ตอนที่ 2 ลงโทษ
เอกอีเอ้กเอ้ก~~
เสียงไก่ขันรับกันดังลั่นไปทั่วทั้งลานบ้าน คนตัวโตที่ถูกมัดติดกับเสาพลันลืมตาขึ้นมา ท้องฟ้ายังคงมืดมิดปลายขอบฟ้ามีแสงรำไรของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า ทว่าไอ้เด็กตัวเปี๊ยกนั่นยังคงนอนอ้าปากน้ำลายยืด พร้อมกับกอดไอ้ไม้หน้าสามเอาไว้แน่น
“เออมึงกอดเอาไว้ให้ดี กูหลุดไปเมื่อไรทั้งมึงทั้งพี่มึงแหละ กูเตะให้กลิ้ง” มฤคินทร์บ่นออกมา พร้อมทั้งสะบัดคอที่เมื่อยล้าจนกระดูกลั่นดังก๊อกแก๊ก นี่แค่คอนะยังเมื่อยขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงแขนที่ถูกมัดเอาไว้เลย ตอนนี้แทบจะไร้ความรู้สึกไปแล้ว
ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก็เห็นร่างบางหิ้วถังสีดำใบใหญ่ออกมา เขามองเธอเดินไปเปิดกรงไก่ ในแต่ละกรงใหญ่ จะมีกรงเล็กที่ทำเป็นคอกอีกหลายคอก
ครั้นเด็กสาวให้อาหารไก่เสร็จ ก็เดินออกมาแวะชะโงกดูคนที่ถูกมัดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ อีตอนที่เห็นเขามุดเข้ามา ก็ไม่ทันคิดฟาดเข้าไปเต็มแรง แต่ครั้นหลับไปหนึ่งตื่นความกลัวก็แล่นเข้ามาจับจิตมฤคินทร์เห็นหัวที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ก็โมโหจนหน้าเขียวคล้ำ พยายามนั่งหลับตาไม่มองยัยเด็กบ้านี่ ไม่เห็นก็จะได้ไม่ต้องของขึ้น ชายหนุ่มนั่งหลับตาไปนานเท่าไรก็ไม่รู้พักเดียวหูก็ได้ยินเสียงร้องของไก่ในฟาร์ม พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นยัยเด็กนั่นกำลังนั่งทำบางอย่างกับไก่ชน
“เฮ้ย!!.เธอกำลังทำอะไรอยู่” ปรียาดาสะดุ้งจนสุดตัว เธอเหลือบตาขึ้นมอง จากนั้นก็รีบก้มหน้าลงมา ใช้ผ้าชุบน้ำจนชุ่มจากนั้นก็เช็ดตามขนไก่เหมือนเดิมทว่ามือเล็กกลับสั่นไม่หยุด เสร็จจากเช็ดน้ำแล้วเธอก็หยิบอะไรบางอย่างที่เป็นก้อนกลม ๆ ยัดเข้าไปในคอไก่ มฤคินทร์เบิกตากว้าง หรือยัยเด็กนั่นจะวางยาไก่ตาของเขา
“เธอเอาอะไรให้ไก่กิน คิดจะวางยามันหรือยังไง รู้ไหมว่าไก่ชนฟาร์มบุญเลิศราคาตัวหนึ่งไม่ใช่ถูก ๆ”
“รู้สิ...อย่างตัวนี้ครั้งก่อนทวดเลิศประเมินราคาไว้ที่แปดพัน ตัวนั่นหงอนแดง ๆ หมื่นสอง ส่วนไอ้พระเอกตัวนั่น...ตัวละสี่แสนเชียวละ ยังไม่รวมตัวที่ทวดเอาไปประกวดเมื่อวานนะ ตัวนั้นหลักล้านบอกเลยไก่ที่นี่แพง ๆ ทั้งนั้น และแกก็ไม่ต้องคิดจะขโมยเพราะไม่เคยมีใครขโมยไปได้ คอยดูทวดกลับมาแกตาย!!!...” ไม่พูดเปล่าปรียาดายังทำมือปาดคอตนเอง ครั้นได้รับสายตาดุ ๆ กลับมา ก็รีบก้มหน้าลงไม่มองเขาอีก เธอเดินไปเปิดสุ่มเอาไอ้พระเอกออกและจัดการเช็ดน้ำให้มัน จากนั้นก็ป้อนอาหารเสริมให้เหมือนตัวเมื่อสักครู่
มฤคินทร์แทบจะสำลักน้ำลายตาย เห็นมือมันฉีกปากไก่ออกกว้างและยัดไอ้ก้อนนั้นเข้าไป หากไก่ตัวละสี่แสนตายไปล่ะ ใครจะรับผิดชอบ ตั้งสี่แสนเชียวนะ ชายหนุ่มเริ่มดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย หมายจะให้หลุดจากเชือกบ้า ๆ นี่ ให้เขาตายยังดีกว่า ที่จะทนมองยัยเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ย่ำยีไก่ชนแสนรัก
