เพ้นท์เฮ้าส์
กว่าจะพูดคุยสารพัดเรื่องราวกับมารีนเสร็จ เด็กสาวก็รีบโทรตามบอดี้การ์ดของคู่หมั้นหนุ่มมารับ เวลาเดินไปถึงสองทุ่ม ท้องฟ้ามืดสนิทชวนว้าเหว่ หวนคิดถึงบรรยากาศตอนอยู่กับพ่อแม่ เสียงหัวเราะมีเรื่องให้เล่นมากมาย เมื่อหยุดหน้าประตูขาเรียวเขย่งขึ้นเพื่อให้ความสูง ได้ระดับพอดีในการสแกนใบหน้าปลดล็อค
แกร๊ก!
"ยังไม่มีใครกลับอีกหรอเนี้ย" ต่อให้เจ้าของกลับมาใช่ว่าจะสนใจอะไร ร่างอรชรถอนหายใจเฮือกใหญ่ วางกองหนังสือมุมเดิม บิดขี้เกลียดยืดเรียวแขน ตามด้วยก้มลงถอดส้นสูง กระโปรงทรงเอมักร่นขึ้นตรงสะโพกมน เนินสามเหลี่ยมปรากฏตาม หากสังเกตุใหม่อีกทีจะเห็นคนนั่งตรงโซฟาอยู่ก่อนแล้ว
"ถ้าเห็นอีกทีฉันจะไม่ปล่อยแล้ว" จู่ๆ เสียงคุ้นเคยก็ดันดังแทรกอิริยาบถ ชวนใบหน้าสวยหันเอนมอง
"อุ้ย!!!" ท่าทีเขินอายเร่งงาน แทบมุดหน้าลงพื้นหินอ่อนหนี นาเบลคว้าหยิบหนังสือขึ้นบังปกปิด ร่างกำยำเปิดเสื้อเชิ้ตโชว์กล้ามแผงอก ตัดกับมาดสุขุมดูมีเสน่ห์ มักชอบสูบบุหรี่หนักหน่วง ระบายความเครียดเกินวัยยี่สิบปลาย หัวใจก้อนน้อยเต้นระริก ไม่เคยเข้าใกล้ชายใดแล้ววูบไหว สูญเสียการเป็นตัวเอง
"ไม่ถอดเลยล่ะ"
"หนูใส่ยาวกว่าที่เดิมตั้งเยอะแล้วนะคะ" เธอไม่ได้สนใจถ้อยคำประชดประชัน เลือกมองข้ามเสียดีกว่า ครั้นจำได้ว่ารับปากไว้ จะนำเงินเหลือของเมื่อเช้ามาหยอดกระปุก มือบางพยามควานหาในกระเป๋า มุ่งเดินมานั่งใกล้คู่หมั้น ฉีกยิ้มหวานใสซื่อกลบเกลื่อน
"อะไร"
"เงินทอนค่ะ" เหลือเพียงแบงค์สีเขียวไม่กี่ใบ อย่างน้อยเธอก็ประหยัดใช้จ่าย หากไม่ติดไปกินร้านเจ้าประจำคงเหลือเยอะกว่านี้
"ไร้สาระ" ต้นไม้เบนหน้าหนี หันมองออกชมวิวยามค่ำคืน เคาะมวนบุหรี่ใส่ในถาดรอง มือบางเลยจำใจเก็บใส่คืนกระเป๋าสะพายตามเดิม
"ที่เป็นแบบนี้เพราะ พี่ไม้ไม่ชอบผู้หญิงใช่ไหมคะ" เพราะความอยากรู้แท้ๆ บังคับให้ต้องเอ่ยถาม เด็กสาวยิ่งเขยิบเข้าใกล้ นั่งพับเพียบบนโซฟา วางคางบนบ่ากว้างเอี้ยวมองผิวหน้าสาก เสียงถอนลมหายใจเบื่อหน่ายไม่อาจหยุดยั้ง เผลอทำสนิทสนมจนเกินงามระหว่างสตรีกับบุรุษ ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้เหมือนกัน
"ใครบอก" กลิ่นสารนิโคตินลอยล่อง สลับกับกลิ่นน้ำหอมชายดึงดูด จมูกเล็กเผลอสูดดมหลายครั้ง ลมหายใจรดกรอบหน้าสากครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าเขาดันไม่ปฎิเสธหนี แถมกระตุกยิ้มมุมปากชวนน่าสงสัย
"เอเดนบอกว่าคนในกลุ่มรู้ตั้งหลายคน" เกือบจะดีใจตรงที่คู่หมั้นหนุ่มกลายเป็นชายรักชาย ไม่ต้องปกปิดทำให้อึดอัดต่อกัน แต่เหมือนใจดวงน้อยก็แอบหวั่นเสียดื้อๆ สถานะต่อจากนี้เขาและเธอจะเป็นไปในทิศทางไหน
หมับ~~
"อ๊ะ!!!!!จะทำอะไรคะ" แขนแกร่งข้างนึงดันคว้าเอวบาง จับร่างอรชรขึ้นนั่งตักแกร่ง สะโพกมนกดทับสิ่งใหญ่โตเบื้องล่าง ถึงแม้จะยังไม่เคยเรื่องพวกนี้ แต่เธอก็ไม่ไร้เดียงสาเกินไปที่ไม่รู้ความหมายมัน แรงสั่นด้านจากก้อนเนื้อด้านซ้าย การันตีอาการหวั่นกลัวตอนนี้ มือหนายิ่งโอบล็อคหน้าท้องราบ แผ่นหลังแนบแผงกล้ามอก ครั้นดีดตัวลุกหนีก็ไม่ได้ หน้าสวยรีบเอียงถาม ในระดับปากแทบสัมผัสกัน
"ใช่ฉันไม่ชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่เอา"
"อะอย่า...ทำนะพี่ไม้...อื้อ..." มือใหญ่ลูบไล้ต้นโคนขาอ่อน สัมผัสหยาบละโลน พานเสียวท้องน้อยวูบวาบ ล้วงเข้าใต้กระโปรงนักศึกษาสาว สัมผัสเนินดอกไม้ผ่านสีผ้าชมพูอ่อนยั่วยวน นิ้วยาวล้วงเข้าด้านใน มือบางรีบปัดป่ายแม้ขัดขืนแรงชายไม่ได้
"เตือนไปแล้ว" น้ำเสียงเข้มกลั้นกระเซ้าใกล้กกหู นิ้วยาวบดขยี้ผิวเนื้อสาว กลิ่นหอมมวลดอกไม้เชื้อชวนกระตุ้นอารมณ์กามชาย แทรกเข้าทักทายรอยแยก แห้งสนิทเหมือนคับแน่นยากเกินยัดเข้า ลมหายใจร้อนซุกไซร้ซอกคอระหง ขบเม้มเป็นรอยตรงไรผมอ่อน
"หนูจะเจ็บ...พอแล้ว....อื้อ"
"อ่าสส" รสผิวเด็กสาวหวานหอม พึงพอใจอย่างมาก จับล็อคคางมนหันมากระแทกรับจูบ ท่าทีอ่อนหัดกระตุ้นอารมณ์เถื่อน ขบกัดรอบปากบาง แทรกลิ้นสากเข้าตวัดตวงน้ำหวานได้สำเร็จ แลกรสนิโคตินปานอาเจียน ดีดดิ้นขัดขืนไม่ได้ผล ยิ่งรัดร่างอรชรไว้แน่น ขยี้ส่วนล่างให้ทรมาน
"อึก!" กลับกลายเป็นเธอรู้สึกเจ็บแสบ ทั่วบริเวณกลีบเนื้อ ทั้งปวดร้าวเพราะพยามกระแทกเข้าร่องสวาท แต่ยังไงก็ไม่ได้อยู่ดี ผลตอบรับคือกลิ่นคาวเลือด น้ำตาหยดเป็นสาย จิกเล็บลงข้อมือใหญ่ระบาย
..............................
ใดใดคือเฮียไม้งานหยาบ 5555