Chapter.8 หมอดุ

1417 Words
"ทำไมเดินแบบนั้น" "ไม่ค่อยชินค่ะ หมอซื้อกางเกงในอะไรมาเนี่ย พรุ่งนี้หนูจะไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านหมอไม่ต้องไปส่งหนูก็ได้เดี๋ยวหนูไปเอง " กางเกงในบ้าอะไรก็ไม่รู้จั๊กจี้ตูดชะมัดฉันไม่ชินกับการใส่แบบนี้ คนรวยใส่กางเกงในแบบนี้กันเหรอขอจนแบบเดิมดีกว่าสบายตูดดี "มั่นใจว่าไปได้ หายเจ็บแผลแล้วเหรอ จะลงไปข้างล่างยังไงเดี๋ยวก็เป็นลมตายคาลิฟต์หรอก " เออจริง แล้วจะลงไปยังไง ให้หมอพาไปคงไม่ได้ไป หมองานเยอะจะตาย หนึ่งวันมีเวลาว่างถึงสิบนาทีหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้หมอขอแลกเวรกับหมออีกท่านเพื่อพาฉันมาส่งคอนโด เย็นจะกลับไปรับเวรต่อ ชีวิตหมอมีแต่งานกับงานเห็นแล้วปวดหัวแทน "นั่นสิ ลืมไปเลย" "พรุ่งนี้จะพาไปซื้อใหม่ ไม่ต้องไปหรอกยังไม่ค่อยหายดี " ซื้อใหม่ หมอพูดง่ายดี จากที่ได้สัมผัสเนื้อผ้าของกางเกงในแล้ว พู่ไหมขอวิเคราะห์ว่ามันนุ่มละมุนผิวมาก ไม่บีบรัดจนเกินไป แต่อุปสรรคของก็คือจั๊กจี้ตูดนี่แหละ ส่วนชั้นในใส่สบายไม่รัดไม่หลวมจนเกินไป เข้ากับกางเกงในที่ซื้อมา คงเป็นเซทเดียวกันราคาน่าจะแพงเหมือนกัน ขนาดโคมไฟในห้องยังหลักหมื่น เสื้อในกางเกงในถ้าหมอบอกหลักแสนนี่ถึงกับรีบถอดออกเลยนะ ไม่กล้าใช้กลัวขาด อย่างแพงสุดที่เคยใส่ ตัวละเก้าสิบเก้าเท่านั้นแหละ โครงหลุดแล้วหลุดอีก กางเกงในก็ตัวละสิบบาทยางตายขว้างทิ้งแล้วซื้อใหม่ "หมอไม่ทำงานหรือคะ หนูไม่อยากรบกวน แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้วค่ะ ให้หนูไปเอาของเก่าที่บ้านมาใส่ดีกว่านะคะ " "แล้วแต่ตามใจ เย็นๆ แล้วกันรอหมอเลิกงานก่อน มากินข้าวจะได้กินยา" "อ้าว แล้วไหนปลาทอดล่ะคะ ไม่เห็นมีเลย " สอดส่ายสายตาหาปลาทอดตัวที่หมอลงทุนแต่งยูนิฟอร์มป้องกันพิเศษ แต่ก็ไม่เห็นมีแต่อาหารหน้าตาน่ากินเต็มไปหมด เมื่อกี้หมอทอดปลาแล้วกับข้าวพวกนี้มาได้ยังไง "ทิ้งไปแล้ว " "ทิ้งทำไมคะ เสียดาย นึกถึงคนที่เขาไม่มีกินสิคะ หมอเอาไปทิ้งไว้ไหนคะ" "ในถังขยะ มันกินไม่ได้แล้ว" ปลาตัวเบ้อเริ่มคนรวยเนี่ยนะไม่รู้จักคุณค่าของอาหารเลย ถ้าเป็นที่บ้านฉันกินได้ตั้งหลายมื้อ ฉันเดินมาเปิดถังขยะถึงกับผงะที่เห็นสภาพปลา หมดแล้วซึ่งสีสันของความน่ากิน มองไม่ออกเลยว่าเป็นปลาชนิดไหนพิสูจน์ซากไม่ได้จริงๆ "โห นี่มันถ่านชัดๆ " "ยังจะกินอยู่ไหม ยังเสียดายอยู่อีกหรือเปล่า มะเร็งทั้งนั้น" จบกัน ฉันปิดฝาถังขยะลงเงียบๆ แล้วเลิกล้มความเสียดายลง นึกขำทอดยังไงให้ได้แบบนี้ หมอเก่งเนอะ ฉันเดินกลับมานั่งที่เดิม กับข้าวน่ากินทั้งนั้น เท่าที่สังเกตดูไม่มีของเผ็ดเลยสักจาน เพราะท้องไส้ของฉันยังรับของแบบนั้นไม่ไหว ก็เลยต้องกินแบบนี้ไปก่อน "หมอไปทำงานกี่โมงคะ" "กินก่อน เวลากินไม่ใช่เวลาคุย " ยังไม่ชินอีกหรือไงพู่ไหม ทุกครั้งที่โดนหมอดุฉันจะก้มหน้าหนีตลอด เข้าใจแต่นี่ไม่ใช่เวลางานสักหน่อย แค่ตอบมาก็จบ "ห้าโมงเย็นเข้าเวร กลับพรุ่งนี้สี่โมงเย็น" "........" ฉันไม่พูดอะไรออกไปเดี๋ยวโดนดุอีก ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียวอิ่มแล้วจะได้ไปทำอย่างอื่น ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องอยู่ใกล้หมอ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่อยากถามอะไรแล้ว ไม่เข้าใจทำไมต้องเคร่งปฏิบัติขนาดนั้น ........................................ สงสัยจะโกรธรีบกินข้าวไม่พูดไม่จา กินเสร็จยังรีบเดินหนีเข้าไปในห้องอีก ผมยังไม่ชินกับการอยู่ร่วมกับคนอื่น ที่ผ่านมาผมอยู่คนเดียวตลอด ไม่สิอยู่กับงานอยู่กับคนไข้อยู่กับเวลาที่เร่งรีบ พอมีเธอเข้ามาอยู่ด้วยก็เลยยังไม่ชินที่จะมีเสียงเล็กๆ มาคอยถามนู่นถามนี่อยู่ตลอด ไม่ใช่รำคาญ แค่อยากฝึกให้มีระเบียบวินัยมีแบบแผนในการใช้ชีวิต เธอต้องโต มีอีกหลายอย่างรออยู่ข้างหน้า คงยังไม่ชินเหมือนที่ผมไม่ชิน ต้องค่อยๆ ปรับไปทีละเล็กทีละน้อย ก๊อก ก๊อก "พู่ไหม " "......" ไม่มีสัญญาณตอบรับ ผมใช้แขนเท้ากับผนังข้างประตูเอาไว้ จากนั้นก็เคาะประตูเรียกคนที่อยู่ในห้อง หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็นั่งอ่านหนังสือนิดหน่อย ไม่มีวี่แววว่าเธอจะออกจากห้อง จนถึงเวลาไปเข้าเวร ผมสั่งอาหารขึ้นมาให้เธอเพราะยังไงยัยนี่ก็ลงไปข้างล่างไม่ได้อยู่ดีถ้าไม่มีผมลงไปด้วย "พู่ไหม หมอจะไปเข้าเวรแล้วนะ" "อุ๊ย หมอ ตกใจหมดเลยค่ะ" เธอเปิดประตูออกมาพอดี ความสูงของเธอเท่ากับระดับหน้าอกของผม ต้องก้มหน้าลงไปมองคนตัวเล็กที่กำลังมองมาแล้วทำหน้าเขิน จังหวะที่พุ่งออกมาหน้าของเธอชนเข้ากับแผงอกของผมเต็มๆ "ทำไมไม่ระวัง " "ขอโทษค่ะ หมอจะไปทำงานแล้วหรือคะ" "อืม ข้าวเย็นอยู่ในครัว กินเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาหลังอาหารด้วยเพราะแผลยังไม่หายดี แล้วนี่ทำอะไรอยู่" "ดูทีวีค่ะ" เธอก้มหน้าตอบไม่กล้าสบตาเพราะกลัวโดนดุ "เงยหน้าสิ ก้มหน้าทำไมเวลาคุยกับผู้ใหญ่ต้องมองหน้าสิ" บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าอำนาจ เพราะอาชีพที่ทำสอนให้ผมมีระเบียบ ต้องรู้จักวางแผนให้รอบคอบ บางครั้งก็ต้องรู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเอง แค่อยากให้เธอซึมซับเข้าไปบ้าง "หมอจะมาบอกแค่นี้ใช่ไหม หนูขอตัวก่อนนะคะ " "เป็นอะไร แค่บอกให้เงยหน้า" "ไม่เอา จะเข้าห้องแล้ว ไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวสาย " "พู่ไหม" เสียงเรียกชื่อทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม ดวงตาแดงก่ำมีหยดน้ำตาไหลรินอาบแก้มใสสองข้าง "ร้องทำไม ยังไม่ได้ทำอะไรเลย " ผมใช้นิ้วปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ "เมื่อไหร่หมอจะเลิกดุสักที ค่อยๆ พูดไม่ได้เหรอ บางเรื่องบางอย่างหนูก็ไม่รู้ " "หยุดร้องก่อนเดี๋ยวหายใจไม่ออก" ผมดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดเพราะไม่อยากให้เธอร้องไห้ อยากให้หยุดแค่นี้ ต่อไปจะเบาลง พู่ไหมไม่ทันคน อายุสิบแปดแล้ว ผมไม่อยากให้ทุกคนมองเธอแบบนั้น เพราะผมไม่ชอบ "หยุดไม่ได้ " สองมือเล็กกอดเอวผมแน่น พร้อมกับแรงสะอื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ "ต่อไปจะไม่ดุแล้ว ไม่ดุแล้วจริงๆ เลิกร้องได้หรือยัง" ผมดันร่างของเธอออก แล้วล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดออกมาจากกระเป๋าเสื้อเพื่อเช็ดน้ำตาให้เธอ "หมอพกผ้าเช็ดหน้าด้วยหรือคะ" "พกสิ เอาไว้เช็ดเลือดกำเดาเวลาเห็นสาวสวยๆ " รอยยิ้มเล็กเริ่มปรากฏขึ้นบนแก้มใสที่ชุ่มไปด้วยคราบน้ำตา แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดี ที่ทำให้เธอยิ้มได้ "เสื้อหมอเปื้อนหมดแล้ว " "เปื้อนน้ำตาใครล่ะ ดูสิเนี่ยมีขี้มูกติดมาด้วย" ผมไม่ได้สนใจตรงส่วนนั้น ช่างมันเปื้อนก็ซักออกได้ ผมสนใจแค่เธอหยุดร้องไห้ก็พอ "ไม่มีสักหน่อย " รอยยิ้มของเธอทำให้ผมมีความสุข เพราะแบบนี้ผมถึงไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอ " อ่ะๆ ไม่มีก็ไม่มี ถ้าอย่างนั้นหมอไปทำงานก่อนนะ พรุ่งนี้จะรีบกลับ " "ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ " "อย่าลืมที่สั่งไว้ แล้วหมอจะรีบกลับ มีอะไรโทรหาได้ตลอด โทรศัพท์อยู่ในห้องใช้เป็นนะ" "ใช้เป็นค่ะ หมอไปได้แล้วเดี๋ยวสาย" ก็ห่วงนี่หว่า .....................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD