ในฟินน์ กรุ๊ป
ห้องของท่านประธาน ชั้น 88
ณ ด้านหน้าของหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสอันหรูหรา มีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ เขาเปล่งประกายออร่าที่ใครก็ไม่สามารถทัดเทียมได้ ผู้ใดก็ตามที่เดินผ่านมารู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาทันที
"ท่านประธานครับ" เลสเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ
“ข่าวนั่น” ไฮนซ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เลสเตอร์เหงื่อออกขณะพูด “ผมต้องขออภัยด้วยครับ ผมจัดการเรื่องนี้พลาดไป ผมไม่สามารถปิดข่าวก่อนที่จะแฉออกมาได้”
ไฮนซ์หันกลับมาและเหลือบมองเลสเตอร์ เขาเดินไปที่โต๊ะไม้มะฮอกกานีขนาดใหญ่แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่โดยยังคงรักษาออร่าที่น่ายำเกรงเอาไว้
“ฉันก็ดูถูกเกรซไปเหมือนกัน” ไฮนซ์พูดด้วยเสียงโทนต่ำ
เลสเตอร์รู้สึกสับสนเล็กน้อย เขามองไฮนซ์อย่างแปลกใจ “ท่านประธานหมายถึงข่าวนี้ถูกปล่อยโดยนักข่าวฝึกงานที่ชื่อเกรซเหรอครับ?”
ไฮนซ์พยักหน้า เขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะสำรองข้อมูลไว้
“แต่คนเขียนข่าวนี้คือลิเลียน รอสส์ ไม่ใช่เกรซนะครับ” เลสเตอร์ดูพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ มันคือลิเลียนจริงๆ
“ลิเลียน รอสส์?” ไฮนซ์รู้สึกแปลกใจ
“หล่อนเป็นนักข่าวอาวุโสในบริษัทของพวกเขา และเป็นหัวหน้าของคุณเกรซด้วยครับ” เลสเตอร์กล่าว
ไฮนซ์ขมวดคิ้วและทันใดนั้นก็มีแสงประกายออกมาอย่างชัดเจนในดวงตาของเขา
ตอนนี้เรื่องมันชักน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆแล้วซิ
ณ แผนกกองบรรณาธิการนิตยสารเดลี่เอ็นเตอร์เทนเม้น
ทันทีที่เกรซเข้ามาในสำนักงาน เธอได้ยินเสียงคนซุบซิบกัน
“คุณรอสส์น่าทึ่งมากๆ เธอตีพิมพ์ข่าวใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง น้อยคนนะที่จะทำได้แบบเธอ ขนาดคนที่เขียนบทความแบบนั้นได้ ปกติแล้วข่าวก็จะถูกลบทันทีก่อนเผยแพร่ คุณรอสส์เก่งมากที่ทำได้”
“ฉันได้ข่าวว่าชายลึกลับคนนั้นไม่เคยมีแฟนมาก่อน มีแต่คนบอกว่าเขาเป็นเกย์ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะคบอยู่กับดาราสาวอย่าง ซินดี้ ไวท์”
ฉันก็เหมือนกัน ฉันคิดว่าเขาไม่สนใจผู้หญิงเลย น่าเสียดาย ตอนนี้เขาคบกับซินดี้ ไวท์ ฉันคิดว่าซินดี้ไม่เหมาะกับพ่อสุดหล่อของฉันหรอก แม้ว่าหล่อนจะเป็นดาราดังก็ตาม”
เมื่อเกรซเดินไปที่โซนทำงานของเธอ ทุกคนรอบๆ โต๊ะของลิเลียนก็เริ่มหยุดพูด
เกรซยิ้มให้กับทุกคน "อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน."
ลิเลียนมองมาที่เธอ “สวัสดีเกรซ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณรอสส์” เกรซทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม
“เกรซ เธอควรเรียนรู้งานจากคุณรอสส์นะ” คริสติน่าหนึ่งในเพื่อนร่วมงานบอกกับเกรซว่า "เธอคงคิดภาพไม่ออกเลยละซิว่าคุณเขาเจ๋งขนาดไหน ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆที่ได้เขามาเป็นหัวหน้าของเรา เขาเป็นคนที่มีส่วนทำให้เกิดข่าวใหญ่ในวันนี้ ไฮนซ์ โจนส์ พ่อหนุ่มสุดลึกลับคนนั้น"
เกรซอ้ำอึ้ง นี่มันไม่ใช่ข่าวที่เธอเป็นคนทำมันด้วยตัวเองเหรอ
จากนั้นเธอมองไปยังลิเลียน ทุกคนกำลังมองมาที่เธอ ดวงตาอันแหลมคมของลิเลียนนั้นเชิดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
ดวงตาของเกรซสั่นสะท้าน เธอยิ้มทันทีและพูดว่า "ใช่ค่ะ ฉันคงต้องเรียนรู้จากหัวหน้าของเรา คุณรอสส์อีกเยอะเลยค่ะ"
นัยน์ตาคมกริบของลิเลียนอ่อนลงเล็กน้อย เธอปรบมือและพูดเสียงดังว่า “ทุกคน กลับไปทำงานได้แล้ว คืนนี้ฉันจะเลี้ยงเอง ห้ามเลิกจนกว่าเราจะเมาไปข้างนึง”
"วู้ฮู หัวหน้าของเราใจปล้ำสุดๆ" คริสติน่าส่งเสียงเชียร์อย่างเสียงดัง
เมื่อทุกคนออกไปจนหมด
จากนั้นลิเลียนก็มองไปที่เกรซ และดวงตาของเธอจ้องไปที่ใบหน้าของเกรซอย่างมีความหมาย "เกรซ"
เกรซพยักหน้า เธอใจเย็นมาก
เกรซรู้ว่าข่าวที่เธอเขียนเมื่อคืนนี้เป็นลิเลียนที่ได้เครดิตไป ซึ่งหมายความว่าข่าวนั้นเป็นของลิเลียน และเธอก็คงไม่ได้รับเครดิตอะไรจากข่าวนี้เลย
เกรซเป็นเด็กใหม่ มันคงเป็นเรื่องปกติที่เด็กใหม่จะได้โดนปฎิบัติเช่นนี้
เกรซจะกล้าไปอิจฉาลิเลียนได้ยังไงกัน
ดังนั้น ไม่ว่าลิเลียนจะพูดอะไร เกรซแค่ยิ้มเข้าไว้
"เครดิตสำหรับการทำข่าวนี้" เมื่อลิเลียนพูด เธอมองตรงไปที่เกรซ “เธออย่าได้คิดเชียวนะ”
เกรซส่ายหัวทันที “ไม่เลยค่ะ คุณรอสส์ คุณเป็นคนตัดต่องานเขียนเอง ฉันเองก็ยังไม่ได้เป็นนักข่าวประจำ ดังนั้นมันก็สมเหตุสมผลที่ฉันจะไม่สามารถเขียนข่าวนี้ได้”
ลิเลียนมองมาที่เกรซครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วันนี้ฉันจะบอกหัวหน้าบรรณาธิการเพื่อให้คุณมาเป็นนักข่าวประจำของสำนักพิมพ์เรา”
เกรซรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทันใดนั้นมีคนตะโกนว่า "เกรซ หัวหน้าบรรณาธิการกำลังตามหาคุณอยู่"
"ฉันจะรีบมาค่ะ" เกรซตอบทันทีว่า “มาแล้วค่ะ”
ลิเลียนเหลือบมองเธอและเตือนว่า “หัวหน้าบรรณาธิการไม่ชอบพนักงานที่พูดมากนะ”
เกรซอึ้งเล็กน้อย เธอพยักหน้า “ขอบคุณคุณรอสส์ที่เตือนนะคะ รับทราบค่ะ”
ลิเลียนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ดีมาก เกรซ รู้จักทำตัวดีๆ เข้าไว้นะ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากฉันในอนาคต แค่บอกฉัน”
เกรซยิ้มรับและเดินตรงไปที่ห้องของหัวหน้าบรรณาธิการ เธอไม่รู้ว่าทำไมหัวหน้าบรรณาธิการถึงตามหาเธอ