ช่วงกลางวันทั้งคนไข้และคนเฝ้าไข้ตื่นมาทานอาหารพร้อมๆ กัน เอวิตาเอาแต่ยิ้มหวานทั้งที่หน้าซีดเซียวเพื่อจะพยายามบอกว่าตัวเองสบายดี ทั้งดอกไม้และของเยี่ยมจากเพื่อนร่วมงานที่ส่งเข้ามาให้ในห้องพักโดยผ่านทางผู้จัดการของเธอนั้นทำให้อาคินหงุดหงิดเล็กน้อย...
"เพราะกลับไปทำงานเลยทำให้อีฟเครียดจนมีผลกับลูกในท้องหรือเปล่านะ"
"ไม่น่าใช่หรอกค่ะ คนท้องก็เหมือนคนป่วย ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเลยมีอาการต่างๆ ขึ้นมา มันเกิดไม่เหมือนกันในแต่ละคน ใครไม่มีอาการก็โชคดีไป จริงไหมคะหมอหยก" คนไข้สาวหันไปถามหมอเจ้าของไข้ที่เข้ามาราวน์รอบบ่ายพร้อมทั้งศิวาที่ตามเข้ามาด้วยอีกคน ในห้องของเธอช่วงมื้อกลางวันจึงครึกครื้น แม้แววตาของเธอจะไม่สดใสแต่เธอก็รู้ว่าเธอถูกรายล้อมด้วยคนที่ปรารถนาดีต่อเธอ มันทำให้เธอยิ้มออก
"ก็มีส่วนถูกอยู่บ้างค่ะ ในส่วนของคุณอีฟตอนนี้การพักผ่อนบนเตียงเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ เพื่อลดการกระทบกระเทือน ในส่วนของการรักษาและดูแลหมอเคยแจ้งคุณอีฟในตอนที่มาแอดมิทและก็แจ้งคุณอาคินไปแล้ว แต่วันนี้จะแจ้งเพิ่มเติมให้ญาติหากิจกรรมอะไรทำแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนคุณอีฟตลอดเพื่อไม่ให้เบื่อหากต้องนอนพักนานค่ะ"
คำตอบของหมอสาวทำให้อาคินและศิวานิ่งขรึมขึ้นเพราะมันบอกชัดว่าผลการประเมินอาการจากการตรวจเพิ่มไม่ได้ดีขึ้นคงเพราะเธอกำลังมีความเครียดกระทบใจอยู่จนส่งผลไปถึงอาการทางร่างกาย หากแต่เธอเองไม่ปริปากออกมา คำพูดของอัญมณีเหมือนบอกกลายๆ ว่าให้มีคนประกบเอวิตาไว้ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้เธอมีคนดูแลใกล้ชิดไม่คลาดสายตาแล้วยังป้องกันในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดอย่างการทำร้ายร่างกายตัวเองของหญิงสาวด้วย...
เหมือนหมอสาวกำลังบอกกลายๆ ว่าภายใต้รอยยิ้มซื่อๆ ที่น้องยิ้มเวลามองพี่ๆ นั้นมีความหม่นเศร้าอยู่ภายในที่เจ้าตัวยังจัดการมันไม่ได้
แน่นอนว่าพี่ๆ เชื่อฟังหมอทุกอย่าง เพราะเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วและไม่มีใครอยากให้เกิดซ้ำรอย ต่างคนต่างเวียนกันเข้ามาหาเอวิตาไม่ขาดสาย แม้แต่วิษุวัตเองก็ยังมาในช่วงบ่ายพร้อมกับขนมและผลไม้ แต่เอวิตากลับอยากมีเวลาอยู่ลำพัง จนเธอเปรยๆ ว่าวันนี้คนเข้านอกออกในห้องเธอจนเธอไม่มีสมาธิจะวาดรูปเลย
"ยังจะห่วงทำงาน วางงานไว้ก่อนเลย" วิษุวัตดุ หญิงสาวทำปากยื่น
"นี่ว่างกันเหรอคะ เหลือพี่อาคินไว้เฝ้าอีฟคนเดียวก็ได้ พี่โฮปพี่ซีไปทำงานเถอะ"
เพราะมีเรื่องอยากคุยส่วนตัวกับพี่ชาย แต่หาโอกาสเหมาะไม่ได้เลยบอกให้พี่ๆ อีกสองคนไปทำงาน
"พวกพี่ว่างแล้วก็อยากมาอยู่เป็นเพื่อนยังไงล่ะ" วิษุวัตบอก
"แต่เหมือนนายไม่ได้ว่างนะ" ศิวาหันขวับมาพูดกับวิษุวัตอย่างเป็นต่อ แน่นอนว่าวิษุวัตขึงตาใส่อีกฝ่าย
"ฉันว่างจริง แต่คนไม่ว่างจริงน่าจะเป็นนาย เมื่อกี้แอบถามเลขานายเล่นๆ ได้ยินว่านายมีประชุมบ่ายไม่ใช่เหรอ" เขาตอบศิวา
"เมื่อไหร่นายสองคนจะเลิกงัดข้อกัน ฉันเริ่มเหนื่อยจะเป็นกรรมการล่ะ" อาคินบ่นเสียงเอือมระอา แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก เขาหันไปมองเอวิตา "อีฟจะเครียดกว่าเดิมไหมเนี่ย"
"สนุกดีออกค่ะ เมื่อก่อนพี่ซีกับพี่โฮปไม่เคยขัดคอกันเลย พอโตแล้วทำไมดูขัดใจกันจัง อีฟจิ้นแล้วนะคะ" คนป่วยตอบและยิ้มจนตาหยี
คนเป็นพี่ชายอ่อนอกอ่อนใจ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าสองคนนี้ทะเลาะกันเพราะว่าตัวเองนั่นแหละ
จนจบมื้อเย็นเหล่าองครักษ์พิทักษ์เอวิตาพากันเปิดหนังคอเมดี้และนั่งดูด้วยกันพร้อมคนไข้จนดูจบไปหนึ่งเรื่องบรรยากาศเหมือนตอนเด็กๆ ที่พวกเธอได้ดูหนังด้วยกันไม่มีผิด พอหนังจบแล้วคนไข้ก็เริ่มตาปรือขึ้นมา เธอหาวและบ่นกับพี่ๆ
"อีฟเอาแต่กินกับนอนแถมต้องอยู่บนเตียงตลอดเวลาแบบนี้เป็นอีกไม่นานคงอ้วนเป็นหมูแน่ๆ เลย"
"เดี๋ยวคลอดแล้วค่อยลด" ศิวาบอก
"อ้วนไม่อ้วนพี่ก็รักเราเสมอน่า ไม่เห็นต้องกังวล" วิษุวัตบอกอีกเสียง
อาคินรู้สึกว่าหนุ่มทั้งสองจะเริ่มเปิดศึกกันแล้วหลังจากที่สงบมาพักใหญ่จึงห้ามทัพ
"จะสี่ทุ่มแล้วพวกนายแยกย้ายกันกลับได้แล้ว" พออาคินบอกศิวาและวิษุวัตมองหน้ากันแล้วเหมือนจะพยักพเยิดให้ใครคนใดคนหนึ่งออกไปก่อน กรรมการเลยตัดสินให้ "ไปพร้อมกันก็ได้" สองหนุ่มเลยเอ่ยราตรีสวัสดิ์กับเอวิตาก่อนจะเดินออกไปพร้อมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร...
"พี่ซีกับพี่โฮปทำไมโตมาแล้วทำตัวเป็นเด็กเนาะพี่อาคิน ตอนเด็กดูเป็นผู้ใหญ่กว่านี้นะอีฟว่า" หญิงสาวหันมาบ่นยิ้มๆ กับพี่ชาย พอเห็นว่าเธอหาวนอนอีกรอบพร้อมกับที่เขามีสายเรียกเข้าที่โทรศัพท์มือถือ เขาเลยเดินออกไปตามพี่ก้อยเข้ามาช่วยดูเอวิตา
คนเป็นน้องสาวที่เพิ่งได้โอกาสจะคุยกับพี่ชายยกมือค้าง เพราะว่าอาคินยกโทรศัพท์และเดินออกไปเสียแล้ว
"เฮ้อ... ยังไม่ได้คุยเรื่องคนนั้นอีกแล้ว" หญิงสาวบ่นพึมพำ นึกถึงสิ่งที่เคยพูดกับทินเอาไว้ตอนก่อนกลับไทย น้ำตาก็หยดจากดวงตาของเธออีกรอบ ก่อนที่มือเล็กจะปาดมันออก
เธอได้แต่บอกตัวเองว่าพยายามเข้มแข็งให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อเจ้าตัวน้อยในท้อง
อาคินกดรับหมายเลขแปลกที่โทรเข้าหาเขาตอนกลางคืน หมายเลขของเขาไม่ใช่ใครก็ติดต่อเข้ามาได้เพราะแม้แต่ลูกน้องที่สนิทกันถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นก็ไม่เคยต่อสายเข้ามารบกวนเขาเลย พอรับสายแล้วนึกว่าเป็นเรื่องสำคัญหน้าเขาก็ตึงขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ของเธอ
"เฮียไปที่ผับหรือเปล่าเมื่อไหร่จะกลับมาคะ"
"เอาเบอร์ใครโทรมา" เขาไม่ตอบแต่ถามกลับ
"กี้ซื้อซิมใหม่เพราะเอาเบอร์กี้โทร เฮียไม่รับ"
เขาถอนหายใจ มองบนเพดานไปหนึ่งที
"รู้ว่าไม่อยากรับจะโทรมาทำไม บอกแล้วไงว่าอย่ายุ่งกับเฮีย คืนนี้เฮียนอนที่อื่นไม่ได้กลับไปนอนที่คอนโด"
เขาตอบไปห้วนๆ ให้คนตัวเล็กเข้าใจว่าเขามีคนอื่นไปเลยยิ่งดี จะได้ไม่ต้องคอยวุ่นวายกับเขา...
ไม่มีเสียงปลายสายตอบกลับมา
"ถ้างั้นกี้ก็ไม่มีอะไรรบกวนเฮียแล้ว แค่นี้นะคะ" เสียงบอกหงอยๆ ก่อนที่อาคินจะวางสาย เขาไม่ตอบ แต่กดวางสายไป
คนตัวโตถอนหายใจเฮือกใหญ่
หวังว่ายายเด็กไม่ยอมโตจะรู้จักหน้าที่ของตัวเองว่าควรทำอะไร ไม่เอาตัวมาผูกไว้ที่เขาและไปร่ำไปเรียนแล้วเติบโตตามวัยเเละมีโลกของตัวเอง สักวันหนึ่งไว้เจ้าตัวพร้อมเมื่อไหร่ก็คงไปเซ็นใบหย่าที่เขาเซ็นให้ไว้กับทนายเอง