เมื่อคุยกันพักใหญ่ศิวาก็เดินออกมาจากห้องคนไข้พอพ้นประตูห้องเขาก็โทรหาอาคินเล่าเรื่องที่ได้ไปเยี่ยมเอวิตาให้ฟัง และยังคงเหมือนเดิมที่เอวิตาไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรที่จะนำไปสู่การหาตัวทินเจอ น้องน้อยของพวกเขาไม่รู้รายละเอียดเพราะตอนที่คบกันไม่รู้ชีวิตเบื้องลึกของทิน แต่พี่ๆ อย่างพวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เอวิตาไม่อยากบอกมากกว่า เลยเป็นพวกเขาที่ต้องสืบแทน
"ยิ่งอีฟอยากปกป้องมัน ทั้งที่มันทำให้เสียใจขนาดนี้ ยิ่งอยากฆ่ามันว่ะ" อาคินบอกเสียงลอดไรฟันมาตามสาย
"คิดเหมือนกัน ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็อยู่กับนาย หวังว่าคงดึงให้ไอ้ทินกลับมาได้ ไว้ฉันจะรอดูแต่ตอนนี้ต้องไปทำงานก่อนแล้ว แค่นี้ล่ะ" ศิวาบอกก่อนจะวางสายไป
สถานการณ์ในห้องรับแขกของเพนธ์เฮาส์ของอาคินค่อนข้างตึงเครียด นลินวิภาเดินออกมาพร้อมด้วยหน้าเหวี่ยงและโกรธจัด แน่นอนล่ะว่ามันคือการแสดงละครที่เธอตกลงร่วมกับโฮป
พอเดินมาใกล้โซฟา น้ำในขวดที่ถือเดินออกมาจากห้องนอนก็ถูกสาดใส่อาคินเต็มรัก จนเขาสะดุ้ง แต่ก็ลูบน้ำออกจากหน้าแรงๆ แล้วมองเธออย่างโกรธจัด
"เธอเป็นบ้าหรือไง"
มีหรือที่หญิงสาวจะกลัว เธอกวาดตาไปมองโฮปที่นั่งมองยิ้มๆ เหมือนจะซูฮกในความแสดงเกินเบอร์ของเธอแต่นลินวิภาก็หันมาเล่นงานอาคินต่อ
"นายนั่นแหละบ้า บ้าแล้วยังเลวอีก" เธอชี้หน้าเขาไม่กลัวเกรง "ความเป็นสุภาพบุรุษมีไหม ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ ตอนที่ฉันหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ส่งหมอนี่มาทำอะไรแบบนี้กับฉัน นายคิดว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรือไงกัน" เธอโมโหจนอกกระเพื่อม แม้สำรวจตัวเองแล้วว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่โฮปบอก หากแต่เพราะคำสั่งของอาคินนั่นแหละที่ทำให้เธอต้องนอนเปลือยอยู่กับผู้ชายแปลกหน้ามาทั้งคืน
อาคินหัวเราะเบาๆ เหมือนจะเย้ยหยันในทีมากกว่า
"คำว่าสุภาพบุรุษไม่จำเป็นสำหรับคนแบบเธอหรอก เชื่อสิ อีกอย่างที่เธอเจอมันก็เหมือนกับที่ไอ้ทินทำกับน้องสาวฉันเหมือนกัน"
"กับทินน้องสาวนายยินยอมพร้อมใจนี่... แต่กับฉัน ฉันไม่ได้ยอม"
คำว่ายินยอมพร้อมใจทำให้อาคินเดือดจนลุกขึ้นยืน แต่โฮปยืนขึ้นเช่นกัน เขาเดินมาขวางอาคิน และเผชิญหน้ากับนลินวิภา และสีหน้าโฮปนิ่งเรียบจนลืมใบหน้าใจดีเหมือนพระมาโปรดในช่วงเช้านี้ไปเลย
"ผมจัดการเองพี่อาคิน"
หญิงสาวหนึ่งเดียวคิดในใจว่าฝีมือการแสดงของโฮปก็ไม่เลวเหมือนกันนี่นา ต่อหน้าอาคินเขาแสดงว่าโกรธเกลียดเธอได้เหมือนจริงจนขนลุก "ที่ได้เมื่อคืนมันคงน้อยไป ฉันคงต้องสั่งสอนใหม่อีกรอบเธอถึงจะเปิดปากพูดสินะ"
"ไม่ต้องมาสั่งสอนอะไรฉันทั้งนั้น เรื่องที่นายทำเมื่อคืน ฉันไม่มีทางปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก" เธอหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ต้องแก้ผ้านอนด้วยกันแบบนั้น ให้มันเกิดขึ้นอีกไม่ได้หรอก
"ถ้าอย่างนั้นก็พูดมา ว่าที่ผ่านมาเธอกับไอ้ทินพยายามทำอะไรกันแน่... เข้ามาในชีวิตของอีฟเพื่อจุดประสงค์อะไร" โฮปถาม
นลินวิภาเสไปมองนอกหน้าต่าง เธอมักเผชิญหน้ากับใครไม่ได้เวลาโกหก สายเธอไม่เคยโกหกตามได้เลย
"ฉันกับทินเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ว่าต้องแยกกันทำงาน ช่วงที่เขามาไทยเขามาติดเอวิตา ฉันก็เลยบอกเขาไปว่าท้อง เขาก็เลยเลือกฉันและสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับคนอื่นอีก แต่ว่าเรายังอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะต่างคนต่างต้องไปทำงาน ฉันเลือกไปเที่ยวสวิสก่อนบินไปทำงานกับบริษัทที่ทำสัญญาไว้ที่เซี่ยงไฮ้เราตั้งใจจะไปเจอกันตอนนั้น พวกนายยังมีอะไรข้องใจอีกไหม"
"เมื่อวานไม่พูด พูดตอนนี้นี่เพราะว่าแต่งเรื่องอยู่ทั้งคืนหรือเปล่า"
นลินวิภามองอาคินที่แทรกขึ้นมาด้วยสายตาเฉยเมย แต่ในใจนั้นค่อนข้างเกลียดที่เขารู้ทัน
"ฉันพูดเรื่องจริง" หญิงสาวยังยืนยันเป็นกระต่ายขาเดียว
"ถ้าที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง ก็แสดงว่าไอ้ทินเป็นคนชั่ว" อาคินสรุป "ต่อให้เธอไม่บอกว่ามันอยู่ที่ไหน ฉันก็จะตามไปลากคอมันกลับมา" พูดอย่างเย็นชา
"ถ้าคิดว่าทินเลวจริงๆ ทำไมต้องพยายามไปดึงเขากลับเข้ามาด้วย เขาเลิกกับน้องสาวนายก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง"
"ฉันไม่ได้ลากมันกลับเข้ามาในชีวิตน้องสาวฉันอีก แต่ฉันจะลากมันมาจัดการให้หลาบจำว่าจะได้ไม่ต้องทำแบบนี้กับใครอีก หรือให้ดีก็จัดการให้มันไม่มีลมหายใจเหลือไว้ทำร้ายใครอีก"
"แต่..." หญิงสาวอ้าปากจะพูดแต่อาคินยกมือห้าม
"เมื่อเธอคิดจะปกป้องมันเราก็ไม่มีอะไรจะคุยกันอีก ถามจริงๆ คนแบบนั้นเธอยังอยากเก็บไว้ในชีวิตเหรอ มันแอบคบคนอื่นแต่เธอก็ยืนกรานจะปกป้อง มันแปลกนะที่เธอไม่ได้โกรธมันเลยที่ถูกนอกใจ" อาคินเดินมายืนข้างโฮป หรี่ตามองเหมือนประเมิน เธอหลบตาเขาอีกรอบในตอนที่พูด
"ฉันให้อภัยทินเพราะเขาเลือกฉันในตอนที่บอกเขาว่าท้อง เขามีความรับผิดชอบ อีกอย่างทินเป็นคนดี"
"เหรอ" เสียงอาคินเหมือนไม่เชื่อเลย
คนโกหกไม่เก่งชักจะเลือนไปแล้ว คงต้องท่องเรื่องที่พูดออกจากปากให้จำขึ้นใจ เพราะโกหกไปทั้งเพ หากให้พูดอีกครั้งจะจำได้ไหมเธอยังไม่แน่ใจ
"นายปล่อยฉันไปได้แล้ว"
"ไม่ได้หรอก ฉันยังต้องเก็บเธอไว้ล่อไอ้ทินมา" อาคินบอก ก่อนจะหันมาหาคนข้างตัว"โฮป วันนี้ฉันยกหน้าที่นี้ให้นายจัดการให้ดี อย่าให้หนีไปล่ะ ฉันหวังว่านายจะทำให้ผู้หญิงคนนี้คายข้อมูลออกมาบ้างนะ"
อาคินบอกแล้วก็เดินออกไป หญิงสาวทรุดลงนั่ง และถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ที่ไม่ต้องหาเรื่องมาโกหกเอาตัวรอดอีก
คนตัวโตทรุดลงนั่งมองขวดน้ำที่ถูกโยนทิ้งบนพื้นแล้วก็มองนลินวิภาที่นั่งหน้างออยู่ เธอหันมาหาเขาพอดี
"คุณเก่งนะ กล้าสาดน้ำใส่พี่อาคินด้วย ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน ไม่กลัวเขาเหรอ"
"กลัวทำไม ใครดีมาก็ดีไปร้ายมาก็ร้ายกลับ แค่นั้นยังน้อยไปน่ะสิ" หญิงสาวบอกอุบอิบ "นายบอกว่านายไม่เห็นด้วยที่เขาทำไม่ถูกต้องเรื่องฉัน... นายจะช่วยฉันหนีด้วยหรือเปล่า"
"การพาคุณหนีมันเสี่ยงกับผมมากเกินไป เขาไม่ปล่อยผมแน่"
หญิงสาวถอนหายใจยาว
"แล้วจะต้องทำยังไง"
"ผมว่าผมควรต้องรู้ความจริงก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป คุณเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังได้ไหม... ผมจะได้รู้ว่าเรื่องที่ผมรู้ทางฝั่งนี้กับเรื่องจากปากคุณตรงกันหรือเปล่า"
"ฉันก็บอกไปทั้งหมดแล้วไง"
"เมื่อกี้น่ะเหรอ ผมดูออกว่าคุณโกหก คุณไม่รู้ตัวหรือไงว่าเป็นคนโกหกไม่เนียน"
รู้สิ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนรู้ทัน นลินวิภาตอบเขาในใจแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ อีกรอบ มองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจ ไม่รู้ว่าเรื่องที่เล่าจะเล่าให้คนตรงหน้าฟังได้แค่ไหน ไม่รู้ว่าควรไว้ใจเขาในระดับใดอีกด้วย
พอเห็นเธอนิ่ง เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจ เธอเพิ่งสังเกตว่าเขายังสวมเสื้อคลุมและแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยรีบเบนสายตาไปมองอย่างอื่นแทนการมองเขา...
"ถ้าไม่คิดจะพูดก็ไม่เป็นไร นึกได้ว่าจะพูดเมื่อไหร่ก็ค่อยมาบอกแล้วกัน ผมจะไปนอนต่อ เมื่อคืนมาถึงดึกนอนไม่ค่อยหลับอีก" เขาทั้งพูดทั้งหาวนอนไปพร้อมกัน เหมือนไม่สนใจเธอเท่าไหร่นัก ประตูห้องที่เธอเพิ่งเดินออกมาถูกเปิดออก โฮปพาตัวสูงๆ ของเขาเข้าไปแล้วปิดประตู
ปลอดคน!
นลินวิภาหันไปหาทิศทางที่น่าจะเป็นประตูทางเข้าของเพนธ์เฮาส์ เดินพุ่งไปทันที โอกาสทองแบบนี้คงไม่ได้มีบ่อยๆ
หญิงสาวออกตัววิ่งแบบไม่คิดหน้าคิดหลังทันที
"หยุดนะครับ"
เพียงแค่วิ่งพ้นห้องนั่งเล่นมาเกือบถึงประตู เธอก็พบว่ามีห้องอีกห้องหนึ่งและคนที่หน้าตาเคร่งขรึมน่ากลัวที่นั่งอยู่ในห้องนั้นก็เดินมาขวางเธอก่อนที่เธอจะไปถึงประตู
"ออกไปไม่ได้ครับ คุณวิษุวัตสั่งไว้ว่าคุณอยู่ได้แค่พื้นที่ห้องนั่งเล่นด้านในกับห้องนอนเท่านั้นครับ"
"วิษุวัต" เธอทวนคำคนตรงหน้า "ใครอีกล่ะ"
"คุณโฮปครับ เขาให้เรียกชื่อเต็มถ้าไม่ได้เป็นคนในครอบครัวที่สนิทกัน คงยังไม่มีใครบอกคุณว่าเขาไม่ชอบให้คนนอกเรียกว่าโฮป คุณยังต้องเจอเขาอีกหลายวันเพราะคุณอาคินให้เขาเฝ้าคุณไว้ ถ้าจะพูดคุยกับเขาก็ระวังเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ" เขาผายมือเชิญให้เธอกลับไป แล้วยังบอกเรื่องที่ทำให้งงได้หนึ่งอย่าง
หมอนั่นคงเป็นลูกน้องที่เหนือลูกน้องของอาคินอีกทีสินะถึงสั่งได้ขนาดนี้ หญิงสาวคิดติดตลกในตอนที่เดินคอตกกลับมาที่ห้องรับแขก ป้าแตนเดินออกมาจากห้องครัวพอดี ตอนที่เห็นหน้าเธอนางก็เดินเข้ามาเรียก
"มากินข้าวเช้าเถอะค่ะ ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว อย่าคิดหนีเลยค่ะ ถ้าคุณโฮปไม่อนุญาตให้ไป คุณก็ไปไหนไม่ได้"
"ทำไมป้าเรียกเขาว่าโฮป แต่คนเฝ้าประตูเรียกอีกชื่อล่ะคะ" เธอยังสงสัยในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องชะตากรรมของตัวเองที่ป้าแตนบอกเธอพอรู้แล้ว
"ป้าเคยเจอคุณโฮปตั้งแต่เด็กค่ะ เรียกแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่คนนอกที่เพิ่งมาทำงานไม่สนิทเลยเรียกชื่อจริง"
"แล้วอย่างนี้ตอนนิ้งจะเรียกต้องเรียกว่าอะไรกันนะ"
"ลองถามคุณโฮปดูค่ะ"
"หมอนี่อนุญาตให้คนเรียกชื่อจริงชื่อเล่นเป็นรายๆ ไปแปลกเหมือนกันนะคะ"
ป้าแตนไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มๆ เดินนำนลินวิภาเข้ามาที่ห้องครัว คนที่อยากถามเรื่องของวิษุวัตก็เลยเลิกถามไปเสียเพราะคิดว่าไม่ได้คำตอบจากป้าแตนแน่นอน เพราะพยายามถามหลายคำถามแล้วก็ไม่ได้คำตอบ เลยคิดว่าคนงานเขาคงโดนเขาใส่โปรแกรมไว้แล้วแบบที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ฝีมือการทำอาหารของป้าแตนเป็นสิ่งเดียวที่เป็นเรื่องดีของสถานการณ์ที่พบเจอตอนนี้ เธอได้กินอาหารอุ่นๆ ในมื้อเช้า ในหัวนึกถึงคนที่อยู่อีกฟากฟ้า หวังว่าทินจะเชื่อว่าเธอเอาตัวรอดได้และไม่ได้กังวลจนออกตามหาเธอแล้วมาติดกับพี่ชายของเอวิตาเข้า...
ไว้โอกาสเหมาะๆ เถอะ นลินวิภาจะหนีไปให้ได้ แล้วจะติดต่อทินไปเองว่าเธอสุขสบายดีและปลอดภัยแล้ว เธอคิดว่าเธอจะทำเช่นนั้นได้ในอีกไม่นาน