เวลาเท่านั้นจะช่วยเยียวยาแผลใจ" เวลางั้นเหรอ แล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหนละ หนึ่งปี สี่ปี หรือสิบปีเหมือนกับระยะเวลาที่รอเขา พู่กันยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ถ้าคนที่ลุงรอมาตลอดสิบปี เขากลับมาพร้อมกับใครอีกคนซึ่งเป็นคนสำคัญของเขา ลุงจะเสียใจไหม ลุงจะทำยังไงที่จะทำให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุด" ให้ตายสิ เป็นแพทย์จิตเวชแต่กลับมาปรึกษาเรื่องความรักกับลุงขับแท็คซี่เนี่ยนะ
"ลุงก็จะยินดีกับเขาทั้งสอง ถือว่าโชคชะตาเรากับเขาได้เป็นแค่คนรู้จักไม่ได้เป็นคนสำคัญ แล้วก็จะถอยออกห่างจากเขาทีละก้าว ทีละก้าว หรือไม่ก็พิสูจน์ความรักของเขาทั้งสองคนไปเลย"
พิสูจน์งั้นเหรอ
"แล้วนี่นั่งมาตั้งนาน จะไปไหนยังไม่บอกลุงเลย"
"ไปโรงพยาบาล YT ค่ะ"
ไม่นานรถก็จอดหน้าโรงพยาบาล พู่กันหยิบเงินออกมาจ่ายก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป แต่ต้องชะงักเมื่อลุงแทคซี่ลดกระจกรถลงตะโกนเรียก พร้อมกับยื่นสร้อยหน้าตาแปลกประลาดให้
"อุบัติเหตุ คำสาป วิธีแก้ ความรัก ฝากให้ลูกสาวลุงด้วยนะ"
สร้อยถูกวางไว้บนมือ พู่กันมองด้วยสีหน้าปนงง เงยหน้าขึ้นมองก็ไม่เห็นรถแทคซี่คันนั้นแล้ว เพราะไม่ได้สนใจอะไรมากจึงเก็บสร้อยเส้นนั้นเดินเข้าโรงพยาบาล ระหว่างเดินก็มีพยาบาลหลายคนทักทายซึ่งเธอก็ยิ้มทักทายเช่นกัน พู่กันกำลังจบแพทย์จิตเวชซึ่งตอนนี้ศึกษาอยู่ปีสุดท้าย ทำไมถึงเรียนแพทย์ด้านนี้ทั้งที่บ้านทำธุรกิจนะเหรอ เพราะเธออยากช่วยเหลือคน เธออยากเข้าไปในความคิดความรู้สึกของผู้ป่วย การที่ได้เห็นคนไข้กลับมามีสภาพจิตใจที่ดีมันทำให้เธอมีความสุข
"หน้าสงสารจัง ไม่หน้าจากไปไวขนาดนี้"
"ฉันได้ยินมาว่าลุงแกเป็นคนจิตใจดี มีศีลธรรม เฮ้อ ทำไมคนดีต้องตายเร็วขนาดนี้"
"ตอนนี้ลูกสาวลุงจะเป็นยังไงบ้าง อยู่กับพ่อสองคน แล้วอยู่ดีๆพ่อก็มาจากไปแบบนี้" เสียงพี่ๆพยาบาลพูดถึงใครสักคน ทำให้ดวงตากลมโตเงยหน้ามองไปที่ทีวี แต่ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นรถแท็คซี่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางที่มีแต่ป่าและข้างๆมีศพเจ้าของรถที่คลุมด้วยผ้าขาว
"ทะเบียนรถนี้" อุบัติเหตุ คำสาป วิธีแก้ ความรัก จู่ๆคำพูดของลุงคนนั้นก็พุดขึ้นมา พู่กันหยิบสร้อยหน้าตาหน้ากลัวขึ้นมาดู
ไม่รอช้าเธอรีบวิ่งออกไปทันที 'คงไม่ใช่ลุงคนที่ฝากสร้อยเส้นนี้กับเธอหรอกใช่ไหม ขออย่าทำให้คนดีต้องเจ็บปวดอีกเลย'