“ปล่อยฉันสักทีสิโว้ย จะมัดอีกนานไหมวะ ข้าวน้ำก็ไม่หามาให้กิน แม่งเอ๊ยอย่าให้กูหลุดออกไปได้”
“ไม่ให้หลุดหรอกไม่ต้องห่วง มัดแน่นมากแต่ก็ขอบใจหลาย ๆ เด้อที่เตือนน่ะ” โจรสมัยนี้มันก็ดีเหมือนกัน ยังมีการย้ำเตือนเธออีกด้วย สงสัยกลัวเธอจะมัดไม่แน่น แต่เงื่อนที่เธอมัด เป็นเงื่อนที่ทวดบุญเลิศสอนให้กับมือ ไม่มีทางพลาดแน่นอน
มฤคินทร์อ้าปากค้าง ใครไปเตือนมันวะ เขาก็แค่คำรามด่าไปเรื่อยแต่เด็กนี่มันคิดว่าเขาหวังดีซะงั้น ปรียาดาเห็นใบหน้าที่เหมือนหมางงก็แอบหัวเราะเบา ๆเธอมองสำรวจเชือกอีกครั้ง ก่อนจะเดินกล้า ๆ กลัว ๆ ไปปลุกไอ้หมีให้ตื่นไปอาบน้ำ และกลับมาเฝ้าไอ้โจรคนนี้อีกรอบ
หลังจากที่จัดการในฟาร์มเสร็จ คนตัวเล็กรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปที่ตลาด และซื้อของสดกลับมาทำอาหารรอทวดทั้งสอง ครั้นทำกับข้าวเพิ่งเสร็จก็ได้ยินเสียงรถกระบะขับเข้ามาจากทางด้านหลังซึ่งเป็นส่วนของตัวบ้าน
“พี่ปรีทวดกลับมาแล้ว” ไอ้หมีวิ่งเข้ามาในลานกว้างของฟาร์ม วิ่งตะโกนบอกหญิงสาวที่เริ่มปล่อยไก่แต่ละคอกให้มาเดินออกกำลัง หากินหนอนกินแมลงในสวนด้านหลัง ที่เธอกล้าปล่อยก็เพราะว่า สวนด้านหลังล้อมรั้วเอาไว้หมดแล้วเช่นกัน ไก่ไม่มีทางหนี และไม่ถูกขโมยแน่
“ทวดโทรแจ้งตำรวจหน่อยจ้ะ หนูจับขโมยได้มัดมันเอาไว้แล้ว หน็อย...สงสัยมันจะรู้ว่าทวดเอาไอ้จิ๊กโก๋ไปประกวด มันก็เลยจะเข้ามาขโมยไก่ที่เหลือ หนูฟาดมันจนสลบเหมือดจับมัดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” ปรียาดาเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ ที่สามารถดูแลฟาร์มให้บุญเลิศได้อย่างที่รับปากเอาไว้
บุญเลิศวางมือบนหัวเหลนไม่แท้แล้วโยกไปมาอย่างเอ็นดู ถึงแม้ปรียาดาจะไม่ใช่เหลนแท้ ๆ แต่ก็ดูแลกันมาตั้งแต่เด็ก ในใจก็นึกว่าตนเองเป็นญาติผู้ใหญ่มานานแล้ว
“ฉันบอกแกแล้วว่าให้จ้างคนมาเฝ้า อีหนูปรีมันเป็นผู้หญิงถึงจะมีไอ้หมีอยู่ด้วยก็เถอะ แต่ไอ้หมีเพิ่งจะป.5 จะไปช่วยอะไรได้ แล้วนี่เราไม่ถูกมันทำอะไรใช่ไหมลูก”
“ไม่ถูกจ้ะทวดนาง หนูฟาดมันก่อนที่มันจะรู้ตัวอีก”
“ไหน ๆ พาทวดไปดูหน่อย ยายเฒ่าโทรตามตำรวจให้เดิ้ง[1]ไป”สไบนางพยักหน้า ล้วงโทรศัพท์ออกมากดเบอร์สถานีตำรวจใกล้บ้าน ที่รู้เบอร์ตำรวจก็เพราะว่า ที่ฟาร์มของเขามีขโมยมาลองของบ่อย ๆ จึงต้องประสานงานกัน นานเข้าก็สนิทกันไปโดยปริยาย
ปรียาดาพาบุญเลิศเดินมาถึงต้นเสาไม้ที่มัดไอ้โจรร้ายนั่นเอาไว้ ใบหน้าหวานกระหยิ่มยิ้มย่อง พลางพยักพเยิดไปทางชายหนุ่มผู้นั้น ตาบุญเลิศค่อย ๆ หันไปมอง ก่อนจะเบิกตากว้างออกมา
“ยายนางไม่ต้องโทรแล้ว ไม่ต้องโทรหาตำรวจแล้ว”
“ทำไมไม่โทรล่ะทวด ไอ้นี่มันเป็นขโมยนะ” มฤคินทร์เงยหน้าขึ้นมองยัยเด็กโง่อวดฉลาด ที่กำลังทำหน้างง ใบหน้าหล่อเหลาพลันแสยะยิ้มขึ้น
“ถ้าพ่อใหญ่[2]ไม่อยากให้สิงห์มาก็บอกดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะต้องจับสิงห์มัดเอาไว้เลย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างน้อยใจสไบนางวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเพราะได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย
และยิ่งมาเห็นหลานชายสุดที่รักถูกมัดใบหน้าดำเลอะเทอะไปด้วยคราบดิน เสื้อสีฟ้าที่ใส่มีรอยเลือดไหลย้อยลงมา หญิงชรากรีดร้องก่อนจะวิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าหลานชาย
“ไอ้นาย[3]สิงห์ โอ๊ยดวงใจของแม่ใหญ่ ฮื้อ ๆ เจ็บไหมลูก โอ๊ย ๆ ใจฉันจะขาด ตาเลิศมัวยืนบ้าอะไรอยู่แก้มัดให้ไอ้นายถัวะ[4]“
ตาบุญเลิศได้สติก็รีบแก้มัดให้กับหลานชายทันที มฤคินทร์หลุดจากการถูกมัดก็รีบลุกขึ้นยืนบิดเนื้อตัวที่เมื่อยล้า เขาหันไปมองเด็กหญิงที่ยืนหน้าซีดยิ่งกว่าไก่ต้มก็สาวเท้าย่างสามขุมเข้าไปหา ปรียาดาเห็นท่าไม่ดีก็รีบวิ่งไปหลบที่หลังสไบนาง โผล่หัวออกมายกมือไหว้ท่วมหัว
“หนูขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ว่าคุณเป็นคนรู้จักกับทวด คิดว่าเป็นขโมย จะมาโทษหนูไม่ได้นะคุณก็ไม่ยอมบอกหนูว่าเป็นหลานของทวด ที่ฟาร์มเรามีไก่ชนตัวละหลายบาท ใครแอบเข้ามาก็ต้องฟาดไว้ก่อน ไม่งั้นไก่หายขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่”
“เธอก็ควรถามก่อนไหม มาถึงก็ฟาดเลยฉันจะเอาเวลาไหนไปบอกเธอ” มฤคินทร์ไม่รอฟังคำแก้ตัวของเด็กสาวอีก
เขาวิ่งอ้อมไปด้านหลัง กระชากคนตัวเล็กออกมา ท่ามกลางเสียงห้ามของตากับยาย ฝ่ามือหนาก็ฟาดลงไปที่บั้นท้ายปรีดายาอย่างเต็มแรง
“ไอ้นายสิงห์อย่าตีหนูปรี โอ๊ยอย่าตีหลานไอ้นายเอ๊ย ตาเลิศมาแยกทั้งคู่ที” สไบนางรีบเข้าไปห้าม ทว่ามฤคินทร์ก็ลากเด็กสาวออกมา ฝ่ามือฟาดลงไปที่สะโพกเต็มแรง
“โอ๊ย!!!...ทวดนางช่วยหนูด้วย”
“ทีหลังจะกล้าทำร้ายฉันอีกไหม”
“หนูกลัวแล้วจ้า หนูไม่กล้าแล้ว” น้ำหูน้ำตาไหลอาบแก้ม ทั้งก้นทั้งขาไม่ใช่แดงไปหมดแล้วหรือ ฟาดมาแต่ละทีแสบไปทั้งบั้นท้าย หญิงสาวสะอื้นจนตัวโยน
“ขอโทษฉันมา ขอโทษเดี๋ยวนี้”
“รีบขอโทษอาสิงห์เร็วเข้าอีหนูปรี”ยายสไบนางยังคงตะโกนโหวกเหวกให้เหลนนอกไส้ขอโทษหลานชายในสายเลือด เพราะรู้ดีว่ามฤคินทร์เป็นคนขี้ใจอ่อน ยอมขอโทษดี ๆ เรื่องจะจบลงไป
“หนูขอโทษค่ะอาสิงห์ ฮื้อ ๆ หนูขอโทษ” เสียงร้องไห้ของเด็กสาวดังลั่น ไอ้หมีเห็นลูกพี่มันถูกฟาดตูดก็รีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ตัวใครตัวมันก่อนเด้อลูกพี่...
************************
[1]เดิ้ง แปลว่าด้วย (ยายเฒ่าโทรตามตำรวจให้ด้วยไป)
[2]พ่อใหญ่ แปลว่าตา / แม่ใหญ่ แปลว่ายาย
[3]ฐานข้อมูลพจนานุกรมภาษาโคราช ข้อมูลคำศัพท์ ไอ้นาย เป็นคำที่ผู้ใหญ่ใช้เรียกเด็กชายหรือชายที่มีอายุอ่อนกว่าด้วยความเอ็นดู
[4]ถัวะ, คำประกอบท้ายคำที่แสดงถึงความต้องการให้ทำตามอย่างหงุดหงิด เช่น ดูถัวะ แปลว่า ดูซิ (ในเชิงน้ำเสียงไม่พอใจ) *หมายเหตุ ภาษาโคราช