บทที่ 6 ซูเฟยคนใหม่

1283 Words
บทที่ 6 ซูเฟยคนใหม่ เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน สวีหลงเยียนจึงคิดแปรพระราชฐานออกไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนนอกเมืองหลวง เขาตั้งใจจะเดินทางด้วยเรือลำใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ล่องเรือไปตามแม่น้ำ ชมทิวทัศน์ต้นไม้รายทาง และยังได้ให้เหล่าราษฏร์ได้รอเข้าเฝ้าเชยชมพระบารมีอีกด้วย  พระราชวังฤดูร้อนอยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายร้อยลี้ ที่นั่นจะอยู่ติดกับทะเลสาป มีต้นไม้รายล้อมให้ความร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง เขาชื่นชอบธรรมชาติเป็นที่สุด มันช่วยทำให้เขาคลายความตึงเครียดจากการที่ต้องทนนั่งอ่านฏีฏาจากขุนนางพวกนั้นที่คอยกวนใจเขา  หลินกุ้ยเฟยเมื่อได้ยินว่าสวีหลงเยียนกำลังจะออกไปพักผ่อนที่นอกเมือง ก็รู้สึกดีใจไม่น้อย นางตระเตรียมสิ่งของและเสื้อผ้าที่งดงามเอาไว้หลายชุด นางสนมในวังหลวงมีไม่มากเท่าใดนัก เหล่านางสนมชั้นต่ำฝ่าบาทย่อมไม่มีทางให้ตามเสด็จไปด้วยเป็นแน่ คงจะมีเพียงนางเท่านั้นที่ได้ติดตามไปด้วย  ยิ่งคิดหลินกุ้ยเฟยก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ แต่เมื่อนึกถึงเฟิ่งฟางเซียนนางก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น  ได้ยินมาว่าฝ่าบาทเสด็จไปค้างแรมที่ตำหนักเย็นของนางสามคืนติดแล้ว หึ!!นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั้นคงยั่วยวนฝ่าบาทจนทนไม่ไหวเป็นแน่  ยิ่งคิดนางก็ยิ่งร้อนใจไม่น้อย  ด้านสวีหลงเยียนหลังจากประชุมราชสำนักยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตรงมาที่ตำหนักเย็นของเฟิ่งฟางเซียนทันรับ แล้วจึงสะบัดมือไล่หลิวหมัวหมัวและนางกำนัลขันทีออกไปให้ไกล  เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปประชิดร่างของเฟิ่งฟางเซียนที่กำลังยืนเช็ดเสาเตียงอย่างอารมณ์ดี  "โอะ!!" เฟิ่งฟางเซียนสะดุ้งตัวโยนเมื่อรู้สึกว่าถูกฝ่ามือหนาใหญ่โอบรัดรอบเอวของนางเอาไว้ เมื่อหันหน้าไปมองก็พบว่าเป็นสวีหลงเยียนฮ่องเต้บ้ากามที่รังแกนางสามวันติด  "ตกใจหรือสนมของข้า?" สวีหลงเยียนกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหูขาวนวลเนียนของนางด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนเฟิ่งหางเซียนรู้สึกขนลุกขนชันไปหมด  "ปล่อยเพคะ หม่อมฉันเช็ดเสาเตียงอยู่" "เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า!!" "แต่ อุ๊ย!!ฝ่าบาท!!" "อยู่นิ่งๆ!!" สวีหลงเยียนโอบรัดเอวของนางให้แน่นยิ่งขึ้น แล้วจึงบดเบียดแท่งเอ็นร้อนในร่มผ้าถูไถกับบั้นท้ายงอนงามของนางอย่างนึกสนุก เฟิ่งฟางเซียนลอบก่นด่าเขาในใจอย่างอดไม่ได้  หื่นที่สุด!!! "ข้ารู้ว่าเจ้าชอบ" "ไม่ชอบเพคะ" "หึ หน้าด้านหน้าทน เห็นๆกันอยู่ว่าเจ้าเช็ดเสาเตียงเพื่อยั่วยวนข้า" เฟิ่งฟางเซียนคร้านที่จะโต้เถียงกับเขาแล้ว นางผละออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง  "มาหาหม่อมฉันด้วยเหตุใดเพคะ?" "อีกสามวันข้าจะไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนนอกเมืองหลวง" "แล้วอย่างไรเพคะ?" "เจ้าต้องตามไปปรนเปรอรับใช้ข้าด้วย!!" "หม่อมฉันไม่อยากไปเพคะ" "ต้องไป!!" "แต่ว่า อุ้ย!!อย่าบีบเพคะ!!" สวีหลงเยียนใช้ฝ่ามือหนาใหญ่บีบเคล้นคลึงบั้นท้ายของเฟิ่งฟางเซียนอย่างเอาแต่ใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา ช่างหน้าไม่อายเกินทน!!! "อย่าคิดขัดใจข้า คราวก่อนเจ้าบีบพวงไข่ข้า ข้าก็จะบีบขยำบั้นท้ายเจ้าคืน เตรียมตัวให้ดี!!!อีกสามวันตามข้าไปนอกวัง" เจ้าคิดเจ้าแค้นเอาแต่ใจตนเองเสียจริง!!! เฟิ่งฟางเซียนไม่อาจปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ สามวันถัดมานางจึงเสด็จออกไปพักที่นอกวังกับสวีหลงเยียน  เฟิ่งฟางเซียนมองสำรวจภายในเรือลำใหญ่ด้วยความตื่นตะลึง มันช่างงดงามราวกับพระราชวังขนาดย่อม ตัวลำเรือก็แข็งแรงทนทานมิใช่น้อย นางเคยเขียนเอาไว้ในนิยายว่าเขาเป็นพระเอกที่ร่ำรวย เป็นฮ่องเต้ที่มั่งคั่ง แต่นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะใช้เงินมือเติบสร้างเรือลำใหญเช่นนี้  ผิดไปจากพลอตที่วางไว้อย่างน่าตกใจ!!! หลินกุ้ยเฟยจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาดูแคลน เป็นเพียงสนมขั้นผินแต่คิดใฝ่สูงยั่วยวนฝ่าบาทจนพระองค์ใจอ่อนยอมให้ติดตามมาด้วย น่ารังเกลียดยิ่งนัก!!! หลิวหมัวหมัวเอ่ยกระซิบกับเฟิ่งฟางเซียนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นางจึงหันไปมองหลินกุ้ยเฟย แล้วจึงย่อกายคำนับนางอย่างสง่างาม  "ถวายพระพรหลินกุ้ยเหยเพคะ" หลินกุ้ยเฟยส่งเสียงเฮอะในลำคอด้วยความไม่พอใจ คำพูดดูถูกพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากสวยของนางแทบจะทันที  "เป็นเพียงนางสนมที่ถูกขับไล่ให้ไปอยู่ตำหนักเย็น แต่ยังเสนอหน้าตามมารับใช้ฝ่าบาทได้ถึงบนเรือนี่ เจ้าก็ช่างหน้าด้านหน้าทนไม่น้อย" เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่น ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยสิ่งใดออกมา ก็เห็นสวีหลงเยียนกำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา ดวงตาคมกริบจ้องมองหลินกุ้ยเฟยอย่างไม่ลดละ "ข้าจะให้นางมาคอยรับใช้ เป็นคำสั่งของข้า เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาต่อว่านางกัน?" หลินกุ้ยเฟยใบหน้าซีดเผือด นางรีบหันไปย่อกายถวายพระพรสวีหลงเยียนด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน  "ขออภัยฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงเห็นว่าตามธรรมเนียมแล้ว นางสนมที่จะตามเสด็จฝ่าบาทออกนอกวังหลวง มีเพียงตำแหน่งเฟยทั้งสี่และฮองเฮาเท่านั้นเพคะ ไม่เคยมีนางสนมขั้นผิน..." "แล้วอย่างไร?" "เอ่อ.." "ราชเลขาจงฟัง!!!" ราชเลขาซึ่งก็คือขันทีเฒ่าผู้นั้นรีบเดินเข้ามาก้มหน้าคำนับอยู่ข้างกายของสวีหลงเยียนด้วยความรวดเร็ว  "พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" "ถ่ายทอดราชโองการ นับแต่นี้ไปให้แต่งตั้งเฟิ่งผินขึ้นเป็นซูเฟย นางจะได้รั้งตำแหน่งเฟยทั้งสี่ ติดตามข้าไปได้ทุกที่ จะได้ไม่มีผู้ใดกล้ามาครหานางอีก หากข้าได้ยินอีกครั้งไม่ว่ามันจะเป็นผู้ใด ข้าจะดึงลิ้นมันออกมาโยนทิ้งให้กากินเสีย!!!" "น้อมรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ" เฟิ่งฟางเซียนเบิกตาโตด้วยความตกใจ นี่เขาเลื่อนตำแหน่งให้นางเป็นถึงซูเฟยเชียวหรือ  แม้จะตกใจแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่เขามอบให้แก่นาง  หลินกุ้ยเฟยใบหน้าซีดเผือด นี่ฝ่าบาทหลงใหลสตรีต่ำช้านางนี้จนถึงกับมอบตำแหน่งซููเฟยให้นางเชียวหรือ น่าเจ็บใจยิ่งนัก!! "มานี่!!" สวีหลงเยียนเดินเข้าไปจับมือของเฟิ่งฟางเซียนให้ตามเขาไปที่หัวเรือทันที  ยามนี้เรือได้แล่นออกจากเมืองหลวงแล้ว มันล่องไปตามแม่น้ำสายยาว ที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนของราษฏรและต้นไม้ที่รายล้อมเขียวชะอุ่ม  เฟิ่งฟางเซียนสังเกตเห็นมีว่าวมังกรอยู่ในมือของสวีหลงเยียน เขาค่อยๆปล่อยมันให้ล่องลอยไปตามกระแสลมบนท้องฟ้า แล้วจึงบังคับรั้งสายของมันเอาไว้ไม่ให้ลอยไปตามทิศทางลมมากเกินไปนัก เขาชื่นชอบการละเล่นปล่อยว่าวที่สุด มันทำให้จิตใจของเขาสงบเป็นอย่างยิ่ง "ฝ่าบาทชอบปล่อยว่าวหรือเพคะ" "อืม ข้าชอบละเล่นปล่อยว่าวบนท้องฟ้า" อ้อ!!ฝ่าบาทชอบชักว่าว  ไม่สิ!!ละเล่นว่าวต่างหากนี่ข้าคิดสิ่งใดอยู่กันแน่!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD