ตอนที่ 1 คิรากร

1267 Words
ตอนที่ 1 คิรากร "ฮ.พร้อมแล้วครับนาย" คิรากร หันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดหนุ่มเป็นอันรับรู้ ร่างหนาหน้าตาหล่อเหลายืนขึ้นเต็มความสูง ชายหนุ่มรวบเอกสารทั้งหมดส่งให้บอดี้การ์ดที่พ่วงตำแหน่งเลขาคู่ใจอีกด้วยศกลวัฒน์รับมาถือไว้และก้มหัวก่อนจะขยับไปยืนด้านข้างของเจ้านายอย่างรู้หน้าที่ตนเอง "ไปครั้งนี้ก็จัดการให้เรียบร้อยนะกร ป๊าต้องได้ที่ดินผืนนั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม"คณินสั่งลูกชายคนโตที่เป็นทายาทอันหนึ่งของสุนทรกรุ๊ปเสียงเข้มและเด็ดขาด "ผมจะไม่ทำให้ป๊าผิดหวัง" สีหน้าที่เรียบเฉยแต่ทว่าแววตากลับเด็ดเดี่ยว เป็นอันรู้กันว่างานนี้จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน "แต่ถ้าเฮียทำไม่ได้บุตรพร้อมที่จะไปเจรจาแทนเฮียนะ"บุรินทร์ ลูกชายคนที่สอง และเป็นทายาทอันดับสองของสุนทรกรุ๊ปบอกพี่ชายตนเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าคิรารเพียงแค่ปรายตาไปมองเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมายกับน้องชายคนนี้ น้องชายที่คอยลอบกัดเวลาเขาเผลออยู่ตลอดเวลา บุรินทร์เหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโตเท่าไรนักในสายตาคนเป็นพี่ "ไม่ใช่หน้าที่แกเจ้าบุตร งานที่ป๊าให้ไปทำเสร็จหรือยัง ถึงได้มาเอ้อระเหยอยู่ตรงนี้" เจ้าสัวคณินเอ่ยกับบุตรชายคนที่สองด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าทว่าเด็ดขาดถึงแม้จะไม่พอใจแต่บุรินทร์ก็ไม่สามารถแสดงออกได้ คำพูดของเจ้าสัวคณินมีใครบ้างกล้าเถียง "เอาเถอะค่ะ คุณพี่ก็อย่าดุตาบุตรนักเลย ตากรจะไปสักกี่วันลูก" ศิราณีภรรยาหลวงของคณิน มารดาของคิรากรเอ่ยห้ามสามีตนเองอย่างอ่อนใจ เจ้าสัวคณินให้ความเกรงใจภรรยาคนนี้มาก เพราะทั้งคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขศิราณีก็อยู่เคียงข้างสามีเธอเสมอ "ยังไม่แน่ใจเลยครับแม่ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็วันสองวัน" ศิราณีลุกขึ้นไปหยิบเสื้อสูทสีดำมาสวมให้ลูกชายตนเอง คิรากรเองก็กางมือออกให้มารดาสวมให้อย่างเต็มใจ "ระวังตัวด้วยนะลูก ตาวัฒน์ดูแลตากรดี ๆ นะ" "วัฒน์ไม่ได้ไปด้วยหรอกครับแม่ กรให้วัฒน์ไปดูงานที่ภาคใต้พวกเห็บหมามันเริ่มก่อกวนน่ะครับ" คิรากรปรายตาไปทางน้องชายต่างมารดาเขม็ง บุรินทร์ที่เห็นว่าคณินก็มองมาที่ตนตามสายตาของพี่ชายก็เริ่มหน้าเสีย บ่อนกาสิโนที่ภาคใต้อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านเริ่มมีปัญหานักเลงโตเข้ามาก่อกวนไม่หยุด ถึงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ทว่าก็สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เสี่ยงโชคทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอันมาก ที่สำคัญสร้างความรำคาญให้กับคิรากรอีกด้วย "บุตรไปทำงานก่อนนะป๊า ไปก่อนนะครับแม่ใหญ่" พูดจบก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบเพราะไม่แน่ใจว่าบิดาเขาจะสงสัยตามสายตาคิรากรหรือไม่ การหลบออกไปจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด "แล้วกรไปกับใครลูก ให้แม่ไปเป็นเพื่อนไหม" เพียงแค่รู้ว่าเลขาคู่ใจลูกชายไม่ไปด้วยศิราณีก็อดจะเป็นห่วงลูกชายตนเองไม่ได้ ต่อให้โตสักแค่ไหน แต่สำหรับคนเป็นแม่ลูกก็ยังคงเป็นเด็กเสมอ "ไม่ต้องหรอกครับ แม่อยู่ดูแลป๊าเถอะกรไปกับสุพจน์น่ะ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไปก่อนนะครับป๊า ไปก่อนนะแม่" เมื่อร่ำลากับมารดาเป็นที่เรียบร้อย คิรากรกับศกลวัฒน์ก็เดินออกไปที่ดาดฟ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ลำหรูติดเครื่องไว้รอคนเป็นเจ้านาย ศกลวัฒน์ส่งแฟ้มเอกสารให้สุพจน์และขยับออกมายืนรอส่งเจ้านายตนเอง "เก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าให้มันมาสร้างปัญหาได้อีก" ร่างหนาหันไปสั่งลูกน้องตนเองอีกครั้ง ศกลวัฒน์พยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนจะทันได้ก้าวขาขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ เสียงยียวนกวนอารมณ์ของน้องชายต่างมารดาก็ดังขึ้นเสียก่อน "โชคดีนะเฮีย ไปแล้วอย่าไปลับ แต่กลับมาอาจไม่ครบนะเฮีย หึ!" คิรากรสูดลมหายใจเข้าอย่างข่มอารมณ์ไม่ให้หันไปฟาดปากน้องชายตนเอง ร่างหนาหันมามองหน้าน้องชายที่ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับตนเองถึงหกส่วนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้จะรำคาญกับความปากหมาของอีกฝ่ายเท่าไรก็ตาม คงจะมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะลงมือทำร้ายคนอื่น แต่กับมาเตือนให้เจ้าตัวรับรู้ บุรินทร์ไม่ใช่คนน่ากลัว แต่บุรินทร์เป็นคนน่ารำคาญ "เก็บปากมึงเอาไว้เถอะไอ้บุตร อย่ามาเห่ามาหอนแถวนี้" คิรากรเอ่ยเสียงนิ่ง ทั้งสองยืนจ้องหน้ากันเงียบ ๆ คิรากรคร้านจะสนเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอีก ชายหนุ่มล้วงมือไปหยิบแว่นตากันแดดสีดำมาสวมก่อนจะหันไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์อย่างไม่สนใจน้องชายตนเองอีก บุรินทร์มองท่าทางหยิ่งยโสของพี่ชายต่างมารดาด้วยความไม่ชอบใจเท่าไรนัก เฮลิคอปเตอร์ลำหรูทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เพียงไม่กี่วินาทีก็บินออกห่างจากคฤหาสน์หรูไปไกล ศกลวัฒน์เห็นเจ้านายตนเองออกไปแล้วเขาก็เตรียมจะเดินออกไปยังห้องทำงานเจ้านายเพื่อหยิบเอกสารและไปจัดการงานที่ภาคใต้ตามที่ได้รับมอบหมาย ทว่าพอหันมาเลขาหนุ่มก็เจอกับสายตาของบุรินทร์ที่มองตามเฮลิคอปเตอร์เจ้านายตนเองออกไป ทายาทสายรองแสยะยิ้มขึ้นมอง และเมื่อบุรินทร์หันกลับมาก็เจอศกลวัฒน์ยืนมองตนเองอยู่ ชายหนุ่มหงุดหงิดกับพี่ชายตนเองกำลังจะหาที่ระบายอยู่พอดี พอมาเห็นหายตาของศกลลวัฒน์เขาไม่รอช้าที่จะระบายอารมณ์ใส่อีกฝ่าย "มองเหี้ยอะไรไอ้ขี้ข้า" บุรินทร์แสยะยิ้มและกวาดตามองสุนัขรับใช้พี่ชายตนเองอย่างเหยียดหยาม ศกลวัฒน์ไม่ตอบอะไร เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึงบุตรชายของเจ้าสัวคณิน หากจะทำอะไรลงไปโดยไม่มีคำสั่งก็คงจะดูไม่ดีนักชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินหนีออกไปโดยไม่ตอบโต้อะไร "หยิ่งเหมือนเจ้านายมึงเลยไอ้ฉิบหาย กูจะคอยดูว่าหมาที่ไม่มีเจ้าของมันจะเห่าได้ดังแค่ไหน ไอ้หมาวัฒน์" "ผมไม่สนว่าคุณบุตรจะพล่ามอะไร แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณกร จำผมไว้ให้ดี ไอ้หมาวัฒน์ตัวนี้จะเป็นคนแล่เนื้อถลกหนังและเอาเลือดของคุณบุตรมาล้างตีนคุณกรให้ดู" ศกลวัฒน์ชะงักเท้าและหันกลับมาพูดกับน้องชายเจ้านายด้วยใบหน้าเรียบเฉย หากแต่แววตาเท่านั้นที่ดุดัน คนปากดีแต่ขี้ขลาดอย่างบุรินทร์ไม่กล้าเถียงอะไรออกไป เพราะตอนนี้ชายหนุ่มไม่มีบอดี้การ์ดข้างกายเหมือนทุกวัน เขาจึงเดินกระแทกไหล่ศกลวัฒน์ออกไปอย่างฉุนเฉียว เขาไม่น่าสั่งให้บอดี้การ์ดรออยู่ด้านล่างเลย เห็นทีต่อไปนี้จะต้องหนีบบอดี้การ์ดเอาไว้ข้างกายตลอดเวลาเสียแล้ว หากมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นจะได้ช่วยเขาได้ทัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD