หมับ! แขนเล็กถูกคว้าไว้เมื่อเธอกำลังจะออกวิ่งไปยังร่างที่หมดสติ “คุณออกไปไม่ได้” เดซี่หันกลับมามองคนที่คว้าแขนเธอไว้
เธอสับสน เธอมองเห็นตัวเองที่ไม่รู้ว่าใช่ตัวเธอเองหรือเปล่า แต่ความเจ็บปวดที่หญิงสาวคนนั้นรู้สึกเธอเองก็รู้สึกด้วย “นั่นคือคุณเมื่อครั้งอดีตกาลกว่าสองพันปี” แพทริกบอก
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมทุกอย่างมันเหมือนจริงมาก”
“ก็มันคือความจริง...อย่าพึ่งพูดอะไรกันตรงนี้” แพทริกย้ำบอกและดึงให้เธอถอยห่างออกมาจากหมู่บ้านหรืออาณาจักรของเขาครั้งกาลเก่านั่นเอง
แพทริกพาเดซี่มายังธารน้ำตกที่ห่างจากโซนหมู่บ้านแหล่งอาศัยพอสมควร เฮ่อ เฮ่อ เดซี่หอบหายใจทั้งจากเหนื่อยล้าและอาการตื่นเต้น เดซี่ทรุดนั่งลงพักขาพักร่างกายและหัวใจที่เต้นแรง
และเธอก็หันไปมองร่างสูงที่ยืนเคียงกับต้นไม้สูงไม่ได้ห่างจากเธอนัก “ฉันมองเห็นคุณ” จู่ๆเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ เธอลืมสิ้นว่าตอนนี้เธอมองเห็นทุกอย่าง
“พวกเราอยู่ในความฝันของคุณ”
“ความฝัน มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ” แพทริกส่ายหน้า
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมันผ่านมานานมาก มากจนคุณคาดไม่ถึงเลย”
“ฉันเสียใจมาก เพราะฉันใช่มั้ย ผู้หญิงเหล่านั้นจึงถูกฆ่าตายเพราะฉันเป็นสาเหตุ” แพทริกพยักหน้า
“พวกนางเป็นผู้หญิงของผม เหล่าเทพต้องการกำจัดพวกนางเพราะพวกนางตั้งครรภ์ลูกของผม” เดซี่เบิกตากว้างกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอเหมือนจะเป็นลม
“เทพ! พวกเขาเป็นเทพ แต่ทำไมถึงช่างโหดเหี้ยมนัก” แพทริกยิ้มเยาะ ซึ่งตอนนั้นเขาถูกขโมยพลังไปสิ้นแล้ว และถูกสะกดไว้ในโลงไม้เก่าคร่าคร่ำนั้น
“คุณถูกหลอกใช้เดซี่” แพทริกเดินเข้ามาใกล้และนั่งชันเข่า มองเข้าไปในตาเธอ
“เสียงของคุณคุ้นจังเลย”
“ผมก็คนที่อยู่ข้างกายคุณตอนนี้” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
“คุณลักพาตัวฉันมา” แพทริกยิ้ม เดซี่มองเขาอย่างพิจารณา ใบหน้าเขามีเคราหนวดที่ได้รับการดูแลเหมาะกับใบหน้าเขามาก ทำให้เขาน่ามองยิ่งนัก จู่ๆหัวใจที่สงบลงแล้วกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อไล่มองลงมายังแผ่นอกเปลือยที่กำยำ
อึก เดซี่กลืนน้ำลงคออย่างยากลำบากอีกครั้ง “คุณเข้ามาในความฝันของฉันได้” เธอพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้...
“ก็อย่างที่เห็น” เดซี่คืนใบหน้าหันกลับไปมองด้านหน้า เธอมองสายธารน้ำตกที่ไหลลงสู่พื้น
“นี่คือน้ำตกใช่มั้ยคะ” เดซี่แม้จะตาบอดตั้งแต่เกิด แต่เพราะเธออ่านหนังสืออักษรเบลมาโดยตลอด ลักษณะที่ตาเธอเห็นมันก็เหมือนกับการบรรยายอธิบายในหนังสือที่เธอได้อ่านมา
อืม แพทริกขานรับในคอสั้นๆและทรุดนั่งลงข้างกายเธอ “ถ้าฉันตื่นสู่โลกแห่งความเป็นจริง ฉันจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้มั้ยคะ”
“อันนี้ผมก็ไม่รู้ ว่าแต่เรื่องในความฝันมันโหดร้ายไม่ใช่เหรอ คุณยังอยากจะจดจำไว้ทำไม”
“มันไม่ได้ร้ายเสียทุกอย่างนี้ค่ะ”
“มีอะไรที่ดีเหรอ” เดซี่หันกลับมามองเขาอีกครั้ง
“ก็คุณไงค่ะ” แพทริกไม่ได้หันกลับมามองตอบเดซี่
“คุณอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ คุณอย่าลืมสิว่าคุณเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่าผู้หญิงและลูกๆของผมต้องสลายหายไป”
“คุณบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าฉันถูกหลอกใช้”
“ใช่ แต่คุณก็เป็นสาเหตุ”
“ก็จริง เมื่อครู่นี้ฉันกลัวมาก...” แพทริกหันกลับมองสบตาเธอ เลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า แล้วตอนนี้ละ “ฉันไถ่โทษให้คุณได้มั้ยคะ”
“ผมเสียผู้หญิงและลูกไปของผมไป คุณจะไถ่โทษยังไง”
“ฉันสามารถทดแทนสิ่งที่คุณเสียไปแล้วได้ไม่ใช่เหรอคะ” เดซี่พูดพร้อมกับวางฝ่ามือบนซีกแก้มสากเพราะเคราหนวดนั้นอย่างอ่อนโยน
“คุณเต็มใจ” เดซี่พยักหน้า แพทริกยิ้มและยื่นแขนทั้งสองออกไปโอบรอบร่างบอบบาง เขาอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักเผชิญหน้ากับเขา เดซี่สวมชุดเด็กก้นครัวแต่ใบหน้าเธอกลับสดใส ร่างกายหอมกรุ่นรัญจวนใจยิ่ง
เขาโน้มใบหน้าของเธอเข้ามาใกล้เขา ปลายลิ้นหนาสัมผัสหยอกล้อที่ริมฝีปากแดงอิ่ม เขาลากไล้ไปมาเย้ายวนไปทั่วริมฝีปาก เดซี่ตื่นเต้นกับสัมผัสของเขายิ่งนัก หัวใจเธอเต้นแรง ร่างกายเธอเสียววูบวาบไปทั่ว สองแขนคล้องรอบคอแกร่งแข็งแรงไว้
แพทริกคงเชื่องช้าไม่ทันใจเธอ ริมฝีปากอิ่มจึงเป็นฝ่ายงับและดูดลิ้นหนาของเขาไปดูดเสียเอง แทริกปล่อยให้เธอทำตามใจชอบ ไล้ฝ่ามือหนาลูบคลำเข้าไปใต้อาภรณ์สัมผัสแผ่นหลังเนียนละเอียดนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม
เดซี่เบียดส่วนล่างเข้าหาเขาตามสัญชาติญาณ เมื่อเธอเข้าใจได้ทันทีว่าระหว่างเขากับเธอยังสามารถเชื่อมประสานกันและกันได้มากกว่าลิ้นหวานล้ำของเขาที่เธอดูดดื่มอยู่ในตอนนี้
พรึ่บ! เมื่อเป็นความฝันของเดซี่ ทุกอย่างก็ถูกกำหนดโดยเดซี่ เธอต้องการกำจัดอาภรณ์บนตัวเขาและเธอออกไป พรึ่บ!! เพียงพริบตา อกสล้างอวบอิ่มก็สัมผัสถึงมวลอากาศภายนอก ขนอ่อนตามร่างกายลุกชัน
แพทริกผละออกจากริมฝีปากอิ่มก้มเม้มกัดยอดเกสรสีชมพูเรื่อ ในทันที อื้มมมม เดซี่แอ่นหน้าอกรับการลิ้มลองจากแพทริกอย่างยั่วยวน
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเคราหนวดสากระคายเสียดสีถูไถผิวเนียนไปทั่วเต้าอวบเต่งตึงที่ยังไม่มีชายใดได้แตะต้องมาก่อนอย่างตะกละตะกลาม ตอนนี้ผิวที่ขาวสล้างเปลี่ยนเป็นสีชมพูแดงเถือกเป็นแนวมากมายแล้วแต่ใบหน้าสากระคายจะถูไถไปที่ใด รวมถึงที่ถูกอุ้งมือบอบบางขยุ้มกดศีรษะให้แนบชิดจนแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน...
ความเร้าร้อนเพิ่มทวีคูณ แพทริกปล่อยให้สาวน้อยเดซี่เป็นฝ่ายรุกก่อนโดยตลอด อื้มมมม สองมือเล็กคว้าจับแท่งเนื้อที่ผงาดเสียดสีกลีบสาว “ใหญ่” เสียงครางร้องบอกออกมาอย่างไม่อายด้วยความพึงพอใจ
แพทริกผละปล่อยยอดเกสรอกเต่ง ขึ้นมาสบสายตาสว่างกระจ่างใสของเดซี่ ตอนนี้เธอน่ามองยิ่งนัก ใบหน้าอิ่มเอิบแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข “จะจับไว้นิ่งๆแบบนี้อย่างเดียวเหรอ” เดซี่ทำหน้าครุ่นคิดเพียงไม่นานเธอก็นึกออก จากประสบการณ์ครั้งแต่กาลนั้น ที่เคยแอบดูการพรอดรักระหว่างเขาผู้นี้กับหญิงอมนุษย์นางอื่น มือเล็กๆก็เริ่มขยับ
อาร์สสสส แพทริกครางออกมาอย่างพึงพอใจ สองพันปีที่กักกันไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะปลดปล่อยสักทีด้วยน้ำมือของสาวน้อย ศัตรูตัวฉกาจ
เสียงครางก้องกังวาลเมื่อได้รับการปรนเปรออย่างเต็มที่ เดซี่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องแต่นั่นเป็นเพียงร่างกาย จิตใจส่วนลึกของเธอที่ถูกผนึกไว้กลับร้ายกาจเร้าร้อน เต็มไปด้วยความต้องการ ซึ่งขณะนี้ได้เกิดรอยปริเล็กๆ แล้ว
แพทริกไม่ได้ลืมภาพสถานการณ์ตอนที่เขาสลบไปตอนแรก ที่เขาได้เข้าไปในห้วงคำนึงของเดซี่ เขาเห็นว่าเธอในกาลนั้นมักจะแอบมองเขาเสพรักกับเหล่าสตรีของเขาอยู่ร่ำไป
โอ้วววว เสียงครางที่ยากเกินจะกักเก็บไว้ได้ก็ดังขึ้น เมื่อเดซี่ก้าวสู่บทเรียนต่อไปได้อย่างไม่ต้องเอ่ยแนะนำ ร่างกำยำแหงนไปด้านหลัง สองแขนกำยำค้ำพยุงร่างของตน แอ่นสะโพกขึ้นให้โพรงปากเล็กอิ่มครอบครองท่อนร้อนขนาดใหญ่ไว้ได้เต็มที่เท่าที่เธอจะดูดกลืนได้
‘นายท่าน...นายท่าน...นายท่าน’ เสียงก้องกังวาลแทรกเข้ามาในบรรยากาศร้อนแรง แพทริกหยุดชะงัก เบิกตากว้าง เสียงเหล่านั้นคือเสียงอันคุ้นเคยของพวกนาง พวกนางที่ถูกฆ่าอย่างไม่เป็นธรรม
พรึ่บ! และทุกอย่างก็แปลเปลี่ยน ร่างกำยำที่เคยทอดกายเสมือนตนเป็นเพียงดอกไม้ให้เดซี่ได้เชยชม ก็ผลุบนั่งตัวตรงทำให้เดซี่เซเสียหลักถลาหงายไปนอนแนบกับพื้น
“คุณ” เดซี่ร้องออกมาอย่างตกใจ เฮ่อ เฮ่อ เฮ่อ แพทริกหอบหายใจ ดวงตาแข็งกร้าวที่มองเดซี่ก็แปลเปลี่ยนไปในทันที
“ผมขอโทษ” แพทริกเอ่ยและโผเข้าไปประคองร่างบอบบางที่ตื่นตระหนกเข้าสู่อ้อมกอด เขาลูบศีรษะเดซี่ที่แนบอกเขาอย่างอ่อนโยน เมื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว แพทริกโน้มหน้าพร้อมเชยคางมนขึ้นมาเพื่อรับจุมพิตที่เริ่มจากอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเร้าร้อน เมื่ออารมณ์ความต้องที่สงบลงชั่วคราวก็ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง