บทที่ 3
เมื่อหันไปไม่พบใครหลงเหยียนถอนหายใจออกมาหนัก ๆ อีกครั้ง แม้จะเสียใจ แต่การหายออกมานาน ๆ แบบนี้คงไม่เป็นผลดีกับเส้นทางอาชีพของเธอในวันข้างหน้าเท่าไรนัก
แต่แผ่นหลังของหญิงสาวกลับรับรู้ความรู้สึกที่โดนกระแทก ร่างของหลงเหยียนร่วงลงไปที่ท้ายเรือและหายไปในห่วงทะเลลึก หญิงสาวพยายามต่อสู้กับเกลียวคลื่นที่ซัดเธอจนจมลงเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ
ความมืดมิดของท้องทะเลเข้ามาปกคลุมรอบกายหญิงสาวเมื่อเธอถูกคลื่นพัดพาให้จมลงไปเรื่อย ๆ ความหนาวเย็นจากน้ำทะเลทำให้ร่างกายเริ่มชา
แต่หัวใจยังคงเต้นแรงด้วยความตื่นตระหนก เธอมองเห็นแสงจาง ๆ จากผิวน้ำข้างบนที่ค่อย ๆ ห่างออกไป รู้สึกเหมือนแสงสุดท้ายของชีวิตกำลังเลือนหายไปกับความมืด
รอบตัวเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่แหวกว่ายผ่านไปมา เธอพยายามขยับร่างกายเพื่อว่ายกลับขึ้นไป แต่ดูเหมือนว่าพลังทั้งหมดของเธอกำลังถูกดูดออกไปจากความเย็นและแรงกดดันของน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว หูเริ่มไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นตุบ ๆ อย่างเบา ๆ จนกระทั่งในที่สุด ความมืดมิดและความเงียบสงบก็มาปกคลุมทุกสิ่ง เธอจมดิ่งลงไปในก้นทะเล ราวกับจะเป็นส่วนหนึ่งของความลึกและความเงียบของมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ความรู้สึกของเธอเป็นส่วนผสมระหว่างความกลัวและความสิ้นหวัง เมื่อสายตาเริ่มพร่ามัว ภาพรอบตัวกลายเป็นเงาราง ๆ ความรู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้างเข้ามาครอบงำ ทุกอย่างดูเหมือนจะห่างไกลออกไป เสียงหัวใจที่เต้นตุบ ๆ อย่างเบา ๆ เป็นสิ่งเดียวที่ย้ำเตือนว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่
เมื่อความมืดมิดและความเงียบสงบปกคลุมทุกสิ่ง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกลืนหายไปกับความลึกของมหาสมุทร ความหนาวเย็นแผ่ซ่านผ่านร่างกาย ความเจ็บปวดจากการต่อสู้กับคลื่นและน้ำทะเลเริ่มจางหาย แต่ความรู้สึกว่างเปล่าและสิ้นหวังกลับชัดเจนขึ้น
เธอรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากทุกสิ่งที่เคยมี
ราวกับว่าเธอกำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเงียบและความมืดของท้องทะเล ไม่มีเสียง ไม่มีแสง ไม่มีอะไรนอกจากความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ในหัวใจ ความทรงจำของคนรักและชีวิตที่ผ่านมาเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่ในความคิดของเธอ แม้ในขณะที่เธอกำลังจมดิ่งลงไปในความลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ภาพของหญิงสาวและเด็กชายในฝันปรากฏให้หลงเหยียนเห็นอีกครั้ง ชุดและเสื้อผ้าในแบบเดิม หน้าตาเหมือนเดิมอย่างที่เธอฝันเมื่อคืนก่อนและหลาย ๆ คืนก่อน
ถ้อยคำและภาพเรื่องราวที่ชัดเจนกว่าในฝันปรากฏให้กับหญิงสาวได้เห็นอีกครั้ง
สติที่เหลืออยู่ขาดห้วงพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย
แสงสว่างวาบไปทั่วทั้งผืนน้ำ
หลงเหยียนลืมตาขึ้นมากลางสายน้ำอย่างตื่นตระหนก เธอพยายามตะเกียกตะกายขึ้นสู่ผิวน้ำ ภายในใจเจ็บหน่วงราวกับว่าเธอได้สูญเสียบางอย่างไป เมื่อตะกายร่างขึ้นสู่ผิวน้ำได้เธอตะโกนจนสุดเสียงเพื่อให้คนบนเรือช่วย ร่างเงาบนหัวเรือทำให้เธอเห็นว่ามีคนอยู่ตรงนั้น
“ช่วยด้วยค่ะ”
ชายหนุ่มบนเรือกระโดดลงมาและว่ายตรงดิ่งมาหาเธอ มือหนารีบคว้าร่างบางเอาไว้แน่นราวกับว่าเธอจะหายไป
เงาใบหน้าที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจกั้นทำเอาหลงเหยียนจำต้องหันใบหน้าเลี่ยงความอุ่นร้อนที่ปะทะ เธอไม่กล้าโวยวายความใกล้ชิดนี้ เพราะอีกฝ่ายกระโดดลงทะเลมาช่วยเธอ
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยฉัน” หลงเหยียนหอบหายใจ พยายามกอบอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดเกาะเกี่ยวร่างหนาที่โอบกอดรอบเอวของเธอเอาไว้แน่น เมื่อสองเท้าแตะถึงพื้นเรืออย่างปลอดภัย
“เธอจำ…ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มเปลี่ยนคำถามในทันที ที่เห็นหญิงสาวตรงหน้าเงยมองเขาด้วยแววตางุนงง
“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ แต่หากไม่ได้คุณลงไปช่วย ฉันได้เป็นผีเฝ้าทะเลแน่ ๆ คืนนี้ ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ” เธอเอ่ยขอบคุณคนที่มีน้ำใจกระโดดลงไปช่วยเธอในทะล ต่อให้ว่ายน้ำเก่งแค่ไหน ทะเลยามค่ำคืนที่มืดและเชี่ยวกรากใครเลยจะเสี่ยงกระโดดลงไปช่วยคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อได้ “คุณชื่ออะไรค่ะ”
“ต้าลู่ หวงต้าลู่”
“คุณหวง ประธานบริษัท หวงอินดัสตรี จำกัด” หลงเหยียนตาเบิกโพลงเมื่อรู้ว่าคนที่เสี่ยงตายลงไปช่วยลากเธอขึ้นเรือมาคือใคร
ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้ารับ
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณหวง ฉันเป็นหนี้ชีวิตคุณจริง ๆ” หลงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
“ไม่เป็นไรครับ คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว” หวงต้าลู่ตอบเรียบ ๆ แต่ในแววตาของเขาเผยความอ่อนโยนออกมาอย่างชัดเจนเมื่อมองมาที่ใบหน้าหญิงสาวตรงหน้า
“แล้วทำไมคุณถึงกระโดดลงมาช่วยฉันได้คะ” หลงเหยียนถามด้วยความสงสัย
“ผมเห็นคุณตกลงไปจากเรือจากระยะไกล เลยไม่รอช้ารีบกระโดดลงมาช่วย” หวงต้าลู่ตอบ พร้อมกับสังเกตเห็นว่าหลงเหยียนยังคงสั่นสะท้านเล็กน้อย เขาจึงถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ” หลงเหยียนกล่าวขอบคุณอีกครั้งและยิ้มตอบสำหรับน้ำใจที่เขามีให้เธอ
“ไม่ต้องเกรงใจครับ” หวงต้าลู่ตอบพร้อมกับยิ้มกลับไป “ชุดคุณเปียกคงกลับไปในงานสภาพนี้ไม่ได้ ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องพักของผมก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวผมให้คนจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้”
“คุณหวงมีห้องพักบนเรือนี้ด้วยหรือคะ”
“แน่นอนครับ ก็เรือลำนี้ของผม คุณคงไม่คิดว่าศาสตราจารย์จางอาจารย์ของคุณเป็นเจ้าของเรือลำนี้หรอกนะ” หวงต้าลู่น้ำเสียงขบขัน
หลงเหยียนส่งยิ้มแหย ๆ ตอบ เธอไม่ได้คิดว่าอาจารย์ของเธอเป็นเจ้าของเรือหรูนี่หรอก
คิดว่าอาจารย์ใจป้ำยอมควักเงินเช่าเรือลำนี้เลี้ยงคณะ เพื่อจะอวดผลงานของหลานสาวของตน พอนึกถึงตรงนี้เธอก็เม้มปากแน่น ผลงานที่ควรจะเป็นของเธออาจารย์ยกให้ว่านหนิง จู่ ๆ ร่างบางก็ลอยหวือจากพื้น
“ว้าย คุณทำอะไรเนี่ย” หลงเหยียนตกใจเผลอเตะเท้าดีดดิ้น
“จุ๊ ๆ อย่าส่งเสียงดัง ถ้าไม่อยากให้ใครมาเห็นคุณในสภาพนี้ ผมเห็นคุณดูล้า ๆ เลยคิดว่าอุ้มไปที่ห้องพักจะได้ไวกว่า” เขาเอ่ยบอกด้วยความหวังดี สองขาแกร่งก้าวเดินอย่างมั่นคง ตรงไปยังห้องพักส่วนตัว ไม่สนว่าร่างบางในอ้อมกอดจะตอบรับหรือปฏิเสธ
หลงเหยียนจะอ้าปากบอกว่าเธอเดินเองได้ แต่ก็จำต้องเลยตามเลย
ระหว่างทางตากลมโตเห็นภาพตนเองในกระจกที่เดินผ่าน ชุดที่เธอใส่ไม่ใช่ชุดแฟนซีชุดเดิมและสีผมของเธอตรงส่วนโคนกลายเป็นสีดำ หลงเหยียนมองภาพสะท้อนนั้นด้วยความงุนงง