LM Studio , 11.25 AM.
"สวยครับ เอียงข้างสองนาฬิกา"
แช๊ะ แช๊ะ!!
"ทีนี้หมุนกลับมา เชิดหน้าขึ้น เอียงสี่สิบองศา ดีมากครับ"
แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ!!
"เดี๋ยวย้ายไปนั่งไขว่ห้าง เอาแบบที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุดนะครับ"
"ดีครับ แบบนั้นแหละครับ"
"โอเค เยี่ยมมาก น้องแยมนี่มืออาชีพจริง ๆ สวยทุกรูปเลย"
หลังจากถ่ายแบบชุดเดรสแบรนด์นำเข้าจากปารีสเสร็จ พี่ดนัย ช่างภาพของ
costumeวันนี้ก็เอ่ยชมฉันไม่ขาดปาก
"ขอบคุณค่ะ เพราะได้ช่างภาพฝีมือดีอย่างพี่ดนัยร่วมงานด้วยมากกว่า"
ถึงจะเห็นฉันเวลาอยู่กับเพื่อนเหมือนคนไร้สาระ แต่เวลางานฉันจริงจังและรู้มารยาทของสังคมดี
"เหนื่อยมั้ยแยม" ลูกหว้าเดินมาถามพร้อมน้ำสตอเบอรี่ปั่นของโปรดฉัน
"ไม่เท่าไหร่ ดีนะที่พวกพี่ ๆ ทีมงานเขายอมมาถ่ายที่สตูฯ หว้าน่ะ"
ได้ดื่มของโปรดเย็น ๆ แล้วมันกระชุ่มกระชวย
จริง ๆ งานถ่ายแบบวันนี้ต้องถ่อกันไปถ่ายที่ริมทะเลเพื่อให้เข้ากับชุดเดรสบางเบาเวลาต้องลมทะเลแล้วพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ
แต่อย่างที่รู้เมื่อคืนฉันดริ้งค์หนักไปหน่อยเลยขับรถไปไม่ไหว ดีที่เจ๊เอมี่ผู้จัดการส่วนตัวผู้น่ารักช่วยเคลียร์ทีมงาน แล้วแนะนำสตูดิโอถ่ายภาพของเพื่อนรักฉันที่มีพร้อมทุกอย่าง พี่ ๆ ทีมงานเขาเลยยอมถ่ายทำที่นี่
"แล้วเจ๊เอมี่ไปไหนอะ"
ฉันไม่เห็นผู้จัดการส่วนตัวมาสักพักตั้งแต่เริ่มถ่ายชุดที่สองแล้ว
"เห็นออกไปรับโทรศัพท์นะ แต่นี่ก็นานแล้วนะ" ลูกหว้าชะเง้อมองไปทางประตู
เจ๊เอมี่ที่ว่าเธอเป็นสาวประเภทสองแต่หุ่นแซ่บมาก ใบหน้าก็สวยเหมือนผู้หญิง นี่ถ้าอายุไม่เข้าเลขสามปลาย ๆ ฉันว่าเธอถ่ายแบบได้เลยแหละ
"เดี๋ยวคงมาแหละ" พึมพำก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเข้าแอปฯ สีฟ้า
กึก... มือฉันหยุดชะงักเมื่อเจอสเตตัสหนึ่งที่ตั้งค่าให้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น
พออ่านสเตตัสนั้นเสร็จความสั่นเทาเริ่มทำฉันหายใจหอบหืด มือกำโทรศัพท์มือถือเคสสีชมพูฟรุ้งฟริ้งแน่นจนอยากจะบีบให้แตกละเอียด
Arlongkron tharnnarongphaisarn : 15 นาที : เพื่อนเท่านััน
'เมื่อคืนโดนคนบ้าขโมยจูบ ดูสิ ปากบวมเลย'
แค่สเตตัสสั้น ๆ ที่พิมพ์คงกลัวคนไม่เห็นภาพ หมอนั่นเลยถ่ายรูปใบหน้าครึ่งซีกตั้งแต่สันจมูกช่วงปลาย ลงต่ำมาจนถึงปลายคางคมสัน
ไหนบอกว่าให้ดูปากบวม ที่แท้ก็แค่จะล่อเหยื่อสาว ๆ ที่เป็นเพื่อนกับตัวเองมาคอมเม้นท์สิท่า มือที่สั่นเทารอไม่ไหว กดออกจากแอปฯ ที่ใช้งานอยู่ เข้าไปเมนูรายชื่อแล้วเลื่อนหาเบอร์ ๆ หนึ่งที่ฉันบันทึกว่า 'หมาบ้ากิเลน' กำลังโทร...
แนบหูรอสัญญาณโทรศัพท์อยู่สามสี่ตู๊ดก็ไร้คนรับสาย แต่เสียใจ นี่คือแยมโรล โทร.ครั้งเดียว ไม่รับไม่ล้มเลิก!!
ตู๊ดดดด...
ฉันกดโทร.ครั้งที่สอง รอปลายสายรับอย่างจดจ่อ นี่ถ้าเขาไม่รับสายอีกเจอฤทธิ์แยมโรลคนนี้แน่นอน
[ฮัลโหล] หึ! ในที่สุดก็รับสายสักทีนะไอ้หมาบ้ากิเลน
"นึกว่าตายซะแล้ว" ฉันแว๊ดใส่ทันทีที่เพื่อนอีกกลุ่มรับสาย
[เธอเองเหรอ?] เสียงเหมือนคนงัวเงียถามกลับ
อะไรของหมอนี่ เพิ่งโพสต์สเตตัสลงไปแค่สิบกว่านาทีหลับต่อเลยเหรอ ฉันล่ะเชื่อเลย อ้อ ลืมไป กิเลนเป็นพวกนกเค้าแมว ออกหากินกลางคืนเพราะเขาเปิดคลับเข้าหุ้นกันกับเพื่อนในกลุ่มที่ชื่อ 'ลัคกี้' และคลับที่ว่าก็คลับเดียวกับไอ้คลับเมื่อคืนที่ฉันเมาหัวราน้ำนั่นแหละ
"ไปลบโพสต์ล่าสุดนายออกเดี๋ยวนี้!" ฉันเดินปลีกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ที่ริมระเบียงด้านนอกสตูดิโอ ปล่อยให้ลูกหว้าจัดการสตูดิโอถ่ายภาพของเธอต่อ
[โพสต์ไร อันไหนวะ!?] คนถูกสั่งทำเหมือนคิดแล้วก็หัวเสียเมื่อคิดไม่ออก
"ก็รูปทุเรศ ๆ ของนายไง" พยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อไม่ให้ปรี้ดแตกหนักกว่าที่เป็นอยู่ [รูปที่ฉันลงไม่มีรูปไหนทุเรศเลยสักรูป]
ได้ยินแล้วถึงกับแหวะออกมา ช่างมั่นหน้า มั่นปากจริง ๆ พ่อคุณ
ยอมรับว่า 'กิเลน' หรืออีกชื่อคือ 'กิล' เพื่อนอีกกลุ่มที่ฉันรู้จักผ่านเฮียราชันย์ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับฉันน่ะเขาหล่อ รวย โพรไฟล์ดี แต่เสียอย่างเดียว ปากหมา ปากจัด
ซึ่งสองข้อหลังมันทำให้เราสองคนแทบจะไม่ถูกกัน
"ทุเรศทุกรูป" หมั่นไส้น่ะ [แน่ใจว่าทุเรศ ให้พูดอีกที]
ตอนนี้รู้สึกเหมือนเสียงเขาจะเป็นปกติกว่าตอนแรกที่รับสาย
"อย่าพาออกทะเล นายรีบ ๆ ไปลบไอ้โพสต์ทุเรศ ๆ ที่ทำให้คนอื่นเสื่อมเสียเดี๋ยวนี้!" ฉันขึ้นเสียงใส่เขาจนต้องมองหน้ามองหลังว่าเสียงดังรบกวนห้องสตูฯ อื่น ๆ หรือเปล่า
[ฉันโพสต์อะไรเธอจะเดือดร้อนทำไม]
[ทำอย่างกับว่าคนที่ขโมยจูบฉันคือเธองั้นแหละ]
จึก... ถึงกับสะอึกเมื่อถูกย้อนกลับมา
จำได้ไหมเมื่อคืนที่ฉันบอกว่าฉันจำกลิ่นของผู้ชายคนนั้นที่ขโมยจูบฉันได้ดีน่ะ
ไม่ผิดหรอกที่ฉันจะเฉลยว่าคน ๆ นั้น คือไอ้เพื่อนอีกกลุ่มที่สนิทกันที่อยู่ในสายตอนนี้ หลังจากที่ฉันตื่นมาเมื่อเช้าพร้อมสติที่ดีขึ้น ฉันรู้สึกว่าในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่สวมไปเมื่อคืนมีอะไรบางอย่างถูกหย่อนใส่ไว้
พอล้วงออกมาดูถึงเห็นว่ามันเป็นแหวนรูปหมาป่าตัวเล็ก ๆ ที่เป็นไซซ์ผู้ชายใส่และฉันก็คุ้นกับแหวนวงนั้นดีเพราะมีเพียงคนเดียวในกลุ่มที่สวมมัน
ใช่...กิเลนนั้นแหละ ถ้าถามว่าพอรู้ความจริงว่าเป็นคนรู้จักที่เมื่อคืนเรา...
เออ นั่นแหละ ที่ฉันทำไปเพราะเมาแล้วรู้สึกยังไง บอกเลยว่า แย่!!
ฉันรู้สึกแย่มาก และฉันคิดว่ากิเลนก็รู้ว่าเมื่อคืนคือฉันไม่งั้นหมอนั่นไม่กล้าเอาแหวนของตัวเองยัดใส่กางเกงฉันเพื่อบอกตัวตนของเขาแบบนี้หรอก
เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกล เมื่อคืนมันเกิดเพราะความเมา ฉันกับหมอนั่นไม่ได้มีซัมธิงอะไรเกินกว่าคำว่า 'เพื่อน' แน่นอน
"นายอย่ามาเล่นลิ้น ฉันรู้ว่านายรู้ดี"
ปลายสายเงียบไป แต่หูฉันดี ฉันได้ยินเสียง 'หึ' ดังลอดผ่านปลายสายออกมาเบา ๆ คงสะใจมากสินะที่ทำให้แยมโรลคนนี้เดือดได้
[โทร.มาแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะนอน]
นึกแล้วแหละว่าหมอนี่ต้องกวนประสาทไม่ยอมทำตามที่ฉันบอกแน่ ๆ
"ห้ามวาง!!" ฉันตะคอกเสียงลงไปอย่าหมดความอดทน
[เป็นแม่?] แม่ไม่ได้เป็นโว้ย!!
"นายจะลบโพสต์นั้นดี ๆ หรือจะให้ฉันแฉคืนที่นายโกงที่สนามเฮียราชย์"
หึ! มุมปากฉันยกสูงเมื่อความลับของกิเลนถูกฉันล่วงรู้เข้าแล้ว
[โกงอะไร คนอย่างกิเลนไม่เคยเล่นลูกไม้]
ฉันทำปากเบี้ยวทันทีที่ได้ยินคำพูดทุเรศ ๆ นั้น
นอกจากเขาจะเปิดคลับแล้ว เวลาว่างกิเลนมักจะลงแข่งรถที่สนามเฮียราชันย์ลูกพี่ลูกน้องฉันแก้เบื่อ แต่โชคดันดีที่เขามีความสามารถด้านนี้เลยทำให้กลายเป็นคนดังระดับสามของสนามแห่งนั้น
"วันที่ 17 รอบคัดเลือกตัว”
“มีใครบางคนจ้างเด็กในสังกัดสลับตัวกับตัวเองไปแข่งแทน"
[เธอ!!]"
“หึ จำได้แล้วเหรอ ทีนี้มายื่นหมูยื่นแมวกันดีกว่า นายไปลบโพสต์นั้นทิ้ง ฉันก็จะลบเมมโมรี่เรื่องนี้ออกจากสมอง"
เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเจ้าแม่ผู้หยั่งรู้อย่างแยมโรล จริง ๆ เรื่องที่ฉันแบล็คเมล์กิเลนไปเมื่อกี้รู้มาจากเฮียราชย์อีกทีน่ะ
[ไม่แฟร์ มีที่ไหนลบเมมโมรี่ในสมอง ฉันไม่ใช่เด็กสองขวบ]
เออ นายไม่ใช่เด็กสองขวบจริง ๆ นั่นแหละ เพราะไม่งั้นนายคงทำตามที่ฉันบอกไปแล้ว "นี่กิล!!" ฉันเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้วนะ
เวลาอารมณ์ไม่ดีทีไรจะชอบเรียกเขาด้วยชื่อสั้น ๆ แบบนี้
[ครับผม] ยังจะมากวนประสาท
"ฉันแค่ขอร้องให้นายลบโพสต์นั้นออกมันยากตรงไหน"
[ก็... ไม่ยาก]
"งั้นก็ลบสิ"
[ไม่อะ นั่นมันหน้าเฟซฯ ฉัน ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน]
"..." ถึงกับพูดไม่ออก ยืนกำมือแน่นอย่างนิ่ง ๆ
[เธอจะเดือดร้อนอะไรนักหนาแยมโรล ในเมื่อฉันไม่ได้ติดชื่อเธอลงบนสเตตัสฉันสักหน่อย] โอเค ฉันรู้ว่าหมอนี่กำลังด่าว่าฉันร้อนตัว
เขาพูดถูกที่ไม่มีใครรู้ว่าคนที่เขาโพสต์ลงหมายถึงฉัน
แต่แล้วไง? คนอื่นไม่รู้แต่ฉันรู้ และมันก็จี๊ดทุกครั้งที่หวนนึกถึงเรื่องคืนนั้น
[ถ้าไม่มีอะไรแล้วของีบต่อสักสิบห้านาทีเดี๋ยวไปรับ]
"รับ? นายจะไปรับใคร?"
[ก็เธอไง]
"ใครใช้?"
[ไม่มี แต่ฉันรู้ว่าวันนี้เธอติดรถเจ๊เอมี่ไปทำงาน และตอนนี้เธอก็กำลังเจอเรื่องลำบากเพราะผู้จัดการส่วนตัวเธอหายไป]
เห้ย! หมอนี่รู้ได้ไงอะ ถึงว่า ลูกหว้าบอกว่าเจ๊เอมี่ออกมาคุยโทรศัพท์นานแล้วแต่ไม่ยักกลับเข้าไปในสตูดิโอสักที ที่แท้เจ๊แกก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนี่เอง
[รออยู่นั่นแหละ ขออาบน้ำแปบ]
"เดี๋ยว!..." ยังไม่ทันจะได้แย้งอะไร ไอ้บ้ากิเลนก็ตัดสายทิ้งไป
ฉันยังค้างคาใจเรื่องเจ๊เอมี่ที่หมอนั่นบอกเลยรีบกดโทร.หาเธอทันที
"เจ๊อยู่ไหน?" ทันทีที่อีกคนรับสายฉันรีบถามทันที
[เจ๊ออกมาคุยงานด่วน] งานด่วนอะไรของเจ๊เนี่ย!
"งานอะไรจะด่วนขนาดนั้นคะ" อยากรู้ใจจะขาดแล้ว
ผู้จัดการส่วนตัวที่ไหนหนีนางแบบในสังกัดไปแบบไม่บอกกล่าวอะไร
[คนนี้หล่อโดนใจไหมคะเจ๊ / ชู่ววว]
ไม่ทันแล้วเจ๊เอ๊ย!! ฉันได้ยินเต็ม ๆ เลยว่าตอนนี้งานด่วนที่ว่าคืออะไร
"เจ๊มี่!!" ฉันเรียกเจ๊แกจนสุดเสียง
[อูยยยย เจ้าแม่แยมโรลองค์ลงแล้ว] ยังมีหน้ามาพูดเล่นอีกนะ
"แยมให้เวลาเ**กลับมารับที่สตูฯ ภายในสิบนาที" ฉันเสียงขุ่น
นี่ยังตะวันแยงตาอยู่เลย อะไรจะอดอยากปากแห้งขนาดทิ้งฉัน ทิ้งงาน วิ่งไปหาผู้ชายขนาดนั้น ปกติก็เห็นควงไม่ซ้ำหน้าอยู่ทุกเวลาที่ว่างงาน
[น้องแยมขราาาา]
"ไม่ต้องมาลากเสียงออดอ้อนเลย แยมโกรธจริง ๆ นะคะ" ขู่สักหน่อย
เมื่อกี้ไอ้หมาบ้ากิเลนบอกจะมารับฉันในสิบห้านาทีสินะ เพราะฉะนั้นฉันต้องให้เจ๊เอมี่มาถึงก่อนหมอนั่นให้ได้ แล้วถามว่าถ้าไม่อยากเจอกิเลนทำไมฉันไม่ให้ลูกหว้าไปส่งหรือไม่ก็กลับแท็กซี่ เพราะฉันอยากลงโทษผู้จัดการส่วนตัวที่โดดงานยังไงล่ะ
[แต่เจ๊อยู่ดอนเมือง จะไปหาคุณน้องที่อยู่กลางกรุงทันในสิบนาทีได้ยังไงคะ]
เสียงเจ๊เอมี่เหมือนเครียดหนักที่เจอฉันเอาจริง
"ดอนเมือง? นี่เจ๊ไปหาเหยื่อแถวนั้นได้ยังไง"
[แฮร่ ๆ พอดีมีผู้หวังดีไม่ประสงค์ให้เอ่ยนามหาให้จ้า]
ดูทำเสียงเข้า เหมือนชื่นชมไอ้คนที่เจ๊แกพูดถึงมากมายก่ายกอง
"ไอ้บ้ากิเลน" ไม่ต้องเอ่ยชื่อฉันก็รู้ว่าเป็นใคร ในเมื่อหมอนั่นเพิ่งแบไต๋ออกมาหมดแล้วเมื่อกี้ [อุ๊ย! เจ๊เปล่าบอกนะคะคุณน้อง]
ชัวร์เลยแบบนี้ เจ้าแผนการนักใช่ไหมกิเลน
นายจะกวนประสาทฉันไปถึงไหนกันนะไอ้เพื่อนบ้า!!