10

1147 Words
10 รัฐภูมิก้มหน้ามองสาวน้อยที่นอนร้องไห้ตาบวม ปากสั่นระริก น้ำตาไหลพราก ใบหน้าแดงก่ำ ทรวงอกกระเพื่อมตามแรงสะอื้นของเจ้าตัว เขาไม่รู้สึกสงสารในวินาทีนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจะเห็น “จะมาโทษว่าฉันใจร้ายไม่ได้ เธอทำตัวเอง เธอมาขโมยของของฉันเอง โดนแค่นี้มันยังน้อยไป เธอต้องเจ็บมากกว่านี้ จะได้จำเข้าไปในสมองว่า อย่าริอ่านมาแหย่เสือหลับให้ตื่นเอง” ไม่มีความสงสาร ไม่มีความเมตตา ไม่มีวาจาอ่อนโยน ไม่มีคำปลอบประโลม จะมีเพียงแต่ความโกรธแค้น แรงโทสะ ความอาฆาตเท่านั้น แรงโยกไหวของกายหนุ่มจึงไม่มีความปรานี โหมกระหน่ำร่างสาว ขยับเขยื้อนร่างกายดั่งพายุที่บ้าคลั่ง “อา...อา...โอ๊ย!!...โอ๊ย!!” ความเจ็บนั้นมีมาก ความเสียวก็มีไม่น้อย ฤทธิ์ยาก็ยังไม่เหือดหายไปไหน จันยาวีร์จึงต้องแบกรับความกำหนัดต่อไปอย่างสุขๆ เจ็บๆ กลีบดอกไม้สาวถูกความเป็นชายตอกย้ำกระชั้นหนักหน่วง เร็วรี่และถี่แรง ทรวงอกสาวก็ไม่น้อยหน้าเจ็บร้าวจนบางครั้งเธอต้องใช้มือผลักมือแกร่งที่บีบเคล้นบงกชคู่งามอย่างไม่ทะนุถนอม ไม่เห็นคุณค่า สิ่งที่เขากอบกุมอยู่แทบจะหลุดออกไปจากร่างกายของสาวน้อยผู้น่าสงสาร “ฮือ...อา...ฮือ...อา...โอ๊ย!!!” สามเสียงนี้ยังคงสลับดังไม่ขาดสาย เฉกเช่นเดียวกับน้ำตาสาวที่ไหลรินลงมาเป็นทางยาว ขับประสานกับเสียงสะอื้น โดยมีเสียงกระแทกกระชั้นความเป็นชายเข้าใส่ความนุ่มที่เริ่มบวมจนเกิดเสียง...พลับ...พลับ “ยิ่งกระแทกแรงๆ ยิ่งมันดีจริงๆ โอว...” รัฐภูมิพูดพร้อมกับทำตาม เพิ่มจังหวะรักมากขึ้น แรงขึ้น หน่วงหนักมากขึ้น เรียวขางามที่แยกออกกว้างไปด้านข้าง ถูกมือใหญ่รวบรวมข้อเท้าด้วยฝ่ามือข้างหนึ่ง จับขาสวยโย้ไปด้านหน้าจนปลายเท้าอยู่เหนือศีรษะของจันยาวีร์ท่านี้ทำให้บั้นท้ายของเธอลอยสูง แต่มันไม่สูงอย่างที่เขาต้องการ เขาดันลำตัวสาวไปข้างหน้าเพิ่มมากขึ้น แรกเริ่มคือปลายเท้าอยู่เหนือศีรษะ แต่ตอนนี้หัวเข่าทั้งสองข้างอยู่เหนือศีรษะของเธอแทน ลำตัวสาวตั้งตรงเป็นมุมฉาก มีเพียงศีรษะ ลำคอ ช่วงบ่า ไหล่และลำแขน หัวเข่าของจันยาวีร์เท่านั้นที่สัมผัสกับพื้นที่นอน ร่างกายของรัฐภูมิตอนนี้เหมือนยืนคร่อมร่างกายของเธอ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าใช้มือทั้งสองข้างจับยึดติดหัวเตียงเอาไว้ งอหัวเข่าพอประมาณ หลังจากที่จัดระเบียบร่างกายจนพอใจแล้ว ชายร่างกายบึกบึนก็เริ่มสาดเกมสวาทขยับซอยเอวอีกรอบ “โอ๊ย!!...เจ็บค่ะ อา...ฮือ...โอ๊ย!!!...อา” ความเป็นชายของรัฐภูมิตอนนี้เหมือนปั้นจั่นขนาดมหึมาที่ตอกย้ำเข้ามาในความคับแคบของกลีบดอกไม้สาว เน้นหนักทุกจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นความแรง เร็ว หนักและอัดกระแทกด้วยพละกำลังทางเพศที่เหลือล้น กระโจนจ้วงแต่ละครั้งร่างอรชรแทบจะจมลงไปรวมตัวกับที่นอน “โอว...มันสุดๆ ลึกสุดๆ เสียวสุดๆ เลย...โอว” คนที่กระหน่ำร่างกายเข้าใส่เกิดอาการเสียวซ่านทุกขณะจิตที่เขาซอยกายแกร่งเข้าใส่ความนุ่มฟิตแน่นที่ทั้งบีบรัด ตอดตุ้บๆ เป็นความกระสันซ่านที่รัฐภูมิไม่เคยรู้สึกมากมายขนาดนี้มาก่อน เสียวตั้งแต่หัวจมดิ่งไปยังปลายเท้า แล้วไหลเวียนย้อนกลับขึ้นมาใหม่ ความสยิวแล่นริ้วเร็ว เลือดลมสูบฉีดแรง เขาจำเป็นต้องถาโถมตะบั้นร่างใส่แรงเร็วตามไปด้วย หนักแน่นจนสาวใต้ร่างร้องไห้กระซิก “โอ๊ย!!...อา...อา...จะ...เจ็บ” เขายังคงบ้าคลั่งสาดใส่ร่างกายอย่างเมามัน เสียงร้องของเธอประดุจชัยชนะที่แสนหอมหวาน มองเห็นใบหน้าทรมานของเธอครั้งใด ความเปรมปรีดิ์ ความสุขบังเกิดขึ้นในหัวใจของเขา รัฐภูมิถอนความเป็นชายออกจากกลีบสาว ร่างกายของจันยาวีร์ถูกปล่อยให้อยู่ในท่าปกติคือนอนราบไปบนที่นอน เขาก้าวลงมายืนข้างเตียงลากสาวร่างเล็กที่ระทวยอ่อนมานอนห้อยขาบนที่นอน พลันสายตาของเขาสะดุดอยู่ตรงหยดเลือดสีจางที่หยดลงบนผ้าปูที่นอนสีขาว ย้ำให้เขารู้ว่าสาวร่างสวยคนนี้ไร้มลทิน หัวใจของเขาเกิดความเอิบอิ่มอย่างไม่รู้ตัว แต่ความแค้นเคืองมีมากกว่าทำให้เขาปัดความนึกคิดนั้นออกไป ร่างสาวถูกพลิกคว่ำหน้าแนบกับที่นอน จับขาทั้งสองข้างของจันยาวีร์พับงอ หัวเข่าคุดคู้อยู่ริมเตียง ช้อนบั้นท้ายที่ลอยเด่นขึ้นสูงให้สูงถึงระดับความเป็นชายของเขา สอดกายประสานเป็นหนึ่ง “อา...อา...อา” จันยาวีร์เริ่มร้องครางเมื่อเขาขับเคลื่อนร่างกายทันทีที่นำพาความยิ่งใหญ่เข้าไปจนสุด ลากยาวๆ ออกมาจนเกือบสุดลำตัวจากนั้นก็กระชั้นกายเข้าไปใหม่ คราวนี้เขาไม่เร่งรีบที่จับจังหวะให้เร็ว เนิบช้า รัฐภูมิก้มมองทุกจังหวะที่เขาส่งกายชายเข้าใส่ร่องกลีบสาว เพราะการที่เขาก้มมองการเคลื่อนไหวนั้นอยู่ ความกระสันเสียวมันก็เพิ่มพูนมากขึ้น เวลาผ่านไปสักพักแรงกระแทกก็เปลี่ยนไป “โอว...สุดยอด เสียวสุดยอด” เสียงของรัฐภูมิเต็มไปด้วยความสุข “จะ...เจ็บ ...อา...โอ๊ย!!” เสียงของจันยาวีร์อ่อนแรงมีความเจ็บปวดรวมอยู่ในประโยคนั้น “เจ็บเหรอ นั่นแหละที่ฉันต้องการ” เขาพูดเสียงสั่น ใช้ฝ่ามือตีลงบนแก้มก้นขาวทั้งสองข้าง บีบและขย้ำพลางกระแทกใส่ไม่ลดละ กลีบดอกไม้สาวร้าวระบมไปทั่ว อวัยวะภายในถูกดันถูกกระแทก ถูกทารุณด้วยการร่วมรักแสนเร่าร้อน หัวใจดวงน้อยหนาวยะเยือกเสมือนร่างกายที่มีความรู้สึกบางอย่าง วิ่งขนานคู่กับความเจ็บปวด ฤทธิ์ยากระตุ้นความปรารถนาให้ตอบสนองบทรักโดยปริยาย แม้ว่าเธอจะเจ็บร้าวกลีบสาวมากเพียงใด ทว่าความสุขจากการเสพสมนั้นยังคงมีอยู่ มันอาจจะเป็นความสุขที่ไม่ได้เกิดจากสภาพร่างกายและจิตใจของจันยาวีร์ อย่างน้อยก็ช่วยระบายฤทธิ์ของยาให้ออกไปจากร่างกายของเธอได้บ้าง หมอกสีจางลอยอยู่เหนือใบหน้าสาว ภายในม่านหมอกนั้นจันยาวีร์มองเห็นเค้าโครงสร้างของสิ่งสวยงามที่ปลูกอยู่เต็มพื้นที่สีเขียวขจี มันเหมือนสรวงสวรรค์สำหรับเทวดา นางฟ้า เธอพยายามเอื้อมมือนั้นผ่านหมอกสีจาง แต่ไขว่คว้าไม่ได้ มันเหมือนกับว่าร่างของเธอกำลังจะตกฮวบลงไปยังพื้นดิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD