ตอนที่ 2

1458 Words
ร่างของแม่ทัพหนีคดีหรือที่เรียกกันติดปากว่าบอสเมิ่งปรากฏกายขึ้นมาพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนจากระบบเป็นครั้งสุดท้าย ทันทีที่ผู้เล่นล็อกเป้าหมายได้ ก็ใช้ทักษะที่ร่ำเรียนมาทั้งหมดพุ่งโจมตีใส่ร่างนั้นทันที ส่วนอี้ฟานใช้ ทักษะเร้นกาย พุ่งเข้าโจมตีเป็นคนแรกด้วยความเร็วดุจแสง และตามด้วยทักษะร่ายรำฟันทะลวง ทำให้ดูเหมือนเธอกำลังร่ายรำอยู่รอบตัวบอสเมิ่งโดยมีกลีบดอกไม้ปลิวไสวอยู่รอบ ๆ แน่นอนว่าลำพังเธอคงไม่สามารถจัดการบอสเมิ่งได้ด้วยตัวคนเดียว แต่เพราะมีทุกคนคอยช่วยกันประสานโจมตี ในชั่วพริบตาหลอดเลือดสีแดงเกือบสิบล้านกลับกลายเป็นหลอดสีเทาโล่ง ๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวนเพราะความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงพร้อมกับเลือดเหลืออยู่แค่หนึ่งหน่วย ซึ่งทุกคนที่มาทำภารกิจต่างก็ลุ้นว่าระบบจะประกาศชื่อตัวเองหรือไม่ แม้แต่อี้ฟานก็ยังแอบหวังอยู่ลึก ๆ   [ระบบ] ผู้เล่นอี้ฟานสามารถกำราบแม่ทัพหนีคดีเมิ่งเซียงอวี้ได้สำเร็จ รับภารกิจส่งนักโทษกลับพรรคฝ่ายดำโดยอัตโนมัติ   อี้ฟานนิ่งค้างไปแล้วกับคำประกาศที่เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ตั้งแต่ทำภารกิจมาก็มีวันนี้เป็นวันแรกที่ระบบได้ประกาศชื่อของเธอ! “ฟานฟาน! เธอจับบอสเมิ่งได้!” เหมียนอ้ายเดินเข้ามาเขย่าตัวเธอด้วยความตื่นเต้น “ฉันล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ!” เยี่ยหลานเข้ามาร่วมวง ในขณะที่สติของอี้ฟานยังไม่กลับมาง่าย ๆ ระบบประกาศให้รู้โดยทั่วกันทั้งแผนที่ แน่นอนว่าทุกครั้งที่มีประกาศผู้โชคดี มักจะทำให้ช่องเวิลด์แชตกลับมาครึกครื้นทุกครั้ง [ฮองเต้ไร้ญาติ] อี้ฟาน! ใช่คนที่เป็นผู้ครองโสดตลอดกาลหรือเปล่า! เสียดายหุ่นเอ็กซ์ ๆ ชะมัด [ท้องฟ้ายามราตรี] รวยเละขนาดนี้ เอาเงินมาแบ่งกันมั่งสิน้องชาย! [กลางวันสดใส] เสี่ยวอี้ฟาน! ว่าง ๆ พาไปลงดันด้วยได้มั้ย! [สะใภ้สาม] หนูอยากได้พี่อี้ฟานเป็นสามีจังเลยค่ะ และอื่น ๆ อีกมากมายในเวิลด์แชตที่ทำให้สติของอี้ฟานเริ่มกลับมาเป็นปกติ เธอก้มมองเชือกป่านที่มาอยู่ในมือตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนเหลือบมองเจ้าบอสที่นอนหายใจพะงาบ ๆ รอคนมัดจับส่งห้องขังดังเดิม “ถ้าอย่างนั้นฉันเอาเจ้าบอสนี่ไปส่งที่พรรคฝ่ายดำก่อนนะ” อี้ฟานบอกกับสองสาวหลังลงมือมัดบอสเมิ่งด้วยตนเอง ท่ามกลางสายตาอิจฉาของคนนับร้อย “ก็ได้ ฉันก็ว่าจะไปเก็บสมุนไพรต่อเหมือนกัน” เหมียนอ้ายบอกพร้อมกับเรียกม้าสีดำของตัวเองออกมา เยี่ยหลานมองม้าของเหมียนอ้ายเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง “ใช่แล้ว! ม้าฉันตายนี่นา ฉันต้องไปชุบชีวิตมัน โอ๊ยตาย ระดับลดอีกแล้ว” เยี่ยหลานแทบจะทึ้งผมตัวเองเมื่อนึกถึงระบบสัตว์เลี้ยงสุดแสนจะโรคจิต แค่เธอไม่ได้เข้ามาให้อาหารม้าแค่สามวัน (เวลาจริง) เท่านั้น ออนไลน์มาอีกทีมันก็กลายเป็นม้าขึ้นอืดไปแล้ว ถ้าเอาไปชุบชีวิตระดับก็จะถูกลดลงถึงสามระดับ! คิดดูสภาพม้าระดับเก้าสิบที่ถูกลดระดับลง สามระดับที่ต้องใช้เวลาเก็บเป็นเดือน ๆ แค่คิดก็อยากจะร้องไห้แล้ว! อี้ฟานส่ายหน้าขำให้กับท่าทางโก๊ะกังของเยี่ยหลาน เพราะบทลงโทษแสนโรคจิตของเกมทำให้เธอต้องออนไลน์ทุกวันเพื่อให้อาหารสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่เลี้ยงไว้ หากไม่สามารถเข้ามาได้ก็ต้องฝากอาหารไว้หลายเท่า และจะไม่ยอมปล่อยให้พวกมันต้องหิวโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเจ้าหมอกสัตว์เลี้ยงตัวแรก ม้าคู่ใจที่เธอรักมากจนสามารถเป็นเพื่อนคู่กายยามเหงาให้เธอได้ “ฉันไปก่อนนะ” อี้ฟานบังคับบังเ**ยนไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคฝ่ายดำ โดยลากเจ้าบอสเมิ่งที่นอนไม่ได้สติไปอย่างทุลักทุเล สภาพเจ้าบอสเมิ่งที่ถูกลากด้วยม้าจะว่าน่าสงสารก็น่าสงสาร แต่ส่วนใหญ่ผู้คนจะสมเพชมากกว่า เพราะถ้าหากเจ้าตัวไม่แหกคุกออกมาทุกวัน ก็คงไม่ต้องกลับคุกในสภาพนี้เช่นนี้ อี้ฟานควบม้าผ่านป่าไผ่มาด้วยความเร็วสูง แม้เจ้าหมอกจะต้องแบกร่างไร้สติของคนแหกคุกมาด้วยก็ไม่ทำให้ความเร็วลดลงแต่อย่างใด เส้นทางข้างหน้าเริ่มคดเคี้ยวมากขึ้น บรรยากาศก็วังเวง เงียบสงัดจนขนอ่อนลุกชันไปทั้งตัว ร่างเย้ายวนก้าวลงจากหลังม้าอย่างสง่างาม มือบางจับคันร่มไว้แน่นพร้อมกวาดสายตามองรอบข้างด้วยความระแวง ตั้งแต่เล่นเกมมานานถึงหนึ่งปีเธอยังไม่เคยเข้ามาในเขตพื้นที่ของพรรคฝ่ายดำเลยสักครั้ง ว่ากันว่าพื้นที่พรรคสี่สี ได้แก่ สีดำ สีขาว สีแดงและสีน้ำเงิน เป็นเขตพื้นที่ต้องห้าม มีเพียงตัวละครในเกมที่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ หรือยกเว้นให้กับผู้เล่นที่มีภารกิจเท่านั้นถึงจะผ่านเข้ามาได้ เท่าที่เธอคิดไว้ บางทีพื้นที่ฝ่ายอาจจะยังไม่ถึงเวลาเปิดให้ใช้งาน ในเมื่อระบบสงครามชิงดินแดนฝ่ายของแผนที่ใหม่นั้นยังไม่มีกำหนดการณ์อัปเดต อี้ฟานเดินจูงเจ้าหมอกไปเรื่อย ๆ เหมือนเดินวนอยู่ในป่ามืดทึบเต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ หูของเธอได้ยินเสียงบางอย่าง แม้จะเบามากแต่ด้วยทักษะของนักฆ่าที่เธอเรียนมาทำให้รู้ว่ารอบ ๆ ตัวเธอนั้นมีคนอยู่ พวกเขาอยู่ในระบบของการซุ่มโจมตี หญิงสาวตั้งสมาธิเพื่อจับสัมผัสการเคลื่อนไหวรอบกาย ห้า? หก? ไม่สิ มากกว่านั้น สักสิบคนได้ อยู่บนต้นไม้ข้างหน้าและข้างหลัง ทั้งสองข้างซ้ายขวา ตำแหน่งที่บอกว่าเธอเดินเข้ามาในกับดัก กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเกินไป อี้ฟานหยุดอยู่กับที่เพื่อเตรียมตัวตั้งรับการโจมตี เธอไม่รู้ว่าระบบสร้างตัวละครเหล่านี้มาแข็งแกร่งแค่ไหน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้เล่นระดับสูงในเกม อีกทั้งยังมีชุดป้องกันและอาวุธขั้นสูง แต่ก็เคยแพ้ในการดวลเดี่ยวกับตัวละครในระดับเหรียญทองมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่ามันเป็นแค่โปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นและเธอสามารถเอาชนะมันได้ แต่เหตุการณ์นั้นทำให้เธอคิดได้ว่าบนโลกใบนี้ทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน ยอดฝีมือก็สามารถพ่ายแพ้ให้กับระบบคอมพิวเตอร์ได้เหมือนกัน ความเงียบเป็นการก่อกวนประสาทที่ดีที่สุด ถ้าเป็นตอนเริ่มเล่นแรก ๆ อี้ฟานคงสติหลุดไปนานแล้ว เปลือกตาค่อยปิดลงช้า ๆ พร้อมกับเปิดประสาทสัมผัสอย่างอื่นแทน เสียงลมพัดไหว เสียงใบไม้ปลิว เสียงฝีเท้าย่ำก้าว และกลิ่นดินปืน เคลื่อนที่เข้ามาใกล้! ฟึบ! อี้ฟานใช้ ทักษะเร้นกายมายา สะบัดร่มคลุมกายอย่างรวดเร็วจนหายไปทั้งร่างทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันและกลีบดอกไม้ไหว ก่อนจะไปโผล่ข้างหลังของผู้มาเยือน ปลายมีดกดลงบนคอหนาของชายชุดดำข้างหน้า หางตาตวัดมองเร็วเมื่อมีผู้ร่วมขบวนการอีกคนปรากฏกาย ปลายดาบสั้นอีกข้างตวัดพาดคอของคนข้างหลังเธออย่างรวดเร็ว แต่สองมือมีหรือจะสู้สิบร่าง เมื่อเจ้าของคมดาบนับสิบปรากฏตัว! อี้ฟานเหงื่อตก เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิด! คนพวกนี้ล้วนเป็นทหารฝีมือดียากจะต่อกร เพียงแค่บรรยากาศความกดดันที่ได้รับก็ทำให้รู้โดยอัตโนมัติว่าไม่อาจสู้ไหวเพียงลำพัง ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่เกิด หญิงสาวพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่คิดหาทางออกให้ตัวเอง คิดแล้วเชียวว่าเงินสามล้านตำลึงไม่มีทางได้มาง่าย ๆ เงื่อนไขภารกิจสุดจะโรคจิตพวกนี้ก็มักจะไม่มีคำอธิบาย ปล่อยให้ผู้เล่นต้องคิดหาคำตอบเอง ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ จะใช้กำลังเข้าสู้ก็ดูจะเป็นการฆ่าตัวตายเสียมากกว่า มีสมองก็ต้องคิด มีปากก็ต้องพูด!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD