“ข้าวเจ้ากูจูบมึงหน่อยได้ไหม” เถื่อนถามฉันขึ้นทันทีเมื่อตัวเองถืออุปกรณ์ทำแผลเดินมาหาฉัน
“ขอทำแผลก่อนได้ไหม” ฉันตอบกลับไปทันทีอยากจะทำแผลให้เขาก่อน
“ขอกูจูบก่อน” เถื่อนพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ทำแผลกะ..อื้มมมมม” ไม่ทันที่ฉันพูดจบ ริมฝีปากของฉันก็ถูกควบคุมโดยฝีมือของนายเถื่อนทันที
ลิ้นหนาของเถื่อนไล่ต้อนลิ้นเล็กของฉันเหมือนอย่างเคย แน่นอนว่าฉันสู้เขาไม่ได้เลยสักนิดก็เลยทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยให้เขาทำอะไรก็ได้กับริมฝีปากของฉัน
“อ่อนเหมือนเคย” ทันทีที่เถื่อนถอนจูบออกเขาก็พูดขึ้น
“ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญแบบนาย” ฉันตอบกลับไปทันทีถึงเขาก็เคยบอกว่าจูบกับฉันแค่คนเดียวแต่การที่จูบกระชากวิญญาณขนาดนี้มันน่าเชื่อหรอ
“เคยบอกไปแล้วทำไมไม่จำ” เถื่อนพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับทำหน้าสงสัยสุดๆ
“จำได้แต่ตอนนี้ช่วยอยู่นิ่งๆ ได้ไหมจะทำแผลให้” ฉันพูดอีกครั้งพร้อมทั้งหยิบอุปกรณ์ทำแผลบรรจงทำแผลเถื่อนอย่างเบามือ
“ทำแผลเสร็จแล้วขอไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องนะ” ฉันพูดอีกครั้งเพราะบอกแล้วไงว่าฉันจะเปิดใจ การที่ฉันจะนอนค้างกับเถื่อนคงไม่ใช่เรื่องที่ผิด
“ไม่ต้องเสื้อผ้ากูมี” พูดจบนายเถื่อนก็ลุกขึ้นตรงไปยังห้องนอนก่อนจะหยิบเสื้อผ้ามาให้ฉัน
“ไม่มีบราไงจะให้ใส่ตัวเดิมหรือไงของใช้ส่วนตัวก็ไม่มี” ฉันถามกลับไปทันที
“กูไม่ได้จะให้ใส่อยู่แล้วแต่ของใช้มีหมดของใหม่ทั้งนั้น” เถื่อนพูดขึ้นขณะเดินกลับมาในมือมีผ้าขนหนูผืนใหม่เสื้อบอลตัวใหญ่ๆ และกางเกงพร้อมกับแปรงสีฟัน
“ครบ” เถื่อนพูดอีกครั้งก่อนจะส่งของในมือให้ฉัน
“จะไม่ให้ข้าวกลับไปห้องจริงหรอเถื่อน” ฉันถามขึ้นอีกครั้งเพราะดูจากของในมือแล้วมันครบจริงๆ เหมือนที่เถื่อนพูดนั้นแหละ
“ให้แต่เป็นพรุ่งนี้ละกันตอนนี้ไปอาบน้ำได้แล้ว” นายเถื่อนพูดขึ้นต่อทันที
ฉันก็ไม่ตอบอะไรกลับไปเดินตรงเข้าห้องน้ำทันที ถามว่าฉันจะโนบราไหมบอกเลยว่าไม่เพราะฉันจะใส่ตัวเดิมนี่แหละ
หลังจากที่ฉันออกจากห้องน้ำเถื่อนก็อยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
“เถื่อนจะอาบน้ำมั้ย” ฉันถามขึ้นต่อทันที
“ค่อยมานี่มา” เถื่อนพูดจบก็ตบมือลงบนเตียงเบาๆ เป็นการบอกว่าให้มานอนตรงนี้ส่วนฉันก็ขึ้นไปบนเตียงอย่างไว
“ถามไรหน่อยดิเถื่อน” ฉันถามขึ้นทันทีเพื่อทำลายบรรยากาศความเงียบของเรา
“ว่า”
“ทำไมถึงต้องไปมีเรื่องบ่อยๆ” เพราะไปมีเรื่องก็มีแต่จะแต่จะเจ็บตัว
“กูไม่ได้เป็นคนเริ่ม” เถื่อนตอบกลับมาทันที
“ต่อไปไม่มีเรื่องแล้วได้ไหม” ฉันถามอีกครั้งทั้งๆ ที่ในใจก็รู้แหละว่าห้ามไม่ได้เถื่อนเป็นถึงหัวโจกเพื่อนฝูงต้องเยอะเป็นธรรมดา อีกอย่างวันนั้นเพื่อนโทรมาบอกคำเดียวก็รีบออกไปแล้ว
“มึงฟังกูนะข้าวต่อให้กูมีเรื่องกี่ครั้งกูก็จะไม่ปล่อยให้ตัวเองตายกูจะกลับมาให้มึงทำแผลให้ตลอด” เถื่อนตอบกลับมาทันทีพร้อมกับสอดแขนเข้ามาสวมกอดฉัน
“ข้าวไม่ได้อยากทำแผลให้เถื่อนตลอดนะข้าวไม่โอเคที่เจอเถื่อนกี่รอบก็ต้องมานั่งทำแผลให้เถื่อน” ใครมันชอบบ้างให้คนที่เราชอบคนที่เรารักไปมีเรื่อง ยิ่งเห็นเขาเจ็บเราก็รู้สึกเจ็บเหมือนกัน
“กูจะพยายามนะข้าวเลี่ยงได้กูก็จะเลี่ยงแต่ถ้ากูเลี่ยงไม่ได้ก็อีกเรื่อง” เถื่อนตอบกลับอีกครั้งพร้อมกับวางหน้าไว้บนไหล่ของฉัน ใบหน้าเขาเริ่มขยับไปมาซุกไซร้ไปตามลำคอของฉัน
“อื้อ” ฉันตอบรับแบบครางในคอเบาๆ
“ไม่ต้องคิดมากกูไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรแน่” เถื่อนพูดขึ้นต่อพร้อมกับกระชับอ้อมกอดฉันแน่น
“ใส่บราหรอ” เถื่อนถามขึ้นอีกครั้ง ฉันเดาว่าเถื่อนคงจะรู้ตอนที่กอดฉันนั้นแหละ
“ใส่สิ” เพราะถ้าไม่ใส่ตอนที่เขากอดฉันเมื่อกี้คงจะโดนหน้าอกของฉันไปไหนต่อไหนแล้ว
“ใส่ทำไมวะ” เถื่อนพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปปลดตะขอบราฉันออก
“ถอดบราข้าวทำไมอะเถื่อนใส่กลับเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันโวยวายพูดขึ้นก่อนจะหันหน้ามาถามเถื่อนด้วยอาการเคืองๆ
“ไม่ต้องใส่” พูดจบเถื่อนก็เลืื่อนมือเข้าไปในแขนเสื้อของฉันก่อนจะดึงสายบราออกมาตามแขนทั้งสองข้าง แล้วถอดบราออกไปทันที
“นี่” ฉันขึ้นเสียงใส่เถื่อนทันทีเพราะการกระทำอันแสนอุกอาจของเขา
“ใส่บรามันนอนไม่สบายไม่รู้หรอ”
❤️