2 อาทิตย์ต่อมา
ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วดีใจที่สุด ไม่ต้องโดนหมอข่มขู่โดนดุอีกต่อไป ใครบอกล่ะ หนักกว่าเดิม อย่าลืมว่าฉันเป็นเด็กในปกครองของหมอ แถมยังต้องย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่หมอจัดเตรียมไว้ให้อีก สูงชะมัดอยู่ตั้งชั้น10 แล้วฉันเป็นโรคกลัวความสูงด้วย กว่าจะก้าวขึ้นลิฟต์เล่นเอาขาสั่นผับๆ ถึงจะมองไม่เห็นข้างล่างก็จริง แค่รู้ว่าสูงก็กลัวแล้ว
"หมอจะถึงหรือยัง หนูกลัว" ฉันกำเสื้อหมอแน่นพลางหลับตาปี๋เพราะกลัว ตอนนี้เราสองคนกำลังขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักที่หมอบอกว่าเป็นบ้านหลังใหม่ของฉัน ทำไมต้องเลือกที่อยู่สูงๆ แบบนี้ให้ด้วย
"กลัวความสูงเหรอ"
"อือ กลัว" หมอโอบไหล่ของฉันไว้แน่น น้อยครั้งนักที่ฉันจะยอมขึ้นที่สูงแบบนี้ ถ้าเกิดกลัวขึ้นมาใครก็ช่วยไม่ได้ต้องรีบลงเท่านั้น แต่ทำไมรู้สึกดีเวลาที่หมอยื่นแขนมาโอบ
"เป็นไงดีขึ้นไหม" ยิ่งกว่าดีขึ้น รู้สึกว่าอาการกลัวความสูงหายไปโดยปริยาย เออ แปลกดี
"หมอรักษายังไงคะ ทำไมอาการดีขึ้น รู้ไหมว่าทุกครั้งที่หนูขึ้นที่สูงอาการจะกำเริบ เหงื่อท่วมตัว แขนขาหมดแรง หนูพยายามแล้ว พยายามไม่กลัวพยายามทำตัวให้ปกติ พยายามคิดว่าที่เรายืนอยู่มันคือพื้นดิน แต่ก็ทำไม่ได้ " เกลียดการขึ้นที่สูง เพราะถ้าเป็นขึ้นมาไม่มีใครช่วยฉันได้เลย มีอยู่ทางเดียวคือฉันต้องพาตัวเองออกจากตรงนั้นด้วยตัวเอง สายตาของทุกคนที่จับจ้องมาเหมือนกำลังมองตัวประหลาด ไม่ชอบเลยจริงๆ ดีที่ตอนนี้มีแค่ฉันกับหมออยู่ในลิฟต์
"แค่กอดแน่นๆ แค่นี้เอง " กอดแน่นจริงๆ ด้วย คิดซะว่าพ่อกอดก็แล้วกันอบอุ่นดี
" กอดช่วยได้ยังไงคะ"
"ความกลัวของคนเราอ่ะนะ อยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ว่ารักษาถูกวิธีหรือเปล่า " หมอพูดมีเหตุผล ที่ผ่านมาฉันคิดตลอดว่าตัวเรานี่แหละสามารถเอาชนะความกลัวของตัวเองได้ แต่เปล่าเลยทำให้อาการแย่มากกว่าเดิม
"แล้วหมอรู้ได้ยังไงว่าต้องรักษาแบบนี้"
"การกอดคือการทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างของกันและกัน เคยได้ยินไหมว่ากอดช่วยเยียวยาทุกสิ่ง แล้วก็ยังช่วยรักษาผู้ป่วยได้ด้วยนะ" ทฤษฎีแน่น ก็แหงล่ะ เธอกำลังคุยกับคุณหมออยู่ ความรู้แน่นซะไม่มี
"ถ้าอย่างนั้น ต่อไปนี้หมอต้องกอดหนูทุกครั้งเลยสิ เวลาขึ้นลิฟต์หมอก็ต้องมากอดหนู อาการหนูจะได้ไม่กำเริบ ใช่ไหม"
"แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งเธอต้องเดินขึ้นลงเป็นสิบเป็นร้อยรอบ หมอก็ต้องมากอดเธอทุกครั้งแบบนี้เนี่ยนะ"
"ใช่ค่ะ ไม่ดีหรือคะ หมอมีแต่ได้กับได้นะคะเนี่ย"
"ยัยเด็กแก่แดด ได้อะไร หมอมีงานต้องทำ เด็กๆ แบบเธอกอดไม่เต็มมือหรอกจะบอกให้" หืม ฉันหันมองหน้าหมอ ลืมสนิทเลย แฟนหมอจะว่าอะไรไหม หลายวันที่ผ่านมาหมอเอาแต่อยู่ดูแลฉัน
"รู้แล้วค่ะ ใครจะไปเต็มไม้เต็มมือเหมือนแฟนหมอล่ะคะ "
ติ๊ง
"ถึงแล้ว เดินไหวไหม"
"ไหวค่ะ ไม่รู้สิ เวลาอยู่ใกล้หมอหนูรู้สึกปลอดภัยนะ "
"ไปได้แล้ว "
......................................
"ว้าว หมอเหมือนในทีวีเลยอ่ะ จะให้หนูอยู่ที่นี่จริงๆ หรือคะ สวยจังเลยค่ะหมอ" ภาพตรงหน้าของผมคือเด็กผู้หญิงที่กำลังเดินสำรวจรอบๆ ห้องด้วยท่าทีตื่นเต้น สายตาดูแตกตื่นก็แหงล่ะ ผมให้ช่างตกแต่งห้องใหม่ทั้งหมด ทั้งห้องรับแขกห้องนอน ให้เหมาะกับเป็นห้องนอนผู้หญิงมากที่สุด แบบเก่าคือห้องโทนเรียบ ตามสไตล์ของผม แบบนั้นคงน่าเบื่อสำหรับคนป่วยแบบเธอ ไม่คิดว่าเธอจะชอบมากขนาดนี้
"เข้าไปดูในห้องนอนสิ "
"มีห้องนอนด้วยหรือคะ หมอหนูจะมีห้องนอนด้วยเหรอ" ทำไมต้องตื่นเต้นดีใจขนาดนั้นด้วย ทำเหมือนเพิ่งเคยมีห้องนอนกับเขาครั้งแรก
"มีสิ เปิดเข้าไปเลย" เหมือนกำลังพาอีหนูมาดูคอนโด อีหนูก็เล่นใหญ่ตื่นเต้นที่เห็นทุกห้องทุกมุม
"หมอ หมอรู้ได้ไง "
"ชอบสีห้องใช่ไหม "
"โคมไฟสวยมากเลยหมอ เนี่ยหนูอยากได้มานานแล้ว หนูเคยมีความคิดจะไปขโมยโคมไฟสวนสาธารณะมาติดที่บ้านด้วยนะ แพงไหมคะเนี่ย" กุมขมับ เซอร์ไพรท์ตลอดกับความบ๊องของยัยเด็กคนนี้
"ก็หลายหมื่นอยู่เหมือนกัน "
"โห แพงจัง แล้วนี่ประตูอะไรคะ "
"ประตูเชื่อมกับอีกห้องหนึ่ง " ห้องข้างๆ เป็นห้องของผมเอง คอนโดนี้มีสองห้องนอน พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง ซื้อไว้นานแล้ว ลืมบรรยากาศตอนอยู่ที่นี่ไปแล้วเพราะตั้งแต่เรียนจบก็ไม่ค่อยได้เข้ามาอีกเลย จนมาวันนี้ คงต้องกลับมาอยู่ เพราะมีเด็กต้องคอยดูแล
"ห้องใคร"
"ห้องหมอ "
"ทำไมต้องมีประตูเชื่อมติดกันด้วยล่ะคะ "
" อย่าถามมากได้ไหม"
"อยากรู้เฉยๆ ทำไมต้องทำเสียงดุด้วย" ถ้าไม่ดุ ปากก็ไม่ยอมเซ้าซี้สักที เด็กดื้องุดหน้าหนีเพราะกลัวจะโดนดุอีก
.......................
"โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย อะไรวะทำไมมันกระเด็นแบบนี้ " ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องเพราะได้ยินเสียงโวยวายจากในครัว กำลังจัดของเกือบเสร็จแล้วเชียว
"หมอ เป็นอะไรคะ "
"โอ๊ย อย่าเข้ามานะ น้ำมันกระเด็น ออกไปไกลๆ " ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตขนาดนี้ด้วย แค่ทอดปลาตัวเดียวเนี่ย หมดกันภาพลักษณ์คุณหมอสุดหล่อ จอมเนี๊ยบ จอมขู่ ตอนนี้กลายเป็นพ่อครัวไปแล้ว แถมอาวุธยังครบมือทั้งฝาหม้ออันใหญ่ที่เอาไว้คอยบัง กับหมวกกันน๊อคใบโตที่เอามาสวมใส่ คงกลัวน้ำมันกระเด็นใส่หน้าใสๆ
"หมอ หนูทอดให้ก็ได้ เดี๋ยวก็เป็นลมตายหรอก ใส่หมวกกันน๊อคหายใจออกเหรอ"
"ออกไปไกลๆ หมอทำเองได้ " สภาพอ่ะ ดูก็รู้ว่าไม่เคยทำมาก่อนแล้วยังพยายามให้ตัวเองลำบากอีก เป็นหมอนั่นแหละเหมาะที่สุดแล้ว
"หมอ ในตู้เสื้อผ้าชุดใครสวยๆ เยอะเลย "
"ของเธอนั่นแหละ "
"หมอซื้อให้หนูเหรอ แล้วไอ้กางเกงในลูกไม้ ที่ตรงตูดเอ๊ยตรงก้นมันมีสายเส้นเดียวอ่ะ มันใส่ไงอ่ะ" ไม่ได้อยากถามพอดีว่าฉันไม่มีชั้นในหรือแม้แต่เสื้อผ้าติดตัวมาเลย รูปร่างมันแปลกๆ ไม่เคยใส่อะไรแบบนี้
"ใส่ปกตินั่นแหละ ใส่เหมือนกางเกงในทั่วไป"
"มันไม่บาดตูดเหรอหมอ"
"ถ้ายังไม่หยุดถาม จะไปใส่ให้ จะได้เลิกสงสัยสักที" หมอหันหน้ามาพูดกับฉันพร้อมกับเปิดหน้ากากหมวกกันน๊อคออก เหงื่อไหลเป็นเม็ดๆ ปลาตัวนี้ต้องอร่อยมากแน่ๆ
"ไปเอาหมวกกันน๊อคมาจากไหน" หมวกกันน๊อคใบใหญ่ หมอไม่น่ามีของแบบนี้
"เสกมา หยุดถามแล้วไปอาบน้ำเตรียมตัวมากินข้าว"
" หมอ "
"ยังไม่หยุดถามอีก"
"จะบอกว่ามาดนี้ไม่เหมาะ กลับไปเป็นหมอเหมือนเดิมเหอะ" พอพูดจบก็รีบโกย เดี๋ยวจะโดนดุอีก
..................
"ยัยเด็กแสบ"
..................