ในห้องเธอได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังลั่นทะลุกำเเพงออกมา หญิงสาวยิ่งร้องไห้สะอื้นกว่าเก่าจนประตูเปิดและอาคินเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่สนใจเธอเลย
นลินวิภาเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกัน หญิงสาวถลาเข้าไปในห้อง เห็นวิษุวัตนั่งพิงผนังเหมือนหมดแรงขาข้างหนึ่งของเขาชันขึ้นอีกข้างหนึ่งเหยียดยาว ดูเหมือนเขาไม่ได้คิดจะลุกจากตรงนั้น
น้ำตาของเธอไหลอีกหลายหยดเมื่อเห็นว่าที่มุมปากของเขาข้างหนึ่งมีเลือดหยดออกมาและมุมปากปริแตกและมีรอยแผล หญิงสาวไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแล้วเอื้อมมือไปไล้เเผลนั้นแผ่วเบา
"พี่อาคินรู้ซะแล้วว่าผมทำงานไม่ได้เรื่อง"
เขายังยิ้มให้เธอแล้วก็สูดปากไปเพราะเจ็บแผล
ก็ใช่น่ะสิ หญิงสาวคิดในใจ ไม่เอ่ยปากเพราะมัวแต่ร้องไห้ ทั้งที่มีมีหน้าที่รีดข้อมูลจากตัวประกันอย่างเธอและทำให้เธอเป็นทุกข์ที่สุด แต่เขากลับปกป้องดูแลเธอทำให้เธอมีความสุขแม้ถูกกักขังราวกับเป็นแสงแห่งความหวังแสงเดียว ในคุกที่มืดมนไร้ทางออก
แต่แล้ววันนี้ความหวังดีของเขาที่มีต่อเธอย้อนกลับไปทำลายเขาให้ต้องเดือดร้อน
"ฉันจะไม่ยอมให้นายลำบาก ถ้าเรื่องที่นายยังไม่ได้ทำอะไรฉันมันหนักหัวนายอาคินนัก ก็ทำซะ"
"แน่ใจเหรอ คุณบอกว่าจะเก็บครั้งแรกไว้ให้คนที่รักไม่ใช่หรือไงนิ้ง... คุณไม่ต้องแลกขนาดนั้นก็ได้ พี่อาคินเขาไม่ฆ่าผมหรอก" วิษุวัตถาม ตอนที่เธอขอบคุณเขาที่ไม่เห็นด้วยกับอาคินว่าจะรังแกเธอเพื่อรีดเร้นเอาข้อมูล นลินวิภาสารภาพภายหลังว่าเธอทนไม่ได้แน่ๆ หากเขาไม่ช่วยไว้เพราะหญิงสาวไม่เคยมีแฟนไม่เคยมีอะไรกับใคร ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเก็บครั้งแรกไว้กับคนที่รักในวันแต่งงานมากกว่าจะต้องมาสูญเสียให้กับใครก็ไม่รู้
"มันไม่สำคัญแล้วล่ะ ในเมื่อนายดีกับฉันขนาดนี้ อย่าว่าแต่จะฆ่าแค่จะให้เขาทำนายเจ็บเพราะบกพร่องต่อหน้าที่มันก็ไม่ควร" หญิงสาวปลดกระดุมเสื้อตัวเองมือสั่น ตอนนี้เธอสติแตกไปแล้ว ไม่รู้หรอกว่าต่อไปต้องทำอย่างไรต่อ แต่เธอจะเริ่มเอง...
มือหนาเอื้อมมาจับมือสั่นๆ ของเธอเอาไว้
ดวงตาคู่คมของเขาจ้องมาที่เธอ
"จะไม่เสียใจทีหลังใช่ไหม"
หญิงสาวส่ายหน้า เขาไม่พูดอะไรต่อ รั้งต้นแขนของเธอให้ขยับโน้มตัวเข้าไปใกล้เขามากขึ้นจนริมฝีปากของเธอแตะปากนุ่มอุ่นของเขา...
จากนั้นแล้วเขาก็จูบเธอ รสเลือดเค็มปร่าจากริมฝีปากเขาส่งผ่านถึงเธอ แขนเขาเอื้อมมากอดเธอเอาไว้ใกล้ชิดเขานลินวิภาแหงนหน้าให้จูบถนัดมากขึ้น
จูบที่ดูดดื่มราวจะกลืนกินและมือหนาที่ล้วงใต้เสื้อของเธอไม่ได้ทำให้เธอชะงักแม้แต่น้อยแม้สัมผัสที่ทำให้เธอเหมือนจะละลายกลายเป็นอากาศในตอนนี้จะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
หากแต่เธอไม่คิดจะหยุดเขา และยินยอมรับสัมผัสวาบหวามเหล่านี้อย่างเต็มใจเสียยิ่งกว่าเต็มใจ...
วิษุวัตลุกจากเตียงแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวม ร่างกายชื้นเหงื่อทำให้เขาสดชื่นเหมือนได้ออกกำลังกายมาอย่างหนัก แต่กิจกรรมที่เขาทำมันให้ความรู้สึกดีกว่าออกกำลังกายหลายขุม ดวงตาคมปลาบกวาดมองคนที่นอนซบหมอนแบบหมดแรงจนผล็อยหลับไปหลังจากผ่านสงครามที่ยาวนานและแปลกใหม่สำหรับเธอ รอยยิ้มของเขาผุดที่มุมปากน้อยๆ
"ถึงกับหมดแรงเชียว" เขาพึมพำแล้วเดินออกมาด้านนอก เดินออกมาแล้วเห็นป้าแตนที่เดินเข้ามาที่ห้องโถงพร้อมกับตะกร้าที่มีกล่องทัปเปอร์แวร์หลายกล่องที่นางทำอาหารใส่มา... พอเห็นสภาพเขาแล้วนางก็มองไปที่ห้องที่นลินวิภานอนอยู่ ในแววตาเหมือนสงสารคนที่นอนอยู่ในห้องนั้นเล็กน้อย
แน่นอนว่าวิษุวัตเห็นแต่ทำเป็นไม่เห็น
"พี่อาคินกลับไปแล้วหรือยังครับ"
"ยังค่ะเพิ่งกินข้าวกับคุณอีฟกับคุณซีไป แต่เห็นรีบๆ กินข้าวเสร็จคงกลับ"
"แล้วผู้หญิงที่มากับพี่ซีล่ะครับ"
"อ๋อ คนนั้นหมอหยกค่ะ อยู่ตึกนี้เหมือนกันเห็นว่าเป็นรุ่นน้องคุณซีที่สนิทกัน เมื่อกี้เธอก็กินข้าวกับคุณๆ ด้วย คุณอีฟซักถามนั่นนี่ใหญ่เลยเหมือนอยากจับคู่ให้คุณซีกับหมอหยก คุณซีหน้างอใหญ่เลยค่ะ"
วิษุวัตหัวเราะ ได้ยินแล้วก็พอใจนัก
"ป้าแตนเอากับข้าวไว้ในตู้เย็นก่อนนะครับ เดี๋ยวนิ้งตื่นแล้วผมจะให้เขาเอามาอุ่นกินทีหลัง" เขาบอกแม่บ้านก่อนจะเดินไปใช้โทรศัพท์ภายในต่อขึ้นไปห้องด้านบน
เพียงไม่ถึงห้านาที อาคินก็ลงมาหาวิษุวัตที่ห้อง
คนมาใหม่เห็นสภาพของวิษุวัตที่นั่งเปิดไอแพดหาร่องรอยต่างๆ ที่นลินวิภาทิ้งไว้แล้วอาคินก็มีสีหน้าพอใจซ้ำยังเอ่ยล้อคนตรงหน้า
"ไง ไอ้เสือ ตามลงมาทำไม"
"เจอว่าติดต่อคนนอกคนหนึ่ง ชื่อไอรีน"
"นายน่าจะรู้นะว่าไม่ได้ถามหาเรื่องนี้ แต่หมายถึงสภาพนายน่ะ รอยข่วนขนาดนั้น แน่ใจเหรอว่าเขาเต็มใจ"
วิษุวัตยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรมาก
อาคินเอื้อมมือมาปิดที่ตาขวาตัวเองแล้วทำเสียงในลำคอเหมือนรำคาญ
"เป็นอะไร"
"ตากระตุกข้างขวาตลอดเวลาเลยวันนี้ สงสัยต้องรีบไปดูที่ผับจะมีเรื่องอะไรอีกรึเปล่าไม่รู้"
"ลางสังหรณ์พี่แม่นขนาดนั้นเลยเหรอ"
"เออ คราวก่อนวันเกิดอีฟที่เกิดเรื่องก็กระตุกทั้งวันแบบนี้ อีกครั้งหนึ่งก็สามวันก่อนแม่งยิงกันในผับจนตำรวจใหญ่ๆ ที่เกรงใจเรายังต้องขอเข้ามาดูแลพื้นที่ที่เกิดข่าวเกิดคดี"
"แล้ววันนี้จะเกิดอะไรล่ะพี่" วิษุวัตถามยิ้มๆ "แต่ผมว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไรพี่ไปหาหมอเถอะ ถ้าตาจะกระตุกบ่อยขนาดนั้น" คนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์เอ่ยบอก
"เออ งั้นไปแล้วนะ จะได้รู้ว่าจะไปหาหมอ รึว่าต้องเหนื่อยเคลียร์ปัญหาโลกแตกเรื่องไหนอีก"
อาคินหยิบกระดาษข้อมูลคนที่นลินวิภาติดต่อแล้วเดินแยกออกไป ทิ้งให้คนที่นั่งจิบไวน์อย่างอารมณ์ดีไว้ข้างหลัง