ตอนที่เจ็ด ปมหลักที่ถักทอ 3

1186 Words
วิษุวัตกลับเข้ามาห้องของศิวาที่เขาพักอาศัยร่วมกับนลินวิภามาได้พักหนึ่ง เห็นประตูห้องและหมายเลขห้องก็นึกเคืองเจ้าของห้องขึ้นมาครามครัน เขาไม่ได้รู้สึกขอบคุณศิวาสักเท่าไหร่ เพราะที่ได้ห้องนี้มาเพราะหมอนั่นฉวยโอกาสไม่ได้ใจดียกห้องให้เขาอยู่ เขาท่องไว้ในใจก่อนจะกดรหัสเข้าไป ด่านแรกที่เขาพบคือคนที่เฝ้าหลังประตูห้องที่จะผลัดเปลี่ยนกันมากะละสองคน เดิมทีเขารู้ว่านลินวิภาคิดหนีแต่เพราะมีเขาเธอเลยล้มเลิกความคิดนั้นแล้วคิดว่าเขาจะทำให้เธอถูกปล่อยตัวไปได้ โดยไม่ต้องเอาทินมาแลก วิษุวัตกวาดตามองเข้าไปในห้องด้านในที่นลินวิภาคงนั่งวาดรูปหรือทำกิจกรรมต่างๆ บนไอแพดที่เขายกไว้ให้อยู่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง หญิงสาวเข้าใจได้ถูกต้องส่วนหนึ่งว่าเขาจะทำให้เธอไม่ต้องถูกกักขังต่อไปได้ แต่ว่าต้องรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ชายหนุ่มก้าวขาเข้าไปเห็นว่าเธอนั่งกินกาแฟเย็นและผลไม้ที่ป้าแตนจัดให้เป็นของว่าง เธอหันมามองเขาด้วยสายตาเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นว่าเขามาถึงแล้ว "โฮป" เธอเรียกชื่อเขาแล้วยิ้มกว้าง วิษุวัตยิ้มน้อยๆ แล้ววางถุงเค้กถุงใหญ่ให้เธอ "มีเรื่องอะไรเหรอ ทำไมเครียดจัง" พอเธอทักเท่านั้น รอยยิ้มเขาก็กว้างขึ้น "เปล่าหรอกไม่มีอะไร ผมซื้อเค้กมาให้ ไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไรเลยซื้อมาหมด" หญิงสาวลุกมาดูถุงเค้ก เขารู้เกี่ยวกับเธอหนึ่งล่ะ ว่านลินวิภาถูกล่อด้วยของกินง่ายมาก เธอแทบไม่สนใจเขาแล้วว่าเขาดูขรึมขึ้นมาในตอนที่เธอไม่ได้มองเขา หญิงสาวกรี๊ดกับเค้กไซส์หนึ่งปอนด์ที่อยู่ในกล่องที่มีฝาใสเผยให้เห็นหน้าเค้กหน้าตาน่ากินหกเจ็ดอย่าง นอกนั้นแล้วยังมีสติกเกอร์ของร้านบอกคร่าวๆ ว่าเค้กนั้นคือเค้กอะไร "ฉันชอบกินทุกอย่างเลย ขอบคุณมากนะ ตอนนี้เลิกนอยด์ที่ไม่ได้ออกจากห้องเเล้ว" เธอพึมพำ แล้วยกกล่องรัมฟรุตเค้กมาแนบแก้มอย่างแสนรัก "ฉันชอบอันนี้ที่สุดเลย กลิ่นหอมออกมาข้างนอกจนท้องร้องแล้ว" คนตัวโตกว่าอาศัยจังหวะที่คนดีใจที่ได้ของเผลอ เขาเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นสองมือค้ำโต๊ะตัวยาวจนเธอถูกกักอยู่ในวงแขนเขา หญิงสาวชะงักหันกลับมามอง แต่ก็ถอยไปน้อยๆ เมื่อเขาก้มหน้าลงไปหา "ไม่ขอบคุณหน่อยเหรอ" "ก็ขอบคุณแล้วไง" คนในอ้อมกอดเขาเสียงสะดุด ดวงตาฉายแววเขินอายมือเล็กดันอกเขาที่ใกล้เธอเข้าไปทุกทีให้หยุด "ถอยไปก่อน ป้าแตนอยู่ในครัวเดี๋ยวมาเห็นหรอก" "เห็นก็ช่างสิ" คนพูดฉกใบหน้ามาหอมแก้มนลินวิภาฟอดใหญ่ หญิงสาวแตกตื่นนิดหน่อยกับการรุกล้ำ เพราะเห็นท่าทางทั้งเขินทั้งกลัวของเธอเขาเลยได้ใจดึงเธอมากอด แล้วลากเก้าอี้มานั่งแล้วดึงคนในอ้อมกอดมานั่งตักตัวเอง หญิงสาวดิ้นขลุกขลักแต่ก็ไม่ดิ้นมาก เขาพอรู้ว่าเธอไม่ได้ไม่ชอบที่เขากอด หญิงสาวแค่เกรงว่าคนอื่นจะเห็นมากกว่า... แต่ยิ่งรู้ก็ยิ่งเเกล้งหนักขึ้นด้วยการจูบแก้มบ้างจูบโดนคอบ้างเพราะเจ้าตัวเบี่ยงหลบ "พอได้เเล้ว มาอุ้มให้นั่งตักเป็นเด็กไปได้ ฉันไม่ได้ตัวเล็กตัวน้อยขนาดนั้นสักหน่อยคุณไม่หนักเหรอ" เธอบ่นพึมพำเพราะเขาอุ้มเธอเป็นเด็กจริงๆ ทั้งที่เธอคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ถือว่าสูงหากเทียบกับความสูงของสาวไทยไม่ได้ตัวเล็กน่ารักน่ากอดขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะสูงกว่าเธออยู่มากก็ตามทีเถอะ "ตัวเตี้ยกว่าผมตั้งเยอะถือว่าตัวเล็กตัวน้อยได้ แถมยังตัวผอมต้องเพิ่มเนื้อหนังอีกนิด คุณกินเค้กนี่ให้หมดเลยนะ" คำพูดของเขาทำให้เธอเขิน ถึงเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่เธอตัวเล็กในสายตาเขาเพราะเขาสูงกว่าเธอมากจนเธอดูตัวเล็กตัวน้อยในสายตาเขาสินะ มัณฑนากรสาวที่สูงร้อยเจ็ดสิบกว่าหัวใจแช่มชื่นขึ้นมาเมื่อนึกถึงจุดนี้ แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ นอกห้องนอน เขาไม่ควรรุ่มร่าม นายอาคินไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย ยิ่งได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาทางนี้ หญิงสาวยิ่งเลิ่กลั่ก แน่นอนว่าเขาไม่ปล่อย ป้าแตนเดินออกมาพอดี หญิงสาวหลบสายตาผู้สูงวัยกว่าทั้งที่ดึงดันยื้อยุดกับคนที่กอดเธอเอาไว้ มีเพียงวิษุวัตที่สบตากับป้าแตนที่มองเขาเหมือนจะตำหนิหน่อยๆ แต่ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มอย่างดื้อดึง "ปล่อย" คนในอ้อมกอดเขากระซิบเบาๆ เอาแต่ซุกหน้าเข้าหาเขาเหมือนจะมุดหนีอายเข้าไปโดยไม่รู้ว่าหญิงสูงวัยเอาชามาเพิ่มให้และเดินไปจากตรงนี้แล้ว "ไปแล้ว" กระซิบบอกแถมขโมยจูบแก้มเธออีกครั้ง "งั้นก็ปล่อยได้เเล้ว" "ปล่อยทำไม ไม่เห็นต้องอาย ป้าแตนทำห้องให้ทุกวัน เตียงยับเยินขนาดนั้นคงไม่คิดว่าเรานอนจับมือกันหรอกจริงไหม” หญิงสาวทุบไหล่เขาไปที ไม่กล้าสบตาวาวๆ เขาเท่าไหร่ ไม่คิดว่าคนเงียบๆ อย่างเขาจะคุยเรื่องนี้ เรื่องทำนี่เต็มที่อยู่หรอกแต่ไม่คิดว่าจะพูดถึงมันขึ้นมา "ฉันเก็บที่นอนตอนตื่นทุกวันย่ะ" "แต่ผ้ามันก็ยับครับ" เขายอกย้อนเธอ "บอกแล้วไม่ต้องอาย เขารู้กันหมด" "พอๆ เรื่องบนเตียงไม่ต้องเอามาพูดข้างนอก แล้วก็ปล่อยด้วยอยากให้มีคนมาเห็นแล้วไปฟ้องนายอาคินให้ได้ผลงานหรือไงฮึ" "บอกแล้วไงว่าทำเพราะอยากทำ ไม่เกี่ยวกับพี่อาคินหรอก" พอเขาบอกแบบนั้นและไม่ยอมปล่อย คนที่นั่งอยู่บนตักเขาก็อ่อนอกอ่อนใจ... อยากกอดก็กอดเลยแต่อย่ามาบ่นว่าขาชาเพราะเธอนั่งตักนานก็แล้วกัน... พอคิดในใจอย่างนั้นก็เผลอทุบอกเขาเบาๆ ทีหนึ่ง เขาเลยคว้ามือเธอไว้แล้วอีกมือจับท้ายทอยเธอไม่ให้ขยับหน้าหนีไปไหนได้แล้วจูบหน้าตาเฉย สัมผัสรุกล้ำอย่างสนิทสนมบนเรียวปากทำให้นลินวิภาจูบตอบเขา ระหว่างพวกเธอทั้งคู่มันชักจะใกล้ชิดด้วยความต้องการส่วนตัวของเขากับเธอและความต้องการนี้มันก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนยากเกินจะรับมือเสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD