“โถ! คุณแม่ขา ขิมเห็นจนชินแล้วนะคะจะอายขิมทำไมคะ! งั้นขิมไปทำงานแล้วนะคะคุณพ่อ แล้วเจอกันตอนบ่ายนะคะ เพราะวันนี้ขิมนัดลูกค้าไว้ทั้งเช้าเลยค่ะ ไปก่อนนะคะคุณย่า คุณแม่”
เทียมหทัยยกมือโบกลาเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ เขาทำกัน พลางวิ่งออกไปที่รถคู่กายที่เพิ่งได้เป็นของขวัญวันรับปริญญาหมาดๆ ขับออกไปในที่สุด
“ดูสิ ! บทจะไปก็ไปเลย ลูกสาวเธอนี่จริงๆ เลยนะยายณี” คุณพร้อมชะเง้อมองตามไปทางประตูที่เทียมหทัยเดินออก แต่แววตาก็แฝงไว้ด้วยความเอ็นดูในที
“โถ! คุณแม่ค่ะ ยัยขิมก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะคะ คุณแม่ยังไม่ชินอีกเหรอคะ” พรรณีพูดพลางอมยิ้มแล้วหันไปหาสามีที่มัวแต่เอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อเช้าอยู่
“เอ่อ! นั่นสินะแล้วทำไมฉันยังไม่ชินสักทีล่ะ” คุณพร้อมพูดพลางหัวเราะ
“แล้วพ่อคุณที่แกพูดเมื่อกี้น่ะ เขาเป็นใครล่ะตากรร แม่ไม่ทันฟังน่ะลูก” คุณพร้อมถามลูกชายเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้กับเรื่องที่คุยค้างไว้
“อ๋อ! ก็ลูกคุณหญิง รสรินทร์ไงครับคุณแม่ ที่แกก็เป็นโรคหัวใจเหมือนกับณีไงครับ ก็รู้จักกันที่โรงพยาบาลเจ้าภุชงค์ เพื่อนผมไง ที่สามีแกเพิ่งจะเสียไปเมื่อไม่นานมานี้ ลูกชายก็เลยต้องกลับจากอังกฤษมาดูแลกิจการแทนพ่อ” กรรชัยอธิบาย
“อ๋อ! แม่จำได้แล้ว ที่ณีบอกว่ารู้จักกันตอนที่ไปตรวจโรคหัวใจที่โรงพยบาลเจ้าภุชงค์นั่นใช่มั้ย”
“ค่ะคุณแม่! แต่ณีก็ไม่ได้สนิทมากอะไรนะคะ เพราะดูท่าแล้วเขาจะเจ้ายศเจ้าอย่างยังไงไม่รู้ค่ะ คงจะถือว่าตัวเองเป็นถึงคุณหญิงมั้งคะ เจอหน้าทีณีก็ทักทีค่ะ” พรรณีพูด
“ใช่นั่นแล่ะคุณ! แต่ลูกชายเขาไม่เหมือนกันนะ รายนี้ติดดินมาก ไม่ถือตัวเลย เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังมาแรงและถูกจับตามองมากๆ เลย นี่ถ้าผมได้เป็นลูกเขยนะ คงอุ่นใจแน่ๆ เลย” กรรชัยยิ้มจนภรรยาและแม่งง
“คุณก็ ดูพูดเข้าสิ เดี๋ยวยัยขิมได้ยินเข้าโกรธไม่รู้ด้วยนะ! แล้วว่าแต่เขาจะมาทำสนามกอล์ฟแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราคะ”
“เอ่อ! นั่นน่ะสิ แม่ก็งง” คุณพร้อมเสริม
“ก็เขาจะมาขอซื้อที่ของเราแต่ผมไม่ขายครับเขาก็เลยจะมาชวนร่วมหุ้นซะเลย ก็เลยจะมาคุยรายละเอียดด้วย แต่แรกเขาว่าจะให้ลูกน้องเขาชื่ออลงกรณ์มาคุย แต่ยังไงไม่รู้เป็นมาเองครับ! สายมากแล้วงั้นผมไปทำงานก่อนนะครับคุณแม่ คุณด้วย อย่าลืมทานยานะ! คุณอรเตือนคุณผู้หญิงทั้งสองของผมด้วยนะ” กรรชัยกำชับ แล้วก็ผลุนผลันลุกออกไปเหมือนอาการของลูกสาวเมื่อกี้
“คุณคะ! เดี๋ยวเย็นนี้อย่าลืมกลับมากินข้าวเร็วหน่อยนะคะ คุณภุชงค์กับคุณวิมลจะมากินด้วย บอกยัยขิมด้วย” พรรณีร้องบอกสามี
“จ้า! ถ้าเจ้าชงค์มาก่อนก็ให้จิบรอผมแล้วกัน” กรรชัยบอกและเดินผละไปจริงๆ เสียที
“อ้าวดูสิไปอีกคนแล้ว! นี่ถ้าไม่บอกว่ายัยขิมกับเจ้ากรรเป็นพ่อลูกบุญธรรมนี่ฉันไม่เชื่อนะเนี๊ยะ เพราะเหมือนกันจริงๆ เลย เอ่อ! ว่าแต่ลูกชายเจ้าภุชงค์น่ะที่ไปเรียนเมื่อไหร่จะกลับมาสักทีล่ะนี่”
คุณพร้อมถามถึงเพื่อนของลูกชาย ที่สนิทกันมากๆ ครอบครัวหนึ่ง เพราะเขาทำกิจการโรงพยาบาลที่เธอและครอบครัวต่าง ก็เป็นลูกค้าประจำ
“อ๋อ! ปัญญาเหรอคะ ก็เห็นว่าอีกปีกว่าๆ ก็จะกลับค่ะ และกลับมาพร้อมเป็นดอกเตอร์เลย น่าจะจบพร้อมๆ กับตาปลายนั่นแล่ะ แต่เห็นบอกว่าจบแล้วก็ทำงานหาประสบการณ์เหมือนๆ กันค่ะ และถ้ามาแล้วเราต้องเรียกว่าคุณหมอแล้วนะคะ” พรรณีอธิบาย