Chapter.6 ไร้เดียงสา

1119 Words
12.00 "อ้าวคุณหมอ ทานข้าวหรือยังคะ" เปิดประตูเข้ามาก็เจอพยาบาลกำลังเช็กน้ำเกลือและวัดความดันให้เธออยู่ ส่วนคนบนเตียงก็หลับไม่รู้เรื่อง คงเพราะอ่อนเพลียจากการผ่าตัด "ยังเลยครับ ว่าจะแวะมาดูคนไข้สักหน่อย " "เพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ น้องคุยเก่งมากเลยนะคะ " ไม่ใช่แค่คุยเก่ง ยังช่างถามช่างเซาะไปเรื่อย บางครั้งก็ต้องปรามดุไปบ้าง พู่ไหมอยู่ในวัยเรียนรู้ กำลังเข้าสู่สังคมที่หลากหลาย มองแวบเดียวก็รู้ว่าเธอไม่ทันสังคมสมัยใหม่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบปิดกั้น พูดง่ายๆคือไม่ทันคน เป็นผู้หญิงซื่อ อยากรู้ก็ถามไม่ได้คิดอะไร แต่บางครั้งคำถามของเธอก็ทำให้หงุดหงิด "ความดันปกติไหม " "ทุกอย่างปกติค่ะ คุณหมอไปทานข้าวก่อนก็ได้นะคะ " "ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจะตรวจอาการคนไข้สักหน่อย" "ได้ค่ะ พักบ้างนะคะคุณหมอ" ที่จริงอาการของเธอไม่น่าห่วงแล้ว อีกไม่กี่วันก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ป่านนี้คอนโดคงสะอาดเรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่ ...................... 2วันต่อมา "หมอหนูเจ็บ" "ต้องพยายาม จับแขนหมอแล้วค่อยๆ ลุก" พยายามทำตามที่หมอบอก มือทั้งสองยึดแขนหมอไว้แน่นเพื่อใช้เป็นหลักพยุงร่างตัวเอง พยายามฝืนความเจ็บแปล๊บๆ ที่แผล เจ็บจนรู้สึกชาไปทั่วบริเวณ ไม่คิดเลยว่าจะทรมานขนาดนี้ ต้องหัดลุกเดินเพราะสายฉี่กับสายน้ำเกลือถูกถอดออกแล้ว เป้าหมายแรกคือเดินไปเข้าห้องน้ำ โดยมีคุณหมอช่วยพยุง "อ๋อย เจ็บจัง หมออุ้มไม่ได้หรือคะ เสื้อหมอยับหมดแล้วนะ กว่าจะเดินถึงห้องน้ำฉี่ก็ราดพอดี" ฉันอยู่ในท่าห้อยขาลงจากเตียง แค่ไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องน้ำ "ไม่ได้ ต้องเดินไปเอง ให้มันยับไป ให้อุ้มแล้วเมื่อไหร่จะหาย " "อย่าดุสิคะ " "อย่าทำหน้าแบบนี้อีก อายุเท่าไหร่แล้วเรา" รู้แล้วจะถามทำไม ประวัติคนไข้ก็มี "สิบห้าค่ะ " "สมองน่ะหรือสิบห้า อันนี้หมอเชื่อนะ" "หมอ" ฉันแผดเสียงใส่ไม่ดังเท่าไหร่ หลอกด่ากันนี่ ฉันน่ะสิบแปดย่างสิบเก้าแล้วย่ะ ใช่สิใครจะเก่งเหมือนหมอ ความคิดอเมซิ่งแบบนั้น ฉันก็แค่เด็กโรงเรียนวัดไม่เหมือนหมอจบอินเตอร์นานาชาติ ดีกรีนักเรียนนอกค่าเทอมหลักหมื่นหลักแสน "อะ พร้อมหรือยัง ค่อยๆ นะ ระวังล้ม" "ถ้าล้มละคะ" "หมอรอรับอยู่" แล้วทำไมต้องให้ระวังในเมื่อรอรับอยู่ "เอานะ 1 2 3 " "ฮึบ โอ๊ย" ฉันก้าวลงจากเตียงโดยมีหมอคอยประคองอยู่ข้างๆ รู้สึกขาไม่ค่อยมีแรงก็เลยทิ้งตัวไปที่หมอเต็มๆ ขอบตาร้อนผ่าวเพราะรู้สึกเจ็บแผล "พยายามสิพู่ไหม " "ขาไม่มีแรงอะหมอ " พยายามแล้วจริงๆ เจ็บจนชาลามยันขาทำให้ไม่มีแรง กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมกอดหมอ รู้สึกอุ่นแถมยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบเฉพาะคุณหมอด้วย "จะไปถึงห้องน้ำไหมวันนี้ " "หมออุ้มก่อนได้ไหม ตอนกลับหนูเดินเองก็ได้" ....................................... "หมอคะ ทำไมเป้าหมอตุงๆ แบบนั้นละคะ" เด็กบื้อ ถามแต่ละอย่าง ไม่ให้ตุงได้ยังไงก็เนื้อตัวนุ่มนิ่มของเธอเบียดเสียดผมอยู่ตลอด แล้วหน้าที่พาคนไข้หัดเดินก็ไม่ใช่หน้าที่ผม ต้องทำเพราะไม่มีใครทำได้นอกจากผม ผมเป็นหมอเจ้าของเคสและเจ้าของเธอ ก็เลยต้องทำ "ไม่รู้สิ อยู่ใกล้เด็กทีไรจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง" ไม่อยากเชื่อว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ ชักเริ่มห่วงซะแล้วสิ เข้ามหาวิทยาลัยแล้วยังเด๋อด๋าแบบนี้พวกผู้ชายเลวๆ คงชอบใจน่าดู แค่นึกถึงก็รู้สึกหวงขึ้นมาเสียดื้อๆ "เด็กทารกก็ตุงหรือคะ" "ตุงเฉพาะกับเด็กบางคน ไม่รู้จริงๆเหรอ " "รู้อะไรคะ ทำไมต้องรู้" หน้าซื่อตาใสไม่มีอะไรแอบแฝง จากนี้คงต้องสอนอีกเยอะ โลกสมัยนี้น่ากลัว ภายภาคหน้าต้องเจออะไรอีกเยอะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าหมออย่างผมอีกแล้ว "ช่างเถอะ ถ้ายังเดินไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับบ้าน อยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะเดินได้" "กลับบ้าน บ้านหนูใช่ไหมคะหมอ หนูจะได้กลับบ้านไปหาพ่อกับแม่แล้วใช่ไหมคะ" "บ้านของเรา หมอเตรียมบ้านไว้ให้แล้ว เธอต้องไปอยู่ที่นั่น เข้าใจไหม ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ ไม่ต้องห่วง ท่านบอกว่าให้เธอตั้งใจเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ถ้าไม่ตั้งใจท่านจะไม่กลับมาอีกเลย" จำเป็นต้องโกหกไว้ก่อน ดีแค่ไหนที่เธอเชื่อและยอมให้ผมเป็นคนดูแล นึกว่าต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานเป็นเดือน พู่ไหมเป็นเด็กน่าสงสาร พ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใครกัน เรื่องนี้ผมกำลังให้พี่จิ้งพี่จกตามสืบอยู่ คงต้องใช้เวลาเพราะเรื่องก็ผ่านมานานมาก เอกสารทุกอย่างต้องเริ่มต้นค้นใหม่ "หมอพูดจริงนะคะ ห้ามโกหกหนูนะ " "หมอเคยโกหกเหรอ " "ไม่เคยค่ะ " ผมจะรอให้เธอพร้อมและรอให้เธอโตกว่านี้ ถึงวันนั้นคนที่เธอเลือกคงเป็นผม "ใช่ ไม่เคย ต่อไปนี้ผู้ปกครองของเธอก็คือหมอ หมอบอกอะไรสอนอะไรก็ต้องฟังแล้วก็ต้องเชื่อ เข้าใจไหม " "เข้าใจค่ะ ต่อไปนี้หมอจะเป็นผู้ปกครองของหนู ดีใจจังหนูจะมีพ่อเป็นหมอแล้ว" นั่นแหละ ตามนั้น เด็กคนนี้พูดอะไรออกมาแต่ละอย่างผมถึงกับกุมขมับ "พ่อเลยเหรอ หล่อๆ แบบหมอนี่เป็นพ่อเลยเหรอ" "ผู้ปกครองก็ต้องเป็นพ่อสิคะ เป็นอะไรไม่ได้แล้วค่ะนอกจากพ่อ หรือว่าหมอจะเป็นแฟนหนู " "อยากให้เป็นไหมล่ะ" "มิอาจเอื้อมค่ะ เป็นแฟนหมอปวดหัวตายเลย ไม่ไหวค่ะ" ยัยเด็กแสบ คำพูดคำจาบางครั้งก็กวนไปนะ "เป็นแฟนหมอแล้วทำไม ไหนพูดมาสิ" "หมอกฎระเบียบเยอะ หมอชอบขู่ว่ามีเข็มฉีดยา หนูไม่ชอบค่ะสู้หาแฟนเป็นเด็กช่างดีกว่า เท่จะตาย " "ไม่มีวันถ้าหมอไม่อนุญาต" เอาสมองส่วนไหนคิด อยากมีแฟนเป็นเด็กช่าง อย่าคิดว่าจะมีวันนั้นเลยเด็กน้อย ยังไงก็หนีไม่พ้นมือหมอคนนี้หรอก ไม่รู้จักฤทธิ์หมอซะแล้ว .............................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD