ฉันพยายามดิ้นถึงรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่รอด ฉันมันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่ฉันจะไม่ยอมให้อะไรมันเลยเถิดไปมากกว่านี้แน่
ตัวของฉันถูกปล่อยให้เป็นอิสระจากคนตรงหน้า ฉันรีบถอยหลังหนีเขาไปให้ไกลทันที เขายกมือขึ้นมาเสยผมตัวเองท่าทางหงุดหงิดก่อนจะพูดขึ้น
“ยังไม่ใช่ตอนนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่เย็นชา น้ำเสียงของเขามันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าอุณหภูมิในห้องมันลดลง
ฉันได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อมองดูว่าเขาจะทำอะไรต่อ มองดูด้วยความไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวซ่อมเสร็จแล้วจะเอารถมาคืน” เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูออกไปจากห้อง
ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเขาออกไปแล้ว ฉันคิดว่าฉันคงต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นจริง ๆ แล้วแหละ
กริ่ง ~ เสียงโทรศัพท์ของฉันเข้า เป็นเบอร์ของเลย์ที่โทรเข้ามา นี่ไม่ใช่ว่าจะมาชวนฉันไปเที่ยวอีกนะ
( ถ้าจะชวนเที่ยววันนี้ฉันงด ) ฉันพูดดักเอาไว้ก่อนเมื่อกดรับสายแล้ว
( เปล่า จะชวนไปกินก๋วยเตี๋ยว ไปมั้ย ) ฉันแปลกใจเล็กน้อย ปกติเวลาพวกนี้โทรมามีแต่จะชวนไปเที่ยว รอบนี้ชวนกินก๋วยเตี๋ยวแปลกมั้ยล่ะ
( อื้อ ๆ ที่ไหนเดี๋ยวไป ) ฉันตอบตกลงเพราะยังไงกองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง และตอนนี้ฉันก็หิวมาก ๆ
หลังจากที่เลย์บอกสถานที่มาแล้ว ฉันเช็คความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก และก็เห็นรอยแดงที่มันเพิ่มขึ้นมาหนึ่งจุด ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ อีกครั้งก่อนจะเดินไปหยิบรองพื้นมาปิดรอยบ้านี้
ฉันขับรถมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เป็นร้านที่เลย์นัดฉันเอาไว้ ฉันเห็นพวกเลย์ เตชิน ลีโอ นั่งอยู่พอลงจากรถฉันก็รีบข้ามถนนเดินไปหาพวกมันทันที
“เฮ้!! เจ้าภาพมาแล้ว” เตชินพูดส่วนเลย์ก็ปรบมือรัว ๆ เมื่อฉันเดินไปถึงโต๊ะ ฉันนั่งลงข้าง ๆ กับลีโอเพราะมีที่ว่างข้าง ๆ เขาพอดี
“เจ้าภาพบ้านนายสิ เลย์นายเป็นคนชวนฉัน นายนั่นแหละต้องเลี้ยง”
“ไอ้ลีจ่ายให้ กลัวอะไรวะเจ้ ^_^”
“นี่ ลีโอใจดีขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ขอบคุณค่ะ^_^” ฉันหันไปฉีกหวานให้ลีโอ เขาก็พยักหน้าหงึก ๆ ตอบฉัน แล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์มาเล่น
“ไม่เที่ยวหรอเจ้คืนนี้ ?” เตชินถาม
“ขอพักเถอะ จะปิดเทอมแล้วนะ”
“อื้อ แล้วนี่ปิดเทอมจะกลับบ้านใช่มั้ย” เลย์ถามฉัน
“คงงั้นแหละ” ฉันพยักหน้าตอบ
“ไปเที่ยวกันก่อนเปล่า” เลย์ยกยิ้มมุมปากแล้วก็ยักคิ้วให้ฉัน
“เที่ยวไหนของนาย คงไม่พ้นคลับ ?”
“เปล่า ไปต่างจังหวัดสิเจ้ ภาคเหนือป้ะ ?”
“อื้อ น่าสน” ฉันตอบกลับไปอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก บางทีการไปเที่ยวไปพักผ่อนมันคงจะทำให้ฉันไม่ต้องมาจมปักกับเรื่องแย่ ๆ ที่ผ่านเข้ามาในตอนนี้ก็ได้
“ไอ้ลี ไปเปล่าวะ ?”
“เออ ถ้ามึงไปกูก็ต้องไปถูกมะ ?”
“ใช่เพราะกูหรอวะ ฮ่า ๆ”
เลย์กับลีโอคุยกัน ไม่รู้สิฉันว่าช่วงนี้ลีโอมันแปลก ๆ อยู่นะ
หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ วันนี้ลีโอเป็นเจ้าภาพ จ่ายเงินเสร็จแล้ว ฉันกำลังจะข้ามถนนเดินกลับไปที่รถ ฉันว่าฉันมองดูรถแล้วนะว่ามันไม่มี แต่พอข้ามถนนกลับได้ยินเสียงบีบแตรมาแต่ไกลเลย มันเป็นเสียงแตรของรถบิกไบรท์คันใหญ่
แขนของฉันถูกลีโอดึงให้พ้นออกจากถนนจนตัวของฉันไปกระแทกกับแผงอกของเขาอย่างจัง
“เป็นอะไรมั้ย” ลีโอถามฉัน
“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”
ฉันมองกลับไปยังคนที่ขับรถบิกไบรท์ เป็นจังหวะเดียวกันกับเขาที่เปิดหมวกกันน๊อกขึ้นพอดี ถึงจะเห็นแค่ตาฉันก็จำเขาได้แม่นว่าเป็นใคร ‘กำปั้น’ นี่โลกมันกลมขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย
กำปั้นมองหน้าฉันก่อนจะตวัดสายตามองลีโออย่างเลือดเย็น
“ขะ ขอโทษค่ะ” ฉันเอ่ยขอโทษเขาก่อนจะดึงลีโอให้เดินออกไปไกล ๆ จากนั้นเสียงท่อของรถบิกไบรท์ที่บิดออกไปก็ดังสนั่น ฉันรับรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องขับเร็วมากแน่ ๆ
ฉันแกะมือของลีโอออกจากแขนของตัวเอง จากนั้นเตชินกับเลย์ก็เดินมาทางเราสองสอง
“มึงเคยมีเรื่องอะไรกับมันมั้ยวะไอ้ลี” เตชินเดินมาถาม
“ไม่เคย” ลีโอตอบ
“เอ้า! แล้วทำไมมันมองหน้ามึงเหมือนคนเคยมีเรื่องกันมาก่อนเลยวะ ?”
“คงเป็นฉันที่ไปขวางทางรถเขานั่นแหละ” ฉันพูด
“แต่มันมองไอ้ลีโอน่ากลัวฉิบหายเลยนะโว้ย แม่ง!! กูน่าจะจัดสักที” เลย์ทำหน้าหาเรื่องมากตอนนี้
“นี่! ฉันผิดนะนายจะไปหาเรื่องเขาทำไม”
คุยกันไปสักพักเรื่องนี้แหละ พวกเลย์มันก็ไม่ค่อยพอใจ ฉันก็ไม่รู้จะบอกยังไงแล้วเหมือนกัน เลยขอตัวกลับ
พอมาถึงคอนโดฉันก็ได้รับข้อความแชทจากลีโอที่ส่งมาถามฉันว่า
ลีโอ: ( รู้จักกับไอ้คนขับบิกไบรท์ด้วยหรอ ? ).
ฉัน: ( เปล่า ฉันไม่รู้จัก )
ฉันรีบตอบกลับไปทันที นี่ท่าทางฉันเหมือนคนที่รู้จักนายนั่นงั้นหรอ เอ่อ! ถึงจะรู้จัก ไม่สิ ไม่ได้อยากจะรู้จักหรอก แต่ฉันว่าฉันก็ไม่ได้มีท่าทางที่เหมือนจะรู้จักกับเขาเลยหนิ ทำไมลีโอมาถามแบบนี้กัน
กริ่ง ~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นหลังจากที่ตอบแชทของลีโอ เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ฉันเลยเลือกที่จะไม่รับสาย แต่พอสายตัดไป เบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีก แต่ฉันก็ไม่รับนะ และก็จะไม่รับด้วย พอดีนิสัยฉันเป็นคนที่ไม่ชอบรับสายเบอร์แปลก ๆ น่ะ
ฉันวางโทรศัพท์เอาไว้แล้วก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ก่อนนอนฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์มาดู เบอร์แปลก ๆ นั่นโทรมาหาฉันแค่สองสาย ฉันไม่ได้สนใจอะไร เปิดตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ เพราะพรุ่งนี้มีเรียนสองโมงเช้า ต้องโทรไปปลุกพวกคุณชายทั้งหลายอีก ภาระจริง ๆ ไอ้พวกนี้เนี่ย ไม่น่าหลวมตัวไปสนิทด้วยเลย
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนอนหลับไป แต่ฉันก็ต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้น เพราะได้ยินเสียงประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา ฉันรีบเปิดไฟตรงหัวเตียงเพื่อให้ห้องมันสว่าง
“กะ กำปั้น....” ฉันผวาเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมาเบา ๆ นี่ฉันจะไม่ปลอดภัยจากผู้ชายคนนี้เลยใช่มั้ย
“ออกไป ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจมาลากตัวนายออกไป !!” ฉันประกาศเสียงแข็งแล้วก็จะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ แต่แล้วคนตรงหน้าก็พุงตัวมาแย่งโทรศัพท์ไปคามือของฉัน
ฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นบุหรี่จาง ๆ กับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่มันรอยมาแตะจมูก แน่นอนว่าท่าทางของเขาตอนนี้มันเหมือนกับคนเมาไม่มีผิด
“เพื่อนหรือผัว ?” เขาถามฉัน แถมยังจ้องฉันตาเขม่ง
จู่ ๆ ก็มาถาม อะไรคือคำว่าเพื่อนหรือผัวของเขา ฉันไม่เข้าใจ เขาไม่ตอบอะไรเอาแต่จ้องหน้าฉัน จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อตัวเองออกโยนทิ้งลงพื้นก่อนจะปลดเข็มขัดออกแล้วเดินตรงมาหาฉันที่อยู่บนเตียง
“นายเป็นบ้าหรือไง !! นะ นี่ ยะ อย่าเข้ามานะ ยะ อย่าทำอะไรบ้า ๆ อีกนะ”