บทที่ 7

1170 Words
นาฬิกาข้อมือยี่ห้อดังราคาแพงบอกเวลาสามนาฬิกา ราเอลซึ่งอยู่ในชุดสีดำสนิท มืดมิดไม่ต่างจากราตรีกาลในค่ำคืนนี้ ได้ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เจ้าพ่อหนุ่มเปิดประตูห้องออกช้าๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ด้านนอก ก็รีบเดินเร็วๆ เกือบเป็นวิ่งด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาตรงไปยังห้องพักของลูกชายตนเอง ฟรานส์ทำงานได้ดีเยี่ยม เข้าพักในรีสอร์ทของทิมนิดาได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็รายงานให้ผู้เป็นเจ้านายทราบว่าริวาพักอยู่ในห้องไหน ราเอลอาศัยความมืดในยามราตรีเดินเร็วๆ ตรงไปยังเป้าหมายที่รออยู่ข้างหน้า เมื่อมาถึงห้องที่ลูกชายตนเองเคยเข้าพักแล้ว ราเอลได้ใช้ความสามารถที่เรียนรู้มาจากเส้นทางของการเป็นเจ้าพ่อ เปิดประตูห้องพักได้ภายในไม่กี่นาที ไฟฉายอันเล็กที่เตรียมมาด้วย ถูกเปิดใช้งานในทันทีที่เข้ามาภายในห้องได้แล้ว แต่ไม่ทันได้กวาดส่องไปทั่วบริเวณห้องควานหาสิ่งที่ตนเองต้องการ ก็ต้องสบถลั่น ยกเท้าเตะลมด้วยความโกรธจัด กับน้ำเสียงราบเรียบที่เค้นทักทายอยู่ด้านหลังตนเอง “ไฟฉายเล็กไปไหมคะคุณราเอล เปิดไฟให้ทั่วห้องดีกว่าไหมคะ” “บ้าชะมัด” ราเอลสบถลั่น หันขวับไปทางด้านหลังของตนเอง พร้อมๆ กับแสงไฟจากหลอดนีออน ที่ถูกเปิดให้ความสว่างไสวทั่วห้องพักแห่งนี้ ทิมนิดายืนกอดอกจ้องมองราเอลเขม็ง หญิงสาวเดาไว้ไม่มีผิดว่าราเอลจะต้องทำตัวไม่ต่างจากหัวขโมยดอดเข้ามาในห้องพักของริวา จึงมาดักรออีกฝ่ายอยู่ในห้องแห่งนี้ และการเฝ้ารอหลายชั่วโมงก็ไม่เสียเปล่า เมื่อราเอลได้แอบเข้ามาในห้องนี้จริงๆ “บุกรุกในยามวิกาลแบบนี้ แจ้งตำรวจให้ลากคอคุณเข้าคุกเลยดีไหมคะคุณราเอล” ทิมนิดาเค้นถามอย่างประชดประชัน สร้างความโมโหให้กับเจ้าพ่อหนุ่มเป็นอย่างมาก “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะเข้ามาในห้องของริวา” ราเอลถามเสียงห้วน โมโหตัวเองที่ประเมินทิมนิดาต่ำไป คิดว่าหญิงสาวคงมีดีแค่เพียงรูปกายที่สวยงาม แต่สมองกลวงเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยเจอมา ทว่า...ทิมนิดาไม่ได้เป็นเหมือนดั่งที่เขาคิดไว้แม้แต่นิดเดียว ทิมนิดายักไหล่เลียนกริยาที่ราเอลมักจะทำใส่เธอเสมอ ก่อนจะเอ่ยตอบกวนๆ เพิ่มความโมโหโกรธาให้กับคนตั้งคำถาม “มีพรายกระซิบมั้งคะ ว่าจะมีขโมยมางัดแงะเข้ามาในคืนนี้ เลยก็รีบมาดักรอทันทีที่ฟ้ามืดลง” ราเอลกัดฟันกรอด ตั้งแต่เดินเข้าสู่เส้นทางของความเป็นเจ้าพ่อ เขาไม่เคยเสียเหลี่ยมให้กับใครมาก่อน โดยเฉพาะกับสุภาพสตรียิ่งไม่เคย! “รู้ว่าผมเป็นหัวขโมยก็ดีแล้ว หลบไปไกลๆ ผมจะดูของใช้ส่วนตัวของริวา” “คนที่จะออกคำสั่งนี้น่าจะเป็นฉันต่างหากนะคะ ที่สั่งให้คุณออกไปจากห้องนี้” ทิมนิดาย้อนกลับ พอเห็นว่าราเอลกำลังจะเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า ก็รีบเดินไปดักหน้าอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว “หลีกไป นกยูง” ราเอลออกคำสั่งเสียงห้วนจัด โกรธตัวเองที่เสียท่าให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างทิมนิดาไม่พอ ยังโกรธหญิงสาวที่ดื้อรั้นอย่างถึงที่สุด ออกคำสั่งได้ก็ออกไปเถอะ แต่สาบานได้ว่าทิมนิดาไม่มีทางทำตามอย่างแน่นอน “ไม่! ฉันไม่หลีกทางให้คุณเด็ดขาด” “นรก!” ราเอลสบถลั่น ใบหน้าบึ้งตึง ดวงตาวาวโรจน์ราวกับฆ่าคนตรงหน้าได้ ขณะเค้นเสียงตะคอกในประโยคต่อมา “ทำไมคุณต้องห้ามผมด้วย ในเมื่อสิ่งที่ผมต้องการค้นหานั้น มันเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป และเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของลูกชายผมทั้งสิ้น” ทิมนิดาได้สติกับคำตะโกนต่อว่าของราเอล จึงยอมหลีกทางให้อีกฝ่าย แต่กระนั้นก็ไม่วายเหน็บราเอลกลับคืนบ้าง “ก็ได้ค่ะ เห็นแก่คุณริวา ฉันจะยอมให้คุณทำตามที่ต้องการ เชิญค้นให้ทั่วห้องได้เลยค่ะ” “ขอบคุณ!” ราเอลประชดเสียงห้วน ขณะเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า ก็จงใจใช้ไหล่ข้างหนึ่งกระแทกทิมนิดา ทำเอาร่างบางถึงกับเซถลาแทบล้มลงไปนั่งกับพื้น “คนบ้า ตัวใหญ่ยังกับยักษ์ ยังจะเดินชนคนอื่นอีก” ทิมนิดาต่อว่าด้วยความโมโห จากนั้นก็เดินไปทรุดกายลงนั่งอยู่บนขอบเตียง จับสายตาเฝ้ามองราเอล ที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางของริวา มาเปิดค้นดูข้าวของที่อยู่ภายใน ราเอลหมดความสนใจในตัวทิมนิดา เจ้าพ่อหนุ่มรื้อค้นกระเป๋า และทุกอย่างที่อยู่ภายในห้องพักแห่งนี้ เพื่อหาเบาะแสการหายตัวไปของลูกชาย ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ราเอลก็ต้องคว้าน้ำเหลว เมื่อไม่พบในสิ่งที่เขากำลังค้นหาอยู่ ของใช้ส่วนตัวของริวายังอยู่ครบเกือบทุกอย่าง แต่ที่หายไปคือเอกสารส่วนตัวของริวา ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัว พาสปอร์ต บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ซึ่งราเอลไม่อาจคาดเดาได้ว่าริวานำเอกสารเหล่านี้ติดต่อไปด้วย หรือว่าเก็บไว้ในเซฟ ที่เขาไม่มีโอกาสได้เปิดดูสักที “เจอสิ่งที่คุณกำลังตามหาอยู่ไหมคะ” ทิมนิดาเอ่ยถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดภายในห้อง หลังจากปล่อยให้ราเอลรื้อค้นภายในห้องเป็นเวลานานแล้ว “ไม่...ไม่พบอะไรทั้งนั้น” น้ำเสียงที่เอ่ยตอบออกมานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง ระคนเป็นห่วงในตัวลูกชาย ซึ่งขาดการติดต่อกับเขาหลายวันแล้ว “ทำไมคุณไม่ให้ตำรวจช่วยตามหาลูกชายของคุณล่ะคะ” ทิมนิดาสงสัยเรื่องนี้มานาน เพราะดูท่าว่าเจ้าพ่อผู้นี้จะจัดการเรื่องการตามหาลูกชายที่หายไปด้วยตนเองซะทุกอย่าง แทนการอาศัยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ผมไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น และผมเชื่อว่าผมกับลูกน้องสามารถจัดการเรื่องนี้ได้” “คุณพูดว่าไม่ไว้ใจ หมายความว่าไม่ไว้ใจในฝีมือของตำรวจไทยหรือคะ” “เปล่า! แต่ไม่ไว้ใจว่าจะไม่มีคนมีสี มาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของริวาต่างหาก” ราเอลเอ่ยตามความเป็นจริง บ่อยครั้งที่คนเหล่านี้มักจะเข้ามาเกี่ยวข้องในทางที่ไม่ดีกับคดีดังๆ ที่มีเงินจำนวนมหาศาลรออยู่ข้างหน้าด้วย “ฉันไม่คิดว่าจะมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของริวา” ทิมนิดาพยายามพูดถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในทางที่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD