"นายพาฉันมาคอนโดฯ นายทำไม?"
หลังจากวิ่งตามกิเลนมาขึ้นลิฟต์ที่เขากดรอไว้เสร็จเลยเอ่ยถามเสียงขุ่น
ที่รู้ว่านี่คือคอนโดฯ ของกิเลนเพราะข้อความที่ติดอยู่หน้าลิฟต์
'สำหรับวีไอพีเท่านั้น' ถ้าหมอนี่ไม่ได้เช่าห้องอยู่ที่นี่คงใช้งานลิฟต์ตัวนี้ไม่ได้แน่ๆ
อ้อ สงสัยเหรอว่าเป็นเพื่อนกันทำไมจะไม่รู้ว่านี่คือคอนโดฯ เขาตั้งแต่แรก?
เพราะกิเลนชอบย้ายที่อยู่บ่อย ๆ ก่อนหน้าเขาอยู่นู้น... แถวดอนเมือง
แต่ไม่รู้ว่าย้ายมาอยู่ตรงนี้นานหรือยังเพราะฉันไม่ค่อยได้ขึ้นคอนโดฯ ใครบ่อย ๆ ยกเว้นคอนโดฯ เฮียราชย์ญาติตัวเอง
"สบายใจได้ ฉันไม่พาเธอมาต่อจากเมื่อคืนแน่นอน"
ดูปากหมอนี่เอาแล้วกันว่าเขาสมควรที่จะให้ฉันปรี๊ดแตกใส่หรือเปล่า
เพียะ!!
ไม่พูดแล้ว ขี้เกียจเปลืองน้ำลาย มือน้อย ๆ นี่แหละ ฟาดลงต้นแขนกำยำเขาซะเลย แต่เหมือนแรงฉันจะไม่สะทกสะท้านอะไรร่างกายหมอนี่เลยแฮะ
ดูดิ! มาทำเมินฉันอีก
"นี่นายพักบนหอคอยหรือไงเมื่อไหร่จะถึง"
หลังจากสงบศึกกันแล้ว ฉันก็ยืนมองตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ๆ จนทนรอไม่ไหวเพราะไม่ถึงสักที เหนื่อยก็เหนื่อย ง่วงก็ง่วง แถมรู้สึกเหมือนจะวูบให้ได้ สงสัยจะหิวข้าว
ทำไมต้องพาฉันมาทรมานขนาดนี้นะไอ้เพื่อนบ้า! พาลแม่งเลย...
ถ้าไปส่งฉันที่คอนโดฯ ฉัน ป่านนี้ได้นอนพักเอาแรงไปหลายงีบแล้วเถอะ
ติ๊ง!!
ในที่สุดเสียงลิฟต์ก็เปิดจนได้ ฉันเงยหน้ามองตัวเลขสีแดงที่อยู่บนหัว ปรากฏว่านี่คือชั้น 35 จากห้าสิบชั้น
"ทำไมนายไม่พักชั้นบนสุดไปเลย" เหนื่อยไงเลยของพาลสักหน่อย
"อืม น่าคิดนะ บนสุดน่าจะวิวดี" รีบหันกลับไปกรอกตามองบนใส่กิเลนทันที
"ประชดเถอะ!" เผื่อสมองหมอนี่จะช้าจริงเลยบอกให้รู้ตัวไปตรง ๆ ซะเลย
"อ้าว นึกว่าแนะนำ" รอยยิ้มกวนประสาทผุดขึ้นเล็กน้อย
ฟู่... พอเถอะแยมโรล แกไม่สมควรที่จะคุยกับไอ้คุณเพื่อนกิเลนคนนี้ต่อไป
ถึงห้องเขาเมื่อไหร่ สิ่งที่ฉันจะทำอันดับแรกคือเข้าห้องนอนหมอนี่แล้วลงกลอนอย่างดีเพื่องีบสักงีบแล้วค่อยเฉดหัวเขาทิ้งแล้วกลับคอนโดฯ ตัวเอง
ไม่รู้ว่าฉันเผลอหลับในห้องของกิเลนไปนานแค่ไหน ตอนนี้เริ่มสะลึมสะลือรู้สึกตัวเพราะจมูกได้กลิ่นหอมของอะไรสักอย่าง
"อืม" สองจิตสองใจมากตอนนี้ว่าจะตื่นหรือนอนต่อเพราะมันทั้งง่วง แต่ท้องก็ดันมาร้องหิวเพราะไอ้เจ้ากลิ่นหอม ๆ นี่อีก
สวบ!! สุดท้ายจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนเพราะทนเสียงร้องเรียกของน้ำย่อยในกระเพาะไม่ไหว
แกร๊ก... แอ๊ดดด
ครั้นเปิดประตูออกมา กลิ่นหอม ๆ ของกระเทียมที่ถูกทอดหรือผัดในน้ำมัน ยิ่งลอยมาเตะจมูกเข้าไปใหญ่
"ทำอะไรอะ?" ขาเรียวยาวก้าวเดินตามกลิ่นหอมของอาหารจนมาถึงห้องครัว
พ่อบ้าน ไม่สิ ก็แค่ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งหัวสีเงินสวมเสื้อยืดแขนยาวแล้วถลกพันครึ่งแขน บนตัวมีผ้ากันเปื้อนสีกรมท่าไม่มีลายสวมทับอยู่ ในมือซ้ายถือกระทะส่วนมือขวาถือตะหลิวกำลังผัดอะไรสักอย่างด้วยความคล่องแคล่ว
"ไหนบอกจะนอน นี่ยังไม่ถึงสิบนาทีเลย"
ฉันเอียงคอมองกิเลนอย่างสงสัยที่บอกว่าฉันเข้าไปงีบในห้องเขาทันทีที่มาถึงแต่ยังไม่ถึงสิบนาที
"ก็ใครใช้ให้นายมาทำกับข้าวตอนฉันนอนล่ะ!" หงุดหงิดอีกแล้ว นอนก็นอนไม่เต็มอิ่ม แถมยังจะมาถูกประชดจากไอ้เพื่อนบ้านี่อีก เหมือนหน้าแตกอะ เคยเป็นป้ะ?
"เอ้า อุตส่าห์จะทำให้กินโดนบ่นอีก งั้นเดี๋ยวเอาไปฝากพี่แต้วข้างห้องก็ได้"
ดูปากเขาสิ แค่ประชดนิด ๆ หน่อย ๆ ถึงกับจะเอาอาหารที่น่ากินนั่นไปให้สาวข้างห้อง "เออ เอาไปเลย! กิ๊กนายย่อมสำคัญกว่าเพื่อนอย่างฉันสินะ"
งอนแบบไม่มีสาเหตุเลยแยมโรลเอ้ย!
"กิ๊ก?" กิเลนหันกลับมาพร้อมกระทะที่มีข้าวผัดกระเทียมส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอมาตักใส่จานทีละจาน
"ไม่ต้องมาสร้างภาพ ฉันไม่ปากโป้งไปบอกกิ๊กคนอื่น ๆ ในสต็อกนายหรอก"
กิเลนเป็นคนหล่อ เฟรนลี่ แถมเจ้าชู้โคตร ๆ ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักหมอนี่มาเกือบจะห้าปี (โห.. นานเหมือนกันนะ) นั่นแหละ
ตั้งแต่รู้จักกิเลนและลัคกี้เพื่อนในกลุ่มเฮียราชันย์มาเกือบห้าปี ฉันก็เห็นหมอนี่เปลี่ยนสาวไม่ซ้ำหน้า เจ้าชู้โคตร ๆ แต่สับรางเก่งจนฉันนับถือ
ต่างจากลัคกี้ หมอนี่เจ้าชู้จริง เจ้าชู้แบบออกหน้าออกตาแบบไม่เกรงใจใคร
"เดี๋ยว ๆ นี่เธอเห็นเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหนกัน" กิเลนตักข้าวผัดกระเทียมใส่จานสองจานเสร็จเรียบร้อยแล้วเอ่ยถามฉัน
ดูสิ หมอนี่ไม่ได้กะจะให้ฉันกินจริง ๆ ด้วย ตักสองจานแบบนี้ จานนึงต้องของเขา ส่วนอีกจานต้องเป็นของผู้หญิงข้างห้องที่ชื่อแต้วแน่ ๆ
"แบบนี้แหละ!" กอดอกทำปากเบะอย่างงอน ๆ
"แยมโรล เลิกทำหน้าแบบนั้นแล้วหันมาพูดกันดี ๆ"
ชิ! ไม่ต้องมาทำเสียงเหมือนรู้สึกผิด ฉันไม่มีสิทธิ์งอนหรือโมโหนายอยู่แล้วนี่
ห้องนี้ก็ห้องนาย ข้าวในจานก็ของนาย แถมนายเป็นคนทำอีก จะแบ่งใครก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธนายทั้งนั้นแหละ
"แยมโรล" กิเลนเรียกฉันด้วยเสียงค่อนข้างออกโทนต่ำเหมือนเอือมระอา
"ฉันกลับล่ะ" เซ็งอะ อุตส่าห์แบกสังขารตื่นมาเพื่อที่จะโดนฉีกหน้าเนี่ยนะ
ไม่น่ายอมขึ้นรถมากับเขาตั้งแต่แรกเลยจริง ๆ
"เดี๋ยว!"
หมับ!!
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉันหันหลังเตรียมจะเดินไปเอาข้าวของในห้องเขาเพื่อกลับบ้าน มือหนาของกิเลนดันคว้าข้อมือไว้ได้ทัน "นี่เป็นอะไร?"
คิ้วดกดำขมวดมุ่น ฉันไม่ตอบแทบจะไม่แยแสมองหน้าหมอนี่ด้วยซ้ำไป
"ฉันว่านายเลิกสนใจเพื่อนคนนี้แล้วเอาข้าวไปนั่งกินกับสาวข้างห้องนายให้สบายใจดีกว่า ฉันเหนื่อย ฉันอยากกลับห้อง"
จริง ๆ อยากต่อท้ายว่า 'หิว' มากกว่า แต่ไม่อยากทำตัวเหมือนคนตะกละเที่ยวขอข้าวคนอื่นกินไปทั่วแบบนี้
"อ้อ นึกว่าเป็นอะไร ที่แท้ก็งอนที่ฉันบอกจะเอาข้าวไปให้พี่แต้วนี่เอง"
ไม่ต้องมาทำหน้าล้อเลียนฉันเลย
"ป้ะ งั้นเดี๋ยวพาไปรู้จักพี่แต้วกัน" กิเลนที่ยังจับข้อมือฉันอยู่พยายามดึงให้ฉันเดินตาม แต่โทษที แยมโรลคนนี้ไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็น ยิ่งคนไหนที่เป็นกิ๊กนาย ยิ่งไม่อยากเจอ ขี้เกียจเดือดร้อนทีหลังเวลารถไฟชนกันแล้วเอาฉันไปเอี่ยวขอความช่วยเหลือ
"ไม่! ฉันไม่อยากรู้จักพี่แต้วอะไรของนาย ปล่อยมือฉัน ฉัน จะ กลับ ห้อง!!"
เน้นอย่างชัดถ้อยชัดคำท้ายประโยค แต่ดูเหมือนกิเลนจะไม่สนใจคำพูดฉันสักนิด หมอนี่มองเข้ามานัยน์ตาฉันราวกับกำลังออกคำสั่งด้วยเวทน์มนต์อะไรสักอย่าง
"จะได้เลิกคิดเลอะเทอะไปเองสักที" ถึงกับอ้าปากพะงาบ ๆ ด่าเขาในใจ
เอะอะก็ว่าฉันอย่างนู้น อย่างนี้ หมอนี่เกิดมาเพื่อเป็นคู่กัดกับฉันจริง ๆ สินะ
สุดท้ายฉันก็ขืนแรงผู้ชายตัวโตอย่างกิเลนไม่ไหว เขาลากฉันมายืนอยู่หน้า
ห้อง ๆ หนึ่ง ที่อยู่ติดกับห้องเขา ถ้าให้เดาคงเป็นห้องผู้หญิงที่ชื่อแต้วแน่ ๆ
โห... นี่ห้องติดกันด้วย นายยังแอบกินกันได้ลงเชียว ถ้าขืนวันไหนเลิกกันจะไม่ถึงขั้นย้ายคอนโดฯ กันเลยหรือไง