ปีศาจจิ้งจอกตนนั้น... เป็นของข้า
เป็นของข้าครั้งที่ 7
ไป่ถิงถิงรู้สึกว่าช่วงหลังมานี้ตนค่อนข้างอารมณ์ร้อน จากที่เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกลายเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างดูขวางตาไปเสียหมด ดั่งเช่นวันนี้ที่ไป่ถิงถิงมานั่งเรียนกับเหวินเซียวแบบที่เคยทำมาหลายพันปี แต่กลับกลายเป็นว่าวันนี้ร่างบางรู้สึกรำคาญเสียงของเหวินเซียวที่กำลังอ่านบทเรียนในตำรา จนไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว
“อย่างที่ข้าอ่านให้ฟังเมื่อครู่ ถ้าหากเจ้าต้องจัดการปัญหานั้นด้วยตนเอง เจ้าจะทำอย่างไร”
ไป่ถิงถิงถอนหายใจ “ข้าก็คงจะส่งพวกตัวปัญหาไปอยู่ในนรก หรือไม่ก็ฆ่าเสียให้หมด”
เหวินเซียวขมวดคิ้ว “เหตุใดเจ้าจึงต้องทำเช่นนั้น”
“ก็พวกเขาน่ารำคาญ ไม่ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ก็ไม่พอใจ เห็นทีว่าพวกเขาคงอยู่ร่วมกันกับข้าไม่ได้แล้ว”
“ไป่ถิงถิง”
ไป่ถิงถิงมองเหวินเซียวตาขวาง “ก็ท่านถามข้าเองนะท่านอาจารย์”
“เจ้าใจร้อนเกินไปหรือไม่ อยากออกไปเดินเล่นหรือเปล่า”
“หากท่านให้ข้าเดินออกไปข้างนอกอีกครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะมานั่งให้ท่านสอนเช่นนี้อีก”
“ไป่ถิงถิง.. เจ้าอารมณ์ร้อนกว่าปกติรู้ตัวหรือไม่”
ไป่ถิงถิงทุบโต๊ะเสียงดัง “ท่านอาจารย์จะถามข้าทำไมนักหนา ข้าเบื่อ!!”
ร่างบางลุกเดินออกไปด้วยความโมโหทันที ส่วนทางด้านเหวินเซียวนั้นได้แต่มองตามไปอย่างเป็นกังวล ผ่านมาเจ็ดพันปีแล้วนับตั้งแต่ที่ไป่ถิงถิงออกมาจากถ้ำฝึกตนครั้งนั้น และช่วงหลังมานี้ร่างบางมีอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวน ดูขี้โมโหง่ายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เห็นทีข้าต้องรีบปรึกษาท่านประมุขเสียแล้ว”
ทางด้านไป่ถิงถิงที่เดินออกมานั้น ร่างบางเดินไปเตะพื้นหญ้าไปด้วยเพื่อระบายอารมณ์ที่มันกำลังขุ่นมัวอยู่ในใจไปด้วย “ทำไมช่วงนี้อะไรๆ ก็ดูขัดหูขัดตาข้าไปเสียหมด” ไป่ถิงถิงกำมือแน่น ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปด้านนอกตำหนักประมุขมาร
“ท่านประมุข เห็นทีว่าเราจะต้องเริ่มลงมือกันแล้ว” เหวินเซียวพูด
“ข้าคิดว่ามันจะเริ่มขึ้น ตอนที่ไป่ถิงถิงอายุครบสองหมื่นปีเสียอีก” ไป่เซียวเหอขมวดคิ้ว
“แล้วเราควรทำอย่างไรดีท่านอาจารย์” ไป่หานเล่อถามอย่างเป็นห่วง
“เห็นทีว่าเราคงต้องจับท่านไป่น้อยมาขังไว้ในถ้ำฝึกตน รอจนกว่าพลังทั้งหมดจะระเบิดออกมา”
ไป่เซียวเหอถอนหายใจ “แล้วเราจะไหวกันหรือ ท่านผู้เฒ่าบอกว่าต้องใช้พลังจากคู่สวรรค์ไม่ใช่หรือ ถึงจะสามารถหยุดถิงถิงได้”
“แล้วเทพตนนั้นหายหัวไปที่ใดเล่าท่านพ่อ นี่ก็หลายพันปีแล้ว ข้าไม่เห็นว่าเขาจะโผล่มาอีกเลย” ไป่หานเล่อถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เหวินเสียวส่ายหน้า “อย่างไรแล้วเราก็ต้องเอาท่านไป่น้อยมาขังเอาไว้ก่อนท่านประมุข ที่ถ้ำฝึกตนนั่นคงจะกักตัวท่านไป่น้อยเอาไว้ได้บ้าง รอจนกว่าท่านมหาเทพจะมา”
“เขาคือมหาเทพหรือ” ไป่หานเล่อถามทันที เนื่องจากเขาไม่รู้มาก่อน
“เอาล่ะๆ เรื่องราวทุกอย่างพ่อจะมาเล่าให้เจ้าฟังคราวหลัง แล้วนี่ถิงถิงอยู่ไหน เราต้องรีบไปพาเขากลับมา”
“ข้าคิดว่าท่านไป่น้อยน่าจะไปอยู่ที่สวนต้นท้อขอรับ ทุกครั้งเมื่อข้าปล่อยให้ท่านไป่น้อยออกมา เขามักจะไปที่นั่นอยู่เสมอ”
ไป่เซียวเหอพยักหน้า “ดี เช่นนั้นก็ดี”
ทั้งสามคนยังไม่ทันแบ่งหน้าที่กันดี สาวใช้ก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “ท่านประมุขเจ้าคะ ท่านประมุข!!”
“ว่าอย่างไร เหตุใดจึงวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น”
สาวใช้ยืนตัวสั่น “ท่านไป่น้อยเจ้าค่ะ ท่านไป่น้อยออกไปที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของแดนจิ้งจอก แล้ว..”
“แล้วอะไร!! มีอะไรเจ้าก็พูด!!” ไป่เซียวเหอตะคอก
“จู่ๆ ท่านไป่น้อยก็วิ่งไล่ทำร้ายปีศาจจิ้งจอกตนอื่นเจ้าค่ะ ตอนนี้ทุกตนต่างวิ่งหนีตาย เพราะไม่มีใครสู้ท่านไปน้อยได้เลย”
ไป่เซียวเหอตบที่เก้าอี้อย่างแรงก่อนจะเดินนำไป่หานเล่อ และเหวินเซียวออกไปที่ต้นไม่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมาถึงก็เห็นว่าเหล่าปีศาจจิ้งจอกทั้งหลายต่างวิ่งหนีออกมาด้วยความตกใจ เสียงอึกทึกครึกโครมที่ดังออกมาทำเอาไป่เซียวเหอต้องรีบวิ่งเข้าไป เนื่องจากเป็นห่วงในไป่ถิงถิง
ทั้งสามตนต่างยืนด้วยความตะลึงเมื่อเห็นว่าตอนนี้หางที่สามของไป่ถิงถิงจุติแล้ว แต่ว่าใบหน้าของไป่ถิงถิงนั้นดูเปลี่ยนไป จากที่เคยดูน่ารักน่าชังก็กลายเป็นใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัว ดวงตาสีแดงที่ผู้ใดพบเห็นก็ต้องเกิดความเอ็นดูก็กลายเป็นรู้สึกหวาดกลัวแทน
"ถิงถิง เจ้ากำลังทำอะไร” ไป่เซียวเหอถาม
ไป่ถิงถิงหันมามองบิดา ก่อนจะวางปีศาจจิ้งจอกที่ร่างบางกำลังบีบคออยู่ลง “ท่านพ่อ.. มาแล้วหรือ”
“ไป่ถิงถิง เจ้าต้องตั้งสติ อย่าให้พลังนั้นครอบงำเจ้า” เหวินเซียวพูดอย่างใจเย็น
ไป่ถิงถิงกัดฟันก่อนจะโบกมือกลางอากาศใส่เหวินเซียว “หุบปาก!!!” เหวินเซียวลอยตัวอยู่บนอากาศ ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นจนกระอักเลือด
“ท่านอาจารย์!!” ไป่หานเล่อวิ่งเข้าไปดูทันที
“ไป่ถิงถิง เจ้าใจเย็นๆ ก่อน ตั้งสติให้มั่น เจ้าฝึกกับข้าบ่อยแล้วไม่ใช่หรือ ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้” เหวินเซียวกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
“ข้ารอเวลานี้มาแสนนาน ท่านไม่รู้หรือ” ไป่ถิงถิงเอียงคอให้บิดา “ข้าเฝ้ารอวันที่ข้าจะมีพลัง เพื่อที่จะได้ตอบแทนปีศาจทุกตน” ไป่ถิงถิงกัดฟัน “ทุกตนที่ทำไม่ดีกับข้า”
“ถิงถิง ไม่มีผู้ใดทำไม่ดีกับเจ้า พ่อและปีศาจจิ้งจอกทุกตนรักและเอ็นดูเจ้ามาก เจ้าเชื่อพ่อเถิด”
“ท่านพ่อนั่นแหละที่เกลียดข้า ท่านพ่อเอาข้าไปขังไว้ในถ้ำนั่น ท่านรู้หรือไม่ว่าห้าพันปีที่ข้าอยู่ในนั้นข้าคิดถึงท่านแม่และพี่เล่อมากเพียงใด” ไป่ถิงถิงกัดฟันน้ำตาคลอ “ท่านไม่เคยรักข้าเลย ท่านไม่เคยรักข้าด้วยซ้ำ!!” ไป่ถิงถิงฟาดพลังออกมาอีกครั้ง
ไป่เซียวเหอที่โดนพลังของไป่ถิงถิงเล่นงานเข้า กระเด็นไปอีกด้าน พร้อมกระอักเลือดออกมาคำโต “ท่านพ่อ!!!” ไป่หานเล่อเข้าไปช่วยประคองบิดาก่อนจะหันไปหาไป่ถิงถิง “ถิงถิง! เจ้าตั้งสติได้หรือไม่ ท่านพ่อบาดเจ็บแล้ว”
ไป่ถิงถิงที่เหมือนจะได้สติวูบหนึ่ง ร่าบางมองไปที่พี่ชายและบิดาก่อนจะร้องไห้ออกมา “ฮึก.. ท่านพ่อ.. พี่เล่อ.. ท่านอาจารย์..” ไป่ถิงถิงที่อยู่ในอาการตกใจมองไปรอบๆ ก่อนจะก้มมองที่มือตนเอง “ข้าหรือ ข้าทำพวกท่านเจ็บหรือ”
“ถิงถิงลูกพ่อ เจ้าตั้งสติ อย่าให้พลังนั่นควบคุมเจ้า”
“ฮึก.. ข้าทำทุกคนบาดเจ็บ” ไป่ถิงถิงมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าเหล่าปีศาจตนอื่นกำลังวิ่งหนีอย่าไม่คิดชีวิต บ้างก็มองมาที่ไป่ถิงถิงด้วยสายตาหวาดกลัว “อึก.. ข้า.. ข้าฮึก.. ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
“ถิงถิง เจ้าตั้งสติเถิด พ่อจะช่วยเจ้าเอง อึ่ก..”
ไป่ถิงถิงเห็นว่าบิดาตนเองกระอักเลือดออกมาอีกคำก็มือไม้สั่น ร่างบางแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ ไป่ถิงถิงหอบหายใจแรงก่อนจะมองที่มือของตัวเองอีกครั้ง
“ข้าทำมัน.. ข้าทำมันลงไปได้อย่างไรกัน”
“ถิงถิง เจ้าฟังพ่อ ได้โปรดถิงถิง”
“อึก.. ข้ามันคนเลว คนไม่ดี” ไป่ถิงถิงก้มหน้า ยกมือขึ้นมาดึงทึ้งผมตนเอง “ข้าไม่ดี ข้ามันชั่ว”
“ถิงถิงได้โปรด..”
“....” ไป่ถิงถิงยืนนิ่ง
“ถิงถิง..”
“หึ หึ หึ หึ พวกโง่” ไป่ถิงถิงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไป “เจ้าคิดหรือว่าไป่ถิงถิงจะสามารถควบคุมข้าได้” ไป่ถิงถิงส่ายหน้า “ช่างโง่เขลากันนัก”
“ท่านประมุข ข้าว่าเราต้องรีบจัดการทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นท่านไป่น้อยอาจไม่ได้กลับมาอีกเลย”
“แล้วข้ากับท่านพ่อต้องทำอย่างไรเล่าท่านอาจารย์” ไป่หานเล่อขมวดคิ้ว
“ข้ามีเชือกวิเศษที่ได้มาจากท่านมหาเทพคราวก่อน คิดว่าน่าจะช่วยได้” เหวินเซียวหยิบเชือกเส้นใหญ่ออกมา
“เช่นนั้นเราก็ลงมือกันเถิด ก่อนที่จะไม่สามารถพาถิงถิงกลับมาได้อีกแล้ว”
ทั้งสามตนพยักหน้าให้กันก่อนจะลุกขึ้นไปยืนล้อมไป่ถิงถิง ร่างบางยิ้มร่าออกมาราวกับว่าเจอของที่ถูกใจ
“สงสัยข้าออมแรงไปหน่อย พวกท่านจึงยังมีแรงหลงเหลือกันอยู่”
“ถิงถิง พี่จะไม่ยอมให้เจ้าเป็นอะไรไปเด็ดขาด”
ไป่ถิงถิงเอียงคอ “ข้าก็เป็นตัวของข้าเองพี่เล่อ ข้ายังคงเป็นไป่ถิงถิงคนเดิม”
ไป่หานเล่อส่ายหน้า “ไม่ เจ้าไม่ใช่”
“เอ๋.. เหตุใดพี่เล่อถึงว่าเช่นนั้น”
“อย่าเสียเวลาดีกว่าท่านไป่หานเล่อ เราควรลงมือกันได้แล้ว” เหวินเซียวพูด
ไป่ถิงถิงหันไปหาเหวินเซียว “หือ.. ท่านยังคิดอีกหรือว่าท่านจะสามารถทำอะไรข้าได้”
“ข้าทำอะไรท่านไม่ได้ก็จริง แต่อย่างน้อยก็ต้องลองใช้เชือกเส้นนี้”
พูดจบเหวินเซียวก็โยนเชือกอีกด้านส่งไปให้ไป่เซียวเหอ ก่อนที่ทั้งคู่จะมัดตัวไป่ถิงถิงเอาไว้ ทางด้านไป่หานเล่อนั้นก็ใช้พลังควบคุมไม่ให้ไป่ถิงถิงดิ้นหนี
“พวกท่านทำอะไรข้า!!” ไป่ถิงถิงตะคอกเสียงดัง
“ไปอยู่ในถ้ำฝึกตนก่อนเถิด รอท่านมหาเทพมา เขาจะช่วยเจ้าได้” ไป่เซียวเหอพูดเสียงเบา
“ปล่อยข้า!!! ข้าบอกว่าให้ปล่อยข้า!!”
ไป่ถิงถิงพยายามใช้พลังดึงเชือกสวรรค์ออกแต่ก็ไม่สามารถสู้พลังได้ ร่างบางจึงเปลี่ยนวิธีเป็นเล่นงานบุรุษทั้งสามแทน ทั้งไป่เซียวเหอ ไป่หานเล่อ และเหวินเซียวต่างโดนพลังของไป่ถิงถิงจนกระอักเลือดออกมาครั้งใหญ่ แต่ก็ไม่มีผู้ใดยอมปล่อยเชือกเลย ทั้งสามตนช่วยกันพาไป่ถิงถิงไปขังไว้ในถ้ำฝึกตน ก่อนจะมารวมพลังช่วยกันร่ายมนต์ขังไป่ถิงถิงเอาไว้อีกชั้น
“แล้วน้องจะเป็นอะไรหรือไม่ท่านพ่อ”
ไป่เซียวเหอถอนหายใจ “พ่อเองก็ไม่รู้ แต่คิดว่าเชือกสวรรค์ที่เราผูกเอาไว้ กับม่านพลังนี้คงจะช่วยเอาไว้ได้ไม่นาน”
“แล้วท่านมหาเทพอะไรนั่นเขาจะมาเมื่อไหร่หรือ”
“พ่อเองก็ไม่รู้ แต่ท่านผู้เฒ่าบอกเอาไว้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องมา มาตามนิมิตของท่านผู้เฒ่าแน่นอน”
ปีศาจจิ้งจอกทั้งสามตนยืนอยู่หน้าถ้ำฝึกตนก่อนจะมองเข้าไปด้วยสายตาเป็นห่วง ทางด้านไป่ถิงถิงที่โดนมัดอยู่นั้นได้แต่พยายามใช้พลังทำลายเชือกสวรรค์นี้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่น้อย
“อย่าให้ข้าออกไปได้นะ!! ข้าจะถล่มพวกเจ้าให้ราบเป็นหน้ากลอง!!!”
เสียงของไป่ถิงถิงที่ตะโกนออกมาทำเอาไป่เซียวเหอได้แต่ถอนหายใจ เพราะว่าไม่มีผู้ใดสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ นอกจากมหาเทพผู้นั้น สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการรอเท่านั้น แม้ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าไหร่ก็ตาม
“ท่านพี่!! ถิงถิงเล่า” หลี่มู่ฟางที่เพิ่งทราบข่าววิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
“ลูกอยู่ในถ้ำแล้วฮูหยิน” ไป่เซียวเหออ้าแขนรับภรรยาเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
หลี่มู่ฟางร้องไห้ก่อนจะซบที่อกของไป่เซียวเหอ “อึก.. ท่านพี่ ถิงถิงจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
“ข้าก็ไม่รู้ เห็นทีคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา”
หลี่มู่ฟางร้องไห้ราวกับว่าจะขาดใจ สุดท้ายแล้วนางก็หมดแรงในอ้อมกอดของสามี ไป่เซียวเหอจึงอุ้มนางเดินทางกลับตำหนัก โดยจัดเวรยามให้มาเฝ้าไป่ถิงถิงที่หน้าถ้ำชั่วยามล่ะสี่ตน
เสียงของไป่ถิงถิงที่พยายามระบายความโกรธโดยการฟาดพลังอยู่ในถ้ำ ทำเอาหลี่มู่ฟางได้แต่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความสงสารบุตรชาย เหล่าปีศาจจิ้งจอกทุกตนต่างเล่าลือกันไปไกลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีเค้าความจริงแม้แต่น้อย แต่โชคดีที่ท่านผู้เฒ่าเรียกทุกคนเข้าประชุมก่อนจะอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง
“ความจริงแล้วพลังของผู้รองนั้นไม่ได้รุนแรงขนาดนี้” เสียงแหบแห้งของท่านผู้เฒ่าทำให้ปีศาจจิ้งจอกทุกตนนั่งฟังอย่างตั้งใจ “แต่โชคชะตากำหนดให้แล้วว่าไป่ถิงถิงจะต้องเป็นเช่นนี้”
“แล้วเรื่องนี้จะแก้ไขได้อย่างไรหรือท่านผู้เฒ่า” ปีศาจจิ้งจอกตนหนึ่งถาม
“เรื่องนี้ต้องเป็นคู่ครองของผู้รองเท่านั้น”
“แล้วใครคือคู่ครองของไป่ถิงถิงกันเล่า”
เหล่าปีศาจต่างหันไปซุบซิบกัน ท่านผู้เฒ่ายิ้มน้อยๆ “ก็ท่านมหาเทพอย่างไรเล่า”
เมื่อท่านผู้เฒ่าพูดออกไปเหล่าปีศาจทั้งหลายก็ต่างแย่งกันพูดทันที “เอาเถิดๆ ค่อยๆ ถาม ท่านผู้เฒ่าจะฟังพวกเจ้าทุกคน” ไป่เซียวเหอพูด “ใครอยากถามอะไรยกมือขึ้น แล้วข้าจะให้เจ้าถาม”
ปีศาจจิ้งจอกนางหนึ่งยกมือขึ้น “เหตุใดคู่ครองของไป่ถิงถิงถึงเป็นมหาเทพได้เล่า”
“ก็เพราะโชคชะตาอย่างไรล่ะ”
“มันจะเป็นไปได้หรือ เทพเซียนใดจะมาเป็นคู่ครองของปีศาจได้ ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็โดนพวกเทพทั้งหลายตามปลิดชีวิต จนแทบเอาชีวิตไม่รอดแล้ว”
ท่านผู้เฒ่ายิ้มน้อยๆ “หลังจากที่ท่านมหาเทพได้เป็นคู่ครองของไป่ถิงถิงแล้ว เรื่องพวกนี้ก็จะยุติลง เหล่าเทพและปีศาจก็จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข”
“แล้วท่านผู้เฒ่ามั่นใจได้อย่างไรหรือ”
“ก็ข้าเห็นในนิมิตของข้าอย่างไรเล่า”
“ท่านแน่ใจหรือว่ามันจะเกิดขึ้นจริง”
ไป่หานเล่อถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นยืน “แล้วมีครั้งใดที่นิมิตของท่านผู้เฒ่าไม่เกิดขึ้นจริงบ้าง” เหล่าปีศาจทุกตนต่างหุบปากเงียบ “เพราะพวกเจ้าล้วนรู้อยู่แก่ใจว่านิมิตของท่านผู้เฒ่าเกิดขึ้นจริงอยู่เสมอ แล้วเหตุใดนิมิตที่เกี่ยวกับน้องชายของข้า พวกท่านจึงไม่เชื่อถือ”
“....”
“พวกท่านคิดว่าไป่ถิงถิงอยากเป็นหรือ ผู้รองอะไรนั่น”
“....”
“พวกท่านคิดว่าเขามีความสุขหรือ?”
“....”
“เขาพูดกับข้าบ่อยครั้งว่าไม่เข้าใจ การที่เขาเป็นผู้รองเป็นความผิดบาปมากมายหรืออย่างไร เหตุใดจึงมีปีศาจบางตนรังเกียจเขา”
“....”
“พวกท่านไม่ต้องห่วง น้องของข้าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างแน่นอน”
พูดจบไป่หานเล่อก็เดินออกจากลานประชุมทันที เหล่าปีศาจจิ้งจอกตนอื่นที่ยังนั่งอยู่ก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี ท่านผู้เฒ่าจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเป็นผู้กล่าวออกมา
“อย่างไรเสีย ข้าเอาชีวิตที่เหลือของข้าเป็นประกัน หากว่าไป่ถิงถิงไม่สามารถทำให้ศึกระหว่างปีศาจและเทพยุติลงได้ ข้าจะดับสูญเสีย ถือว่าเป็นการรับผิดชอบต่อคำพูดของข้า”
“ท่านผู้เฒ่า..”
ท่านผู้เฒ่าส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปบ้าง กลายเป็นว่าหลังจากที่ประชุมกันในคราวนั้น ก็มีปีศาจจิ้งจอกหลายตนที่อาสามาช่วยร่ายมนต์ขังไป่ถิงถิงเอาไว้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถช่วยได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อบวกกับพลังของเชือกสวรรค์นั้น ก็อาจจะรั้งไป่ถิงถิงจนถึงวันที่ท่านมาหาเทพเดินทางมาที่แดนจิ้งจอกอีกครั้งได้
ทางด้านไป่ถิงถิงที่อยู่ในถ้ำฝึกตนนั้นได้แต่ระเบิดพลังทำลายข้าวของที่อยู่ด้านในด้วยความไม่พอใจ เพราะเชือกสวรรค์ที่ผูกมัดตัวของไป่ถิงถิงเอาไว้นี้ร่างบางไม่สามารถทำลายได้เสียที
“อย่าให้ข้าออกไปได้ จะนรกหรือสวรรค์ข้าก็จะไปจัดการให้หมด”
ไป่ถิงถิงกำมือแน่นก่อนจะปล่อยให้พลังระเบิดออกมาอีกครั้ง คราวนี้ตำราทั้งหลายที่วางอยู่ระเบิดออกก่อนจะกระเด็นไปบนอากาศ ไป่ถิงถิงรู้สึกหมดแรงจึงค่อยๆ นั่งลงบนพื้น ก่อนที่จะเอนตัวนอนลงเนื่องจากร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย
ไป่ถิงถิงที่พักจนพลังกลับมาเต็มที่แล้วนั้นก็รวบรวมมันเพื่อจะทำลายเชือกสวรรค์นี้อีกครั้ง และก็เป็นไปตามที่ไป่ถิงถิงต้องการ เชือกที่กำลังผูกอยู่นั้นค่อยๆ ขาดออกจากกันก่อนจะหล่นไปกองอยู่ที่เท้า
ไป่ถิงถิงยิ้มก่อนจะก้มหยิบมันขึ้นมาดู “ข้าก็คิดว่าเชือกนี่จะวิเศษเพียงใดกัน เห็นทีก็คงเป็นแค่เชือกธรรมดาๆ เท่านั้น” ไป่ถิงถิงเบะปากก่อนจะเดินออกไปหน้าถ้ำ
ปีศาจจิ้งจอกที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าถ้ำเมื่อเห็นว่าไป่ถิงถิงเดินออกมา ก็ส่งสัญญาณเรียกปีศาจจิ้งจอกอีกหลายๆ ตนให้มาช่วยร่ายมนต์กั้นเอาไว้ทันที ไป่ถิงถิงที่เห็นว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกไม่กี่ตนก็ยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยาม
“พวกเจ้ามีกันแค่นี้ คิดว่าจะทำอะไรข้าได้หรือ” ไป่ถิงถิงย่ามใจได้ไม่นานก็ทำหน้าบูดบึ้งทันที เมื่อเห็นว่าเหล่าปีศาจจิ้งจอกทุกตนในแดนปีศาจจิ้งจอก ต่างมายืนรวมกันอยู่ที่หน้าถ้ำ “ดี มาให้ครบเลยก็ดี ข้าจะได้จัดการในครั้งเดียว”
ไป่ถิงถิงกัดฟันก่อนจะฟาดมือลงไปที่ม่านกั้น แต่ด้วยพลังของปีศาจจิ้งจอกหลายตน ทำให้ไป่ถิงถิงต้องใช้แรงมากกว่าเดิมเล็กน้อย
“พวกเจ้าช่วยกันร่ายมนต์อีกได้หรือไม่ ข้าเกรงว่าจะเอาไม่อยู่”
“ข้าเองก็มีพลังแค่นี้ ท่านจะให้ข้าทำอย่างไรหรือ”
เสียงของเหล่าปีศาจที่ด่าทอกันทำให้ไป่ถิงถิงยิ้มอย่างพอใจ “เห็นทีพวกเจ้าคงจะเสียเวลาเปล่า”
ไป่ถิงถิงฟาดมือลงไปบนม่านกั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ปีศาจจิ้งจอกทุกตนสู้ไม่ไหว ม่านพลังแตกออกพร้อมๆ กับปีศาจจิ้งจอกทุกตนกระเด็นกันไปคนละทาง ไป่ถิงถิงยิ้มมุมปากก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินออกมา ร่างบางไล่สายตามองปีศาจทุกตนก่อนจะยิ้มกว้างให้กับผลงานของตนเอง
“เจ้าทำเกินไปแล้วถิงเอ๋อร์”
เสียงของผู้มาใหม่ทำให้ไป่ถิงถิงหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นร่างสูงที่คุ้นเคยไป่ถิงถิงก็ยิ้มน้อยๆ “มาแล้วหรือท่านเฟยจวิน”
Talk. มาแน้วววววว วันนี้มาตรงเวลา น้อนถิงก็คือระเบิดพลังแย้วนะ!!!! ปมของพลังน้องมีเท่านี้แหละค่ะ ที่เหลือก็จะเป็นทางแก้ ที่ตี้จะเขียนในลำดับต่อไป หวังว่าจะถูกใจนักอ่านทุกท่านนะคะ จุ๊บๆ