EP 43

1180 Words
“ยัยขิมจะไปรับพี่ปลายกับแม่มั้ยลูก พรุ่งนี้เครื่องลงแต่เช้านะ” พรรณีถามเทียมหทัยขณะนั่งรับประทานอาหารเย็นกันพร้อมหน้า และมีภาวิณีกับภัคคินี พร้อมครอบครัวมารวมตัวกันด้วย “ขิมขอตัวนะคะคุณแม่ เพราะเดี๋ยวก็ต้องดูแลเรื่องการจัดงานต้อนรับอีกค่ะ เดี๋ยวถ้าไปกันหมดจะไม่มีใครดูแลค่ะ”  เทียมหทัยบอกเหตุผล ซึ่งพรรณีและทุกคนก็พอจะรู้เหตุผลที่แท้จริงของเธอ “ไม่เป็นอะไรก็ได้มั้งคุณ! ..ให้ยัยขิมดูแลงานก็ดีแล้ว เดี๋ยวพอถึงบ้านก็จะเจอกันอยู่ดีนะ” กรรชัยช่วยเสริม “นั่นสิแม่ณีแห่กันไปหมดนี่เดี๋ยวสนามบินไม่มีที่พอดี” คุณพร้อมสมทบ “ไม่ใช่กลัวว่าตัวจริงเขามาแล้วจะตกกระป๋องหรอกหรือจ้ะแม่ขิม” ภาวิณีอดไม่ได้ที่จะกระแนะกระแหน “พี่ก็ว่างั้นและภา” เสริมอีกคน “เอาล่ะๆ ถ้ายัยขิมจะอยู่เตรียมงานก็ไม่เป็นไรหรอกนะ” คุณพร้อมสรุปในที่สุด เพราะไม่อยากให้ลูกสาวสองคนพูดกระทบกระทั่งจิตใจเทียมหทัยไปมากกว่านี้ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องของธรรทรครั้งนั้นแล้ว เทียมหทัยก็ดูไม่สดชื่นร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลย ทั้งๆ ที่เวลานั้นก็ผ่านมา 3 ปีแล้ว คุณพร้อมเองก็ยังเห็นเทียมหทัยนั้นมีอาการเงียบขรึมกว่าเมื่อก่อนมาก วันๆ เอาแต่ทำงานหนัก วันหยุดก็จะไปขลุกอยู่ที่ไร่มากกว่า ยิ่งมีอาสองคนคอยพูดกระทบกระเทียบบ่อยๆ แล้ว เทียมหทัยก็ยิ่งเงียบลงๆ เข้าไปทุกวัน ซึ่งทำให้คุณพร้อมและกรรชัยและหลายๆ คนนั้นกังวลพอสมควร พรรณีเองก็พยายามที่จะหาโอกาสให้เทียมหทัยได้พบกับผู้ชายอื่น เพื่อว่าจะได้ลืมธรรทรไปบ้าง แต่เทียมหทัยเองนั้นจะคอยเลี่ยงไม่ให้ความร่วมมือเลย หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็จะมีคำถามแรกมาให้พรรณีเสมอ! .ว่า ถ้ามีคนที่ไม่รังเกียจที่เธอเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แล้วถูกเก็บมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมเอาไว้ เธอก็จะยอมคบหาด้วย แต่หลังจากที่คนเหล่านั้นได้พบและพูดคุยกับเธอเพียงครั้งเดียวหลายๆ รายก็จะหนีหายไปกันหมด จนพรรณีสงสัยว่าเพราะอะไร ในที่สุดเธอก็รู้ว่า เทียมหทัยนั้น ไปบอกหนุ่มๆ เหล่านั้นว่าหัวใจเธอนั้นยังไม่ว่างที่จะคบใคร เพราะมีเจ้าของแหวนที่สวมนิ้วไว้ตลอดเวลาครอบครองหัวใจเอาไว้ ถ้าเขาเหล่านั้นรอได้ก็ให้รอแต่ก็อาจจะใช้เวลาเป็นสิบๆ ปีกว่าที่เธอจะทำใจลองที่จะเปิดใจรักใครสักคนได้ และอีกอย่างเธอก็จะบอกว่าภูมิหลังเธอเป็นยังไง มีฐานันดรเป็นยังไง ถ้าใครจะมาจีบเพราะคิดว่าเธอเป็นลูกเศรษฐีแล้วล่ะก็ เป็นการเข้าใจผิดถนัด แต่ก็ยังมีอยู่รายหนึ่งที่ไม่ยอมลดลาวาศอกให้เทียมหทัยนั่นก็คือ หมอปัญญาลูกชายภุชงค์กับคุณวิมลนั่นเอง รายนี้จะมาแบบเรียบๆ ไม่ได้รุกและแสดงความจำนงที่แน่ชัด ซึ่งทำให้เทียมหทัยนั้นค่อนข้างที่จะให้เกียรติอยู่บ้าง หรืออาจจะเป็นเพราะหมอปัญญานั้นเป็นหมอประจำบ้านที่มารักษาคุณพร้อมและพรรณีด้วยกระมัง แต่ทั้งคุณพร้อม กรรชัยและพรรณีเองก็ไม่ได้ตำหนิเทียมหทัยเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกคนเข้าใจถึงความรู้สึกของเธอดีว่ารู้สึกยังไงกับการที่ถูกคุณหญิงรสรินทร์ไม่ยอมรับเป็นสะใภ้เพียงเพราะฐานันดรของเธอไม่มีเท่าเทียมกันนั่นเอง “งั้นขิมขอตัวนะคะ! .พอดีมีงานต้องทำต่ออีกค่ะ” เทียมหทัยมักจะเลี่ยงจากผู้คนด้วยวิธีนี้มาตลอดสามปี “จองหอง! นี่พี่กรรและพี่ณีให้ท้ายมันมากล่ะสิท่า ถึงได้แสดงท่าทางออกมาอย่างนี้” ภาวีณีพูดสาดใส่เทียมหทัยที่ยังคล้อยหลังไปไม่เท่าไหร่ซึ่งเธอเองก็ได้ยินแบบนี้จนชินชาไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเหมือนเมื่อก่อน ได้แต่หลีกเลี่ยงไป  “ยายภาเอาอีกแล้วนะ อย่าเรียกลูกสาวพี่วันมันอีกนะ พี่ไม่ชอบ อะไรกัน ยัยขิมเขาอยู่ที่นี่จะยี่สิบปีแล้วนะ แกยังไม่เลิกตั้งแง่กับหลานอีกหรือ” กรรชัยกำหราบน้องสาวคนเล็กเพราะทนไม่ได้จริงๆ และก็ไม่อยากให้ภาวิณีพูดแบบนี้ต่อหน้าภรรยาด้วย เพราะตั้งแต่ที่เทียมหทัยมีอาการที่ไม่สดใสมานี้ พรรณีก็มีอาการแย่ลงไปด้วย “นี่พี่กรรเห็นมันดีกว่าน้องแท้ๆ ของตัวเองหรือคะ พี่กรรจะหลงมันไปถึงไหน มันทำอะไรกับพี่คะ ถึงได้มาลงที่น้องตัวเองได้” ภัคคินีทนไม่ได้ก็เลยช่วยปรามพี่ชาย “แกก็อีกคนนะยายภัค แก่แล้วนะเราลูกก็โตเป็นสาวแล้วยังไม่รู้จักจะสอนน้องอีก” “พอเถอะแม่ไม่อยากฟังแล้ว! กินข้าวกันได้แล้วอะไรกันทะเลาะกันอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโต” คุณพร้อมต้องห้ามทัพเหมือนเคย เพราะรู้ดีว่าจะไปเปลี่ยนความคิดของลูกสาวและลูกชายที่มีต่อเทียมหทัยนั้นคงจะยากเต็มที     ตอนที่ 8   “ภาน่ะหมั่นไส้พี่กรรกับพี่ณีจริงๆ เลย คอยออกรับแทนอีเด็กนั่น ไม่รู้มันทำยังไงพี่กรรถึงได้หลงมันหัวปักหัวปำ” ภาวิณีไม่วายที่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก หลังจากที่กลับจากบ้านพี่ชายแล้ว “ไม่รู้สิ! พี่ก็ว่าพี่กรรคอยปกป้องมันมากขึ้นทุกวันๆ แล้วเหมือนกัน เอ! หรือว่าเรื่องที่เราคิดมันจะเป็นจริงๆ ยายภา” ภัคคินีอดหวนนึกถึงเรื่องพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงไม่ได้ “พวกคุณนี่เอาอะไรมาพูดนั่นพี่ชายคุณนะคิดอะไรบ้าๆ” สรรสามีภัคคินีต้องปรามเอาไว้ไม่ให้เรื่องเลยเถิดไปกันใหญ่เพราะรู้ดีว่าทั้งเมียและน้องเมียนั้นไม่ชอบเทียมหทัยเอามากๆ แต่เขาเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับทั้งสองเลย เพราะเท่าที่เขาเห็นนั้นเทียมหทัยเป็นเด็กดี ทำงานช่วยกรรชัยหัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้น ก็สมควรแล้วที่เขาจะรักเทียมหทัยเหมือนลูกในไส้เขาเอง “พอแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้วมันดึกมากแล้วนะคุณ! ! ยายภาด้วย” เขาบอกในที่สุด เพราะเห็นพิชัยและสาวิตรีออกอาการเซ็งเต็มทีเพราะนั่งรอภาวิณีในรถเป็นนานสองนาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD