ตอนที่ 4 ชื่อตอน ไปโรงเรียนวันแรก

1262 Words
"เอมิ มาหาแม่หน่อยซิค่ะลูก" คุณแม่แสนสวยเรียกฉันในเช้าวันหนึ่ง วันนี้อากาศขมุกขมัวช่างน่ากลัวจริงๆ หมอกลงจัดจนฟ้าหลัวเหมือนมีลางสังหรณ์แปลกๆ "ขาคุณแม่ เอมิกำลังไปค่ะ " ร่างบางวิ่งลงมาจากห้องชั้นสองรีบไปหาคุณแม่ที่รัก ก่อนจะวิ่งช้าลงเมื่อใกล้ๆห้องโถงรับแขกที่คุณแม่อยู่ แม่กวักมือเรียกให้เข้าไปใกล้ๆและค่อยๆลูบหัวเบาๆ วันนี้มันแปลกๆพิกล แปลกแบบไหนยังไม่รู้ รู้แค่ว่ามันแปลกๆ บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน "เอมิขาคุณพ่อจะต้องย้ายที่ทำงานนะคะลูก พวกเราต้องย้ายบ้านตามคุณพ่อ และเอมิต้องย้ายไปเรียนใกล้สาขาโอเรียวชิน " เหมือนฟ้าผ่ากลางวัน นี่มันมาคุชัดๆ “ย้ายโรงเรียนค่ะ โอ๊ยยยคุณพ่อ...คุณแม่ คุณเพื่อน ฮือ...ย้ายโรงเรียน เพิ่งจะมีเพื่อน ต้องย้ายที่เรียน ฮือ ฮือ ” เอมิโอดครวญคนเดียวในใจ ร่างเล็กๆขัดใจเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในวัยต้องขอเงินคุณพ่อคุณแม่อยู่ "โตแล้วจะขัดใจพ่อแม่ก็ไม่ได้ เพื่อนทางนี้ก็มีเยอะแต่เดี๋ยวนี้มีโซเชียลแล้ว นัดเจอกันก็ได้นี่นา เอาน่า ปลอบใจตัวเองไว้ก่อน เพื่อนใหม่บ้านใหม่ สิ่งดีๆกำลังรอเธออยู่นะยัยเอมิ อย่างอแงนะสูดลมหายใจลึกๆนั่นคือสิ่งที่รู้สึกเล็กๆในวันนี้ "คล้ายมีอะไรรบกวนใจว่าอย่าไปเลยนะ อย่าไป แต่มันก็จำเป็นต้องไป " แล้วก็เริ่มต้นแพ็คของย้ายบ้านอย่างง่ายๆ ทุกอย่างโอเคแล้ว คุณแม่จ้างนักมูฟบ้านมืออาชีพมาขนย้ายสิ่งของ แล้วภายในวันเดียวเราก็ถึงบ้านใหม่ที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนมัธยมปลายที่จะต้องไปประมาณหกป้ายรถเมล์ แต่มันเป็นพื้นที่ชนบท ป้ายรถเมล์นึงก็ไกลพอสมควรนะเป็นกิโลอ่ะนะ วันแรกก็ไปโรงเรียนไม่มีอะไรมากนัก เพื่อนในห้องนิสัยดีมากๆ ได้เพื่อนสนิทผู้หญิงบ้าง เพื่อนๆหลายคนมารุมล้อมเธอเพราะที่นี่มันชนบท นานๆจะมีคนแปลกหน้าย้ายเข้ามาทีนึง เพื่อนก็มารุมล้อม ชวนพาชมโรงเรียนส่งเสียงร้องวี้ดว้าย เพื่อนพาเธอเดินผ่านกลุ่มผู้ชายกลุ่มนึง เธอมองไปเล็กน้อย เห็นคนเยอะดีก็เลยสนใจ คงเป็นชมรมอะไรซักอย่างเพราะอยู่กันเยอะมากๆเลยล่ะ เธอสบตากับผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้น เห็นผู้ชายคนนั้นคลายเน็คไทนิดๆ กลางอกมีรอยสักแล่บออกมา รอบตัวมีเพื่อนๆเยอะมากๆ แต่มองเค้ามากจะเสียมารยาทเกินไปเพราะเราโตแล้วอ่ะ มาจากในเมือง ขืนเสียมารยาทมันคงโลว์คลาสแน่ๆ เธอก็เดินตามเพื่อนไปเรื่อยๆ เพื่อนๆชี้ให้ดูโรงอาหาร เรือนพยาบาล โรงคหกรรม โรงพละ อื่นๆสารพัดที่จะมีในโรงเรียนแห่งหนึ่ง วันๆหนึ่งก็ผ่านไปไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น น่าเบื่อนิดๆตามสไตล์คนขี้เกียจมาโรงเรียน แต่ก็สบายใจดีไม่อึดอัดเท่าโรงเรียนในเมือง นี่เป็นสัณญาณที่ดีในชีวิตของเธอ ในช่วงนี้ เอมิรู้สึกมีความสุข เพื่อนเกาะแขนลากไปลากมาตลอดวัน เอมิมีเพื่อนๆมากขึ้นจากเพื่อนหนึ่งคนแนะนำเพื่อนอีกคนมาให้ โรงเรียนนี้ก็ไม่แย่มากนัก มีเพื่อนไฮโซมาเรียนมาก เหมือนมีชื่อดังที่สุดในเมืองนี้ก็ว่าได้ มาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนนี้ก็ผ่านมาตรฐานเอเชีย มีนักเรียนแลกเปลี่ยนในภูมิภาค มีนักเรียนยุโรปอเมริกามาอยู่โฮมสเตย์ นับว่าหรูหรามีชื่อ มีสิ่งที่น่าสนใจสำหรับวัยรุ่นอย่างเอมิ เอมินั่งริมหน้าต่างที่โต๊ะว่างๆตัวหนึ่ง สายตามองอาจารย์สอนไป แล้วก็เหล่สายตามองไปทั่วๆจากบนตึก ด้านล่างเป็นสนามบอล เอมิเห็นว่ามีคนเล่นบอลกัน ลูกบอลถูกเตะแรงมากๆ คนวิ่งไปมาเรียกว่าเก่งมากในสนามฟุตบอล เอมิมองเพลินๆและหันมาสนใจอาจารย์สอนต่อไป เรียนค่อนข้างพื้นฐานแน่นสำหรับที่นี่ ในวิชาเรียนถ้าไม่ใส่ใจสำหรับที่นี่จะยากลำบากหน่อย เพราะว่าอาจารย์สอนไวมากๆเลย เราต้องตามอาจารย์ให้ทัน เอมิแอบกรีดร้องในใจ “อา..ก็ว่าเราเรียนดีแล้วนะ แต่ที่นี่สอนไวมากๆเลย ถ้าไม่ตั้งใจจะแย่สุดๆเลย ต้องสปีดตามให้ทัน” เอมิจดเลคเชอร์ตามอาจารย์เขียนไวท์บอร์ดเร็วๆจนมือแทบจะหงิก อาจารย์พูดไปสอนไป ว่องไวจนน่าเวียนหัว เรียนหนักจะหยุดเรียนก็แทบไม่ได้เลยนะแบบนี้ เอมิยกมือกุมหัวไปจดงานตามอาจารย์ที่สอนไป พอจบชั่วโมงก็ต้องส่งแล้ว เธอกรี้ดเบาๆ วันแรกผ่านไปแบบโครตหฤโหด แต่พอเรียนจบคาบเพื่อนๆก็มารุมถาม พูดคุยกันหลังเลิกเรียนส่งเสียงดัง เอมิค่อยๆตอบเพื่อนทีล่ะคน คนเยอะมากเธอตอบไม่ค่อยทัน เธอและเพื่อนเปลี่ยนเบอร์โทรกันและนัดไปเที่ยวบ้านเพื่อนๆ เอมิได้เพื่อนเยอะแล้วในวันแรก “อา ดีใจจังเลยนะ คิดว่าจะแย่ซะแล้ว แต่ว่านะที่นี่ดีกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่าจะแย่กว่านี้ซะอีกนะ อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ลำบากใจ เรายิ่งเป็นลูกคนเดียว ถ้ามีอะไรหนักใจคุณพ่อกับคุณแม่ก็จะกังวลตามไปด้วย เรื่องในที่ทำงานก็สงสารคุณพ่อมากพอแล้ว ถ้าต้องคอยมากังวลกับเอมิอีก เอมิก็คงเป็นลูกที่แย่มากๆเลยล่ะหน่ะ” เอมิถอนหายใจดวงตาก็จ้องมองไปบนท้องฟ้า ท้องฟ้าที่นี่สวยไม่มีตึกบดบังมองไปทางไหนก็มีวิวที่สวยงาม บรรยากาศดีสายลมโชยมามีอากาศบริสุทธิ์ เอมิสูดลมหายใจเข้าปอด ซึมซับบรรยากาศดีๆในการมาเรียนวันแรกให้นานที่สุด เพื่อจะเก็บไว้เป็นความทรงจำตลอดไป ต่อจากนี้ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว เนอะเอมิ เอมิคุยกับตัวเองเรื่อยเปื่อยสลับมองลงไปในสนามฟุตบอล เสียงเป่านกหวีดดังขึ้น เสียงคนโห่ร้องตะโกนโวยวายทางนั้นคงเป็นวิชากิจกรรมชมรมล่ะมั้ง คงเป็นชมรมฟุตบอล เอมิมองไปเจอสายตาดุๆมองกลับมา เอมิมองไปอย่างสนใจต่อคนอื่นๆด้วย แต่ล่ะคนหน้าตาดีพอสมควรแต่ว่าเอะอะโวยวายจัง แต่เอมิก็คิดว่าเพื่อนผู้ชายพอเริ่มโตจะเริ่มมีบุคคลิกไม่สนใจใครแล้ว จะเริ่มมีบุคคลิกที่โดดเด่นชัดเจนมากขึ้นทุกคนๆก็มีความเป็นตัวของตัวเองล่ะน่ะ เอมิคิดในใจ มองไปที่สนามฟุตบอล แล้วก็มองลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมา เสียงเตะบอลดัง ตู้ม ตาข่ายเหล็กสั่นสะเทือน ดูแล้วเหมือนพลังงานเพื่อนๆนั้นเหลือเฟือมากๆเลย เอมิมองตามลูกบอลวิ่งข้ามสนามไปแรงๆ แล้วก็มีคนเตะกลับมาแรงๆ “สนุกดีเหมือนกันแฮะ ชมรมฟุตบอลที่นี่เก่งจริงๆเลย น่าสนใจมากๆอ่ะ “ เอมิยิ้มเบาๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD