ตอนที่หก ความเจ็บปวดที่ย้อนกลับคืน 1

1183 Words
วิษุวัตวางสายจากทนายความส่วนตัวของครอบครัวแล้วกำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้อง เขาเดินสวนกับป้าแตนที่เดินออกมาจากครัวพอดี สายตาของคนที่สูงวัยกว่ามองอย่างกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียว "วันนี้ป้าไม่เห็นคุณนิ้งตื่นมากินข้าว ไม่สบายหรือเปล่าคะ" "เดี๋ยวผมไปปลุกเองครับ" พอเขาบอกอย่างนั้นป้าแตนก็ถอนหายใจเบาๆ คงพอรู้ว่าตนเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ นางเลยพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องชุดของศิวาปล่อยให้เหลือเพียงวิษุวัตและนลินวิภาอยู่กันเพียงลำพัง โดยยังมีคนผลัดกันมาคุมอย่างแน่นหนาอีกทีหนึ่ง คนตัวโตยักไหล่น้อยๆ อย่างคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง เดินกลับเข้าไปในห้องนอนหญิงสาวนอนซุกผ้าห่มอยู่เช่นเดิม รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของเขาน้อยๆ เมื่อเห็นรอยสีกุหลาบจางๆ ที่เขาจงใจทิ้งเอาไว้เห็นชัดบนผิวขาวจัดของเธอกระจายทั่วเนินอกและบริเวณคอ แบบที่เธอเห็นแล้วต้องบ่นอุบ แต่เขาก็ตีหน้านิ่งๆ แล้วบอกว่านั่นคือหลักฐานชั้นดีเพื่อยืนยันกับอาคินว่าเขาทำงานได้สมบูรณ์ คนขี้โวยวายถึงเลิกโวยวายทันทีที่รู้ว่าเป็นสิ่งที่เธอจะยอมได้เพื่อเขา... ความรู้สึกเหล่านี้จากเธอนั่นล่ะ คือสิ่งที่เขาต้องการ เเววตาที่ทอดมองคนใต้ผ้าห่มมีประกายบางอย่างที่หญิงสาวไม่มีวันได้เห็น เขานั่งลงแล้วสอดตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธอแล้วดึงเอาคนที่หลับใหลมาอยู่ในอ้อมกอด ริมฝีปากอุ่นๆ ระดมจูบทั้งดวงหน้าลงเรื่อยมาถึงลำคอไม่เกรงว่าคนที่หลับอยู่จะตื่น เพราะเขาตั้งใจปลุกอยู่แล้ว "อื๊อ" เธอโวยวายเพราะรับรู้ถึงการโดนรุกราน ชุดนอนที่ตอนก่อนนอนเธอแอบไปอาบน้ำและสวมก่อนนอนถูกมือดีปล้ำถอดเหลือเพียงแต่ร่างเปลือยเปล่า ส่วนชายหนุ่มก็โยนผ้าที่พันกายทิ้งไปตั้งแต่ก้าวขึ้นเตียงเเล้ว หญิงสาวลืมตามองเมื่อเห็นว่าเธอถูกรุกรานมากขึ้นเรื่อยๆ เธอมองเห็นแค่ปลายผมสีน้ำตาลอ่อนของคนที่จูบเม้มที่เนินอกของเธอและเสี้ยวหน้าของเขา... "โฮป" หญิงสาวเรียกชื่อเขา ไม่มีการตอบรับจากเขา มีเพียงมือหนาที่วางอยู่แถวเอวเธอเลื่อนลงต่ำกว่านั้นในตอนที่เขาเลื่อนหน้ามาจูบอกอิ่มทั้งสองข้างสลับกัน "จะทำแบบนั้นอีกเหรอ มันบ่อยเกินไปรึเปล่า" หญิงสาวละล่ำละลักถาม แล้วพยายามดันไหล่เขาออก วิษุวัตเงยหน้ามาสบตาเธอ หญิงสาวเลยบอกเสียงอ่อนอกอ่อนใจ "ถ้านายอาคินไม่ได้มา ก็ไม่จำเป็นต้องทำหรอก" เธอบอกเสียงสั่นๆ พยายามขยับตัวจากการทาบทับ เหมือนว่ายังไม่ชินกับความใกล้ชิดนี้ เขาเอื้อมมือมาจับที่คางของคนที่มีสีหน้าลำบากใจให้จ้องหน้าเขาแบบไม่หลบ สายตาดื้อดึงปนจริงจังของเขาจ้องตาเธอ "ไม่ได้ทำเพราะว่าใครสั่งนี่ ทำเพราะอยากทำ" เขาพึมพำเบาๆ โหนกแก้มของคนใต้ร่างซับสีเลือดขึ้นมา "จำเอาไว้นะว่าทุกอย่างที่ผมทำ ผมทำเพราะว่าใจตัวเองต้องการ" หญิงสาวกัดริมฝีปากล่าง ดวงตาฉายแววสับสนหากแต่ก็ยังไม่ละสายตาจากคนตรงหน้า สิ่งที่เขาพูดเหมือนเข้ามาตอกย้ำความรู้สึกบางอย่างกลางใจเธอ ภาวะผูกพันในตัวเขาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้มันผูกใจเธอไว้กับเขามากกว่าที่เธอจะคาดถึงหากแต่เธอก็สัมผัสได้ แม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่คนละฝ่ายอย่างชัดเจน หากแต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยิ่งสวนทาง วิษุวัตโน้มหน้าลงมาจูบเธอพร้อมๆ กับตอนที่เธอยกเเขนมาโอบตัวเขาเอาไว้ นลินวิภาหลับตาพริ้ม ในหัวใจวูบโหวงสลับกับสั่นระรัวยามที่สัมผัสถึงลมหายใจและเรียวลิ้นอุ่นของเขาไล้ลิ้มชิมริมฝีปากตัวเอง โลกที่ไม่เคยพานพบ คนที่มีชั้นเชิงกว่าก็นำพาเธอไป ถ้าตอนที่ยังไม่รู้จักเขาเธอคงไม่มีวันคิดว่าเธอเองจะเต็มไปด้วยความปรารถนาลุกโชติช่วงในตอนที่เขาปลุกเร้าและต้องการเขามาเติมเต็มอย่างเร่าร้อน เสียงครางแบบสุขสมที่เขาปรนเปรอไม่ให้เธอผิดหวังและเรียนรู้โลกใหม่อย่างเต็มใจและชื่นชอบมัน ความหวาดหวั่นกับสัมผัสแนบชิดแทบไม่หลงเหลือมีเพียงแต่ความรู้สึกว่าเขาเเละเธอต่างเติมเต็มให้กัน เพราะมีความต้องการอย่างเดียวกัน นลินวิภาไม่ได้คิดว่ามันเป็นการลงทัณฑ์ใดๆ หากแต่เป็นความเต็มใจและเป็นความต้องการของเขาและเธอ เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ... งานแสดงผลงานด้านอนิเมชั่นของบริษัทสตูดิโอชื่อดังของญี่ปุ่นจัดขึ้นในสิงคโปร์ เอวิตาอยู่ในฐานะที่เป็นศิลปินหลักของงานเรื่องล่าสุดที่กำลังโปรโมตก็ได้เดินทางมาในครั้งนี้ด้วย เจ้าหน้าที่ที่ประสานงานต่างพากันโล่งใจที่เธอสามารถมาได้เพราะว่าก่อนหน้านี้เธอปฏิเสธตารางงานด้วยปัญหาสุขภาพไป และดูเหมือนงานที่เธอจะทำร่วมในเรื่องต่อไปถูกยกเลิกทั้งหมด หากแต่ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งอาทิตย์สตูดิโออนิเมชั่นชื่อดังก็ได้รับข่าวดีเมื่อศิลปินสาวแจ้งว่าเธอกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นงานที่ถูกยกเลิกก็ได้รับการสานต่อจนคนในบริษัทโล่งใจยิ่งนักเพราะช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองของเอวิตา เธอโด่งดังและได้รับการยอมรับอย่างมากในระดับสากล งานนี้ที่เธอมาร่วมงานและประกาศว่ามีชื่ออยู่ในทีมเขียนอนิเมชั่นภาคต่อ หุ้นของบริษัทก็คงจะเพิ่มค่าขึ้นทันทีที่เรื่องนี้ถูกประกาศออกสื่อไป การกลับมาของเธอเป็นเรื่องน่ายินดีรวมทั้งภาพลักษณ์ศิลปินผู้อ่อนหวานของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะครั้งนี้เธอมีบอดี้การ์ดตัวโตมาถึงสองคน เรื่องนี้ก็ถูกเหล่าสตาฟพูดถึงพอสมควร เพราะถึงแม้เอวิตาจะโด่งดังมากในเรื่องผลงานและเป็นที่กล่าวถึงว่าหน้าตาสวยงามไม่เเพ้ลายเส้นของตัวการ์ตูนที่เธอวาดหากแต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีการคุ้มกันเธอขนาดนั้น แต่พอได้ยินว่าหญิงสาวเป็นลูกบุญธรรมของคนใหญ่คนโตที่เมืองไทยก็ทำให้เป็นที่เล่าลือว่าเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้คนที่ทำตัวธรรมดามาตลอดมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เธอมีคนติดตามมีการ์ดล้อมหน้าล้อมหลังอย่างกับลูกสาวเจ้าพ่อ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าถาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